การอ่านออกเสียงคำในภาษาอังกฤษ เป็นการอ่านออกเสียงที่ยากเพราะไม่ใช่ภาษาแม่จึงไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันของนักเรียน และครู ตลอดจนผู้ปกครอง จึง ทำให้เกิดปัญหาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องเรียน เรื่อง การอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่ายังมีนักเรียนไม่สามารถอ่านคำ และสะกดตัวอักษรภาษาอังกฤษได้ เนื่องจากผู้เรียนขาดทักษะการอ่าน การประสมคำ นักเรียนมีพื้นฐานการเรียนรู้ในระดับชั้นอนุบาลแตกต่างกันจึงไม่ได้ฝึกพื้นฐานการอ่านเท่าที่ควร ดังนั้นนักเรียนจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข และได้จัดทำโครงการวิจัย เพื่อแก้ปัญหาการอ่านภาษาอังกฤษขึ้น
รายงานผลการวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง : ชื่อเรื่อง การแก้ปัญหาการอ่านภาษาอังกฤษไม่ได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน
บ้านนาลับแลง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
ผู้วิจัย : นางสาวจรีภรณ์ ทิศอาจ
เวลาที่ทำวิจัย : 7 มิถุนายน – 30 กันยายน 2549
การอ่านออกเสียงคำในภาษาอังกฤษ เป็นการอ่านออกเสียงที่ยากเพราะไม่ใช่ภาษาแม่จึงไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันของนักเรียน และครู ตลอดจนผู้ปกครอง จึง ทำให้เกิดปัญหาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักเรียนที่ต้องเรียน เรื่อง การอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่ายังมีนักเรียนไม่สามารถอ่านคำ และสะกดตัวอักษรภาษาอังกฤษได้ เนื่องจากผู้เรียนขาดทักษะการอ่าน การประสมคำ นักเรียนมีพื้นฐานการเรียนรู้ในระดับชั้นอนุบาลแตกต่างกันจึงไม่ได้ฝึกพื้นฐานการอ่านเท่าที่ควร ดังนั้นนักเรียนจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข และได้จัดทำโครงการวิจัย เพื่อแก้ปัญหาการอ่านภาษาอังกฤษขึ้น
จากการสังเกตการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง
การอ่านพบว่ายังมีนักเรียนไม่สามารถอ่านคำ และสะกดตัวอักษรภาษาอังกฤษได้ เนื่องจากผู้เรียน
ขาดทักษะการอ่าน การประสมคำ นักเรียนมีพื้นฐานการเรียนรู้ในระดับชั้นอนุบาลแตกต่างกันจึงไม่ได้ฝึกพื้นฐานการอ่านเท่าที่ควร ดังนั้นนักเรียนจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข และได้จัดทำโครงการวิจัย เพื่อแก้ปัญหาการอ่านภาษาอังกฤษขึ้น
แนวทางการแก้ไขปัญหา
- แบบฝึกทักษะการอ่านที่หลากหลาย
- การใช้สื่อบัตรคำ ข้อความสั้น ๆ และสื่อที่ที่ช่วยในการอ่านออกเสียง
วัตถุประสงค์
เพื่อแก้ปัญหาการการอ่านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน
บ้านนาลับแลง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
วิธีการวิจัย
1. กลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านนาลับแลง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2549 จำนวน 3 คน
2. วิธีการ และนวัตกรรมที่ใช้
- จัดเตรียมเอกสารแบบฝึกทักษะการอ่าน ใช้เทคนิคที่หลากหลาย และเหมาะสม
- จัดเตรียมความประเมินความก้าวหน้าในการอ่าน
- ทดสอบการอ่าน
- บันทึกความก้าวหน้าการอ่านของผู้เรียนเป็นระยะ
- รวบรวม และสรุปผลการวิจัย
3. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
เก็บรวบรวมข้อมูลจากการทำกิจกรรมในแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านภาษาอังกฤษ จำนวน 3 ชุด และจากการทดสอบการอ่าน
4. วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
- เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนที่อ่านได้ในแต่ระครั้ง
- จากแบบทดสอบในแต่ละชุด โดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละ
สรุป และสะท้อนผล
จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลสรุปได้ว่าสาเหตุปัจจัยที่ทำให้กลุ่มผู้เรียนค่อนข้างอ่อนในทักษะการอ่าน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เพราะขาดความรู้ ความเข้าใจขั้นพื้นฐาน และการฝึกฝนการอ่านที่ดี และปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
ปรากฏว่าเมื่อผู้สอนนำกลุ่มผู้เรียนเหล่านี้มาวิจัย และฝึกฝนให้ผู้เรียนได้เข้าใจในทักษะการอ่าน และฝึกทักษะการปฏิบัติ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเป็นรายบุคคล กลุ่มผู้เรียนเกิดการพัฒนาตนเอง จากเดิมอ่านไม่ได้ และสะกดไม่ถูกต้อง ผู้เรียนได้มีการพัฒนาการอ่านได้เพิ่มขึ้นตามลำดับ จากผลคะแนนในแต่ละชุด
การอ่านคำ และข้อความเหล่านี้ ผู้เรียนสามารถนำสิ่งที่อ่านไปประยุกต์ในการเรียนระดับสูงขึ้นต่อไป เช่น การแนะนำตนเอง บอกกิจวัตรประจำวัน อ่านป้ายห้องเรียนต่าง ๆ
http://gotoknow.org/blog/yahoo/18565
(Star fall) for children practice pronunciation
http://gotoknow.org/blog/yahoo/25457
(Story place) for listening
ขอบคุณนะคะ
คงต้องลองละค่ะ
ใช้กิจกรรมที่หลากหลาย
เหมาะสมกับผู้เรียน ซึ่งดีค่ะ
เด็ก ๆ ชอบมากค่ะ
Dinosaur dance
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้
สวัสดีวันศุกร์นะคะ
My dog
I love my dog.
sunday say hi.
not only children but me also have problems
practice reading every day.
Eventually..
It would be great.
...
You..can do.
ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ แต่เด็กๆ ก็ยังมีปัญหามากเหมือนกันค่ะ
วิจัยก็แนวทางที่จะช่วยเด็กๆของเราได้นะค่ะ
พยายามอยู่ค่ะ
ขอบคุณมากนะคะคุณครู
สวัสดีวันเข้าพรรษานะคะ
๒๙ กรกฎาคม
ฉันรักภาษาไทย
สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ
reading is living..
สวัสดีปีใหม่ 2556 ..happy new year 2013..
"อิ่มสุข ทุกข์หมด"
การทำตนให้มีความสุขทั้งกาย
และใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วัน
ย่อมทำให้ความทุกข์ลดน้อยถอยลงด้วยเช่นเดียวกัน
และเมื่อถึงวันหนึ่งก็อาจจะไม่มีความทุกข์
หลงเหลืออยู่ในกายและใจตนเลย
"When happiness comes,
misery goes away" -
If one increases the feeling of happiness
in one’s mind and body every day,
one’s misery will be reduced.
Then one day not the slightest
traces of misery will remain in
one’s body and mind.
ทรงพระเจริญ long live the king 5 ธันวาคม
happy day