ถักไหมพรมห่มต้นไม้
สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอนำเรื่องแปลกๆเกี่ยวกับไหมพรมมาฝากกันค่ะ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับต้นไม้ และก็ ไหมพรม ส่วนจะเกี่ยวข้องกันอย่างไรนั้น เรามาดูกันดีกว่าค่ะ
ใครที่มีโอกาสไปเที่ยวเมืองเยลโลว์ สปริงส์ ในรัฐโอไอโอ สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คง แปลกใจ เมื่อมองไปทางไหน ก็เห็นต้นไม้มีคนปีนป่ายขึ้นไปถักไหมพรม ห่อหุ้มกิ่งก้าน และลำต้นให้ ราวกับว่ากลัวต้นไม้จะหนาวตายยังงั้นล่ะ?
แต่เรื่องนี้ที่จริงไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เหมือนเส้นไหมพรม และมีคำตอบง่ายๆ ก็คือ นี่เป็น งานศิลปะ ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ไปแล้ว นับแต่มีใครก็ไม่รู้เคยไปถักไหมพรมสีทอง มีรูปใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ห่มต้นไม้ต้นหนึ่ง และเขียนคำว่า Knitknot Tree (นิตน็อต ทรี) ไว้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
จากนั้นเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็เริ่มมีชาวบ้านออกมาแสดงฝีมือถักไหมพรม ห่มต้นไม้ตามถนนหนทางกันอย่างสนุกสนาน แถมยังมีผู้คนนำรูปถ่ายของครอบครัวบ้างล่ะ,หรือไม่ก็บทกวี ไปผูกห้อยไว้ตามต้นไม้ หรือบางคนก็นำจดหมายเขียนเรื่องตลก ขำๆ ไปใส่ไว้ใน กระเป๋าไหมพรม ที่มีคนถักติดไว้กับต้นไม้ เผื่อว่าจะมีใครหยิบไปอ่านเล่น ผู้คนต่างมีความสุขกับสิ่งเหล่านี้ และยังมีชาวบ้านจากต่างเมืองเดินทางมาเที่ยวดู มาถ่ายรูปกับต้นไม้เหล่านี้เก็บไว้ บางคนก็นำข้าวของต่างๆ มายัดใส่ในกระเป๋าไหมพรม สิ่งที่ทำให้การถักไหมพรมห่มต้นไม้ในเมืองเยลโลว์ สปริง กลายเป็นสิ่งโดดเด่น ก็คือ มันกลายเป็นกิจกรรม งานศิลปะ ที่เกิดจากความร่วมมือ ร่วมใจของผู้คนในชุมชน คอร์รีน เบย์รักตาโรกู ศิลปินนักถักไหมพรม ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ริเริ่มโครงการ นิต น็อต ทรี (Knit Knot Tree) กล่าว
ส่วน แครอล ฮัมเมล ศิลปินในกลุ่มบุกเบิกอีกคน ซึ่งเคยทุ่มเทเวลาถึง 500 ชั่วโมง นั่งอยู่บนเครนไฮโดรลิก เพื่อถักนิตติ้งห่มต้นไม้ใหญ่ ที่ยืนตะหง่านอยู่ที่หน้าศาลากลางเมืองคลีฟแลนด์ ไฮก์ รัฐโอไฮโอ เมื่อหลายปีก่อนก็ว่า ตอนนี้มีผู้คนหลายเมืองเริ่มเลียนแบบ นำไปทำกับต้นไม้ในบ้านเมืองของพวกเขากันเยอะแยะ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ชาวบ้านในเมืองโคลัมบัส รัฐอินเดียน่า ก็พากันถักไหมพรม พันต้นไม้ที่เรียงรายอยู่บนถนนใหญ่สายหนึ่งจำนวน 33 ต้น แล้วยังมีชาวบ้านในเมืองชาร์ลส์ตัน รัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย ที่ถักไหมพรมพันต้นไม้ ยังไม่พอ ยังมีการถักไหมพรมพันรอบลูกบิดประตูบ้านด้วย ส่วนที่เมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ก็มีนักถักนิตติ้งไปช่วยกัน ถักไหมพรมหุ้มม้านั่งในสวนสาธารณะ หรือไม่ก็ถักไหมพรมหุ้มเสาอากาศรถ หุ้มเสาโทรศัพท์ และหุ้มขวดเบียร์
