ทักษะการแก้ปัญหาของเด็ก


การสอนเสริมนักเรียนที่มีคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์หรือขาดเรียนอาจทำโดยใช้เพื่อนที่เก่ง หรือมุ่งมั่นจะสอน

"เด็กหญิงข้างโต๊ะ กับเพื่อนแก้มยุ้ย"

       เช้านี้นัดหมายกับสองสาวของห้อง 5/3 เพราะสาวหนึ่งที่ครูนกเคยเล่าเรื่องเด็กหญิงข้างโต๊ะ สอบวิชาเคมีไม่ผ่านอีกแล้ว ให้สอบแก้ตัวก็ไม่ผ่าน กับสาวแก้มยุ้ยซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องไปนอนที่โรงพยาบาลด้วยป่วยเป็นไข้เลือดออก
       เมื่อต้นสัปดาห์หลังจากครูนกสอนเสร็จสาวแก้มยุ้ยกับเด็กหญิงข้างโต๊ะก็เดินมาหาพร้อมคำปรึกษาอีกหนึ่งกระบุ้งว่า เธออยากเติมเต็มเนื้อหาในช่วงที่เธอหายไป อีกคนก็อ่านแล้วแต่ยังทำข้อสอบไม่ได้อีก ครูนกเลยบอกว่า กรณีสาวแก้มยุ้ยหาเพื่อนที่เก่งช่วยสอนให้ถ้าไม่เข้าใจมาถามครู ส่วนเด็กหญิงข้างโต๊ะก็ต้องสอบใหม่อีกครั้ง แต่เจ้าตัวก็บอกครูนกว่า หนูไม่อยากสอบใหม่ หนูอ่านมาแล้วแต่ยังตกอีกครูต้องช่วยแนะนำวิธีการอ่านหนังสือให้หนู ครูนกก็ต้องแนะว่า อ่านแล้วต้องจับประเด็น สรุปความสำคัญ ความเกี่ยวข้อง ความต่างของสิ่งที่คล้ายกันให้ได้ ครูนกเลยถามย้ำว่า ที่อ่านมาคิดว่าเข้าใจจริงหรือเปล่า  ทำให้กลายเป็นที่มาของเพื่อนสอนเพื่อนคือ เด็กหญิงข้างโต๊ะอาสาสอนเนื้อหาโปรตีนให้กับสาวแก้มยุ้ย 