แนนซี เมลลอน เล่าถึงภาพที่เธอเห็นบ่อยๆ ระหว่างถักไหมพรม พันต้นไม้ที่เมืองเยลโลว์ สปริงส์ ว่า ผู้คนมักจะชอบมาแตะ มาจับดูต้นไม้ ส่วนเด็กๆ ก็ชอบ ล้วงมือไปค้นในกระเป๋าไหมพรมดูว่ามีของอะไรใส่อยู่ในนั้นบ้าง ระหว่างถักไหมพรม ฉันยังเคยเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่เดินผ่านมาและเข้ามาพูดกับฉันว่าขอบคุณนะ ขณะที่ ลินดา เซิร์ก เผยความรู้สึกว่า ศิลปะชิ้นนี้ มันทำให้เยลโลว์ สปริงส์ มีสีสัน สดใสสมชื่อ ที่สำคัญมันทำให้ฉันยิ้มได้ นั่นล่ะคือสิ่งที่ฉันชอบ
แปลกจริงๆด้วยนะคะเรื่องนี้ ที่บ้านเราจะมีใครถักไหมพรมให้ต้นไม้มั่งไหมหนอ? ( แต่เท่าที่เห็นในบ้านเรา Charmmy เห็น ผ้า 7 สี กับ พวงมาลัย 7 สีค่ะ อันนี้ก็เต็มต้นไม้เหมือนกัน หุหุ )
ความเห็น (8)
โอะ น่าอิฉาแทนเด้กยากจนในเขตพื้นที่หนาวทั่วโลกนะครับ
บางคนเสื้อผ้ายังไม่ค่อยจะมีกันเลย
นานาจิตตังครับผม
เข้าท่ามาก ทำเป็นเมืองท่องเที่ยวได้เลย
@ คุณบันทึกของผมเอง >>> อันนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ ถ้าเอาไหมพรมถักพวกนี้ไปถักเป็นเครื่องนุ่งห่มให้เด็กเหล่านั้น
ก็คงจะดีไม่น้อย แต่ในมุมนี้เขามองว่าเป็นงานศิลปะค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาแบ่งปันความเห็นนะคะ
@ อาจารย์โย >>> อันนี้ใช่เลยค่ะ เขาทำเป็นงานอดิเรก นอกจากจะเป็นความชอบส่วนตัวแล้ว ยังมีคนมาแวะดู
แวะถ่ายรูป และทำให้เดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวได้เลยค่ะ ^^
สวยมากค่ะ แปลกดีด้วย ใช้ไหมพรม เป็นจิตวิทยาการขอให้คนมาเที่ยวชมและสนใจไหมพรมได้เลยค่ะ
สวยดีค่ะ แบบนี้เมืองไทยน่าจะทำบ้าง
แต่ถ้าทำ เอิงว่าคงโดนพวกมือบอน
มาทำลายงานสวยๆ แน่เลย อิอิ
บุญรักษาค่ะ
แปลกแต่จริงล่ะครับ งานนี้
สวยมากครับ
ขอบคุณที่ให้ผมได้เปิดหูเปิดตาครับ
สวยมากเลยนะค่ะ เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างดีเลยนะค่ะเนี่ย
คุณชามลองทำบ้างนะค่ะ ^_^ เริ่มจากต้นไม้หน้าหอพักก่อนเลยค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ
@ คุณ Orn >>> อันนี้น่าเอาไปคิดต่อค่ะ ขอบคุณที่แนะนำนะคะ
@ คุณ sOul >>> เมืองไทยเรา ชามเห็นผ้า 7 สี พวงมาลัย 7 สี อันนี้ก็ดึงดูดผู้คนได้เหมือนกันนะคะ
โดยเฉพาะวันใกล้วันหวยออก หุหุ
@ คุณ Fruiterman >>> ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ แวะมาเปิดหูเปิดตาได้บ่อยๆนะคะ หะหะ
@ คุณ PangJung >>> อันนี้ชามขอปรึกษา หารือกับเจ้าของหอก่อนนะคะ แฮ่ะๆ