      คราวนี้เวลาที่เหมาะสมในการสอนคือ 07.10 น. จนถึงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติครูนกไปถึงโรงเรียนปรากฏว่า ทั้งสองสาวไปรอครูนกเรียบร้อยแล้ว ต้องขอชมเรื่องการตรงต่อเวลา จากนั้นเราก็ยึดพื้นที่โต๊ะอ่านหนังสือพิมพ์ของครูในห้องพักครูกัน ครูนกเป็นฝ่ายคอยฟังและคอยเสริมเนื้อหาขณะที่เด็กหญิงข้างโต๊ะอธิบายสาวแก้มยุ้ย ซึ่งเขาทำให้ครูนกทึ่งมากๆ ด้วยการเตรียมการสอนซึ่งบอกว่า เตรียมมา 3 วันจากเนื้อหาและคุณภาพต้องยอมรับว่า เธอเตรียมได้ดีมาก
       เธอใช้สมุดวาดเขียนเล่มเล็กทำหน้าที่เป็นกระดานอัจฉริยะเพราะมีข้อมูลสำคัญๆ อยู่ครบถ้วนโดยมีการเขียนแผนผัง  หรือข้อความที่พร้อมใช้ประกอบคำบรรยาย มีการเขียนสูตรโครงสร้างทางเคมี หรือการแสดงการเกิดพันธะเคมีไว้อย่างเป็นระบบ ซึ่งเธออธิบายพร้อมให้ความรู้เพื่อนได้เป็นอย่างดี อาจจะติดขัดในบางจุดที่ตนเองยังไม่กระจ่างครูนกก็ช่วยอธิบายให้ทั้งสองคนเข้าใจ และผู้สอนเองก็คอยถามเพื่อนเป็นระยะว่า เข้าใจหรือเปล่า งานนี้ครูนกประเมินให้เด็กหญิงข้างโต๊ะผ่านเพราะจากการอธิบายบ่งบอกว่าเธอเข้าใจในเนื้อหา แต่ต้องสอนเทคนิคการทำข้อสอบกันต่อไป  ส่วนเพื่อนที่ขาดเรียนก็ได้เติมเต็มเนื้อหาจากเพื่อนที่เตรียมตัวมาอย่างดี และจากครูที่คอยเสริมในจุดที่ยากเกินความสามารถของนักเรียนในการอธิบาย  งานนี้ครูนกยกให้เธอทั้งสองคนผ่านเรื่องการคิดแก้ปัญหา สรุปการสอนเพื่อนของเด็กหญิงข้างโต๊ะประสบความสำเร็จได้เพราะ 1.  การเตรียมวางแผน 2. ความมุ่งมั่นและอดทน 3.  นักเรียนมีแรงจูงใจใฝ่ สัมฤทธิ์  ตอนสอนจบครูนกก็เลยถามนักเรียนทั้งสองคนว่าจะเรียนคณะอะไรเพราะเหลือเวลาประมาณ 10 เดือนนักเรียนก็ต้องเลือกคณะที่ตนเองชอบแล้ว สาวแก้มยุ้ยยังไม่มีคำตอบ แต่เด็กหญิงข้างโต๊ะบอกครูนกว่า หนูจะเรียนคุรุศาสตร์ ครูก็ภาวนาให้หนูดำเนินตามฝันของหนูได้สำเร็จ และเชื่อมั่นว่า หนูจะเป็นครูที่ดีหรือมีอาชีพที่ดีเพราะมีใจใฝ่เรียนรู้ทั้งสองคนนะค่ะ

หมายเลขบันทึก: 333923เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2010 22:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับ

มาเชียร์เด็กๆกับคุณครูครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณ น้องcapuchino ที่มาเป็นกองเชียร์ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณเพชร พรหมสูตร์

ค่ะ...ครูนกก็ว่าดีในเรื่องดีจริงๆ เพื่อนสอนเพื่อน

ขอคุยด้วยนะคะ

ตอนนี้มีการโจมตีมากว่าเด็กอ่านไม่ออกเราเป็นครูด้วยกันหนักใจนะ อะไรก็โทษครูทั้งๆที่ทุกคนต้องมีความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ครูทุกคนก็มีจิตรของความป็นครูอยู่แล้ว กิจกรรมที่สอนอยู่คือทำกิจกรรมทุกอย่างให้เด็กมีส่วนร่วมคิดร่มทำร่วมอ่าน เพื่อนช่วยเพื่อน ผู้ปกครองช่วยลูก ผลออกมาก็ดีกับนักเรียน กิจกรรมของครูนกดีมากค่ะ แต่เด็ก ป.1 ก็ทำได้เช่นกัน ใช้"คุณธรรมนำการคิด"

สวัสดีค่ะ คุณครูเสน่ห์

เด็กเป็นผลผลิตโดยตรงของครอบครัว...และมาตกแต่งโดยคุณครูและสังคม....ทุกอย่างต้องร่วมกันค่ะ ขอบคุณนะค่ะสำหรับการร่วมแสดงความคิดเห็นในแง่มุมของการพัฒนาเด็ก.....ครูนกถือว่าปัญหามีให้แก้...และเด็กก็มีไว้ให้สอนเช่นกัน...ปัจจุบันครูนกกลายเป็นครูขี้บ่น และดุ (พอสมควร)สำหรับเด็กๆ

สวัสดีค่ะ น้องราชิต คุณครูพันธ์ใหม่....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท