แผ่นดินไหวในเฮติ
เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรง 7.0 ตามมาตราริกเตอร์
โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศไปราว
25 กิโลเมตร (หรือ 16 ไมล์) โดยแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16:53:09
ตามเวลาท้องถิ่น
[1] ของวันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553 หรือตรงกับเวลา
04.53 นาฬิกา ในเช้าวันพุธที่ 13 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย[2]
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ความลึก 13 กิโลเมตร (8.1 ไมล์)[3]
องค์กรสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (The United States Geological
Survey) ได้ตรวจสอบบันทึกและพบอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก 14 ครั้ง
ซึ่งมีความแรงอยู่ที่ประมาณ 5 - 8 ริกเตอร์
หน่วยงานกาชาดสากลได้กล่าวว่ามีคนกว่า 3
ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ และมีคนเสียชีวิตกว่า
500,000 คน ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
ซึ่งมีสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ถล่มเป็นซากปรักหักพังนับไม่ถ้วน
ซึ่งรวมถึงทำเนียบประธานาธิบดีที่พังถล่มลงมาด้วย
ภาพแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวคือปฏิกิริยาการสั่นสะเทือนของแผ่นดิน ที่เกิดขึ้นจากการปลดปล่อยพลังงานอย่างรวดเร็ว จริงที่ว่ามีอีกหลายสาเหตุในโลกนี้ที่ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวสะเทือน ไม่ว่าจะเป็น การระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์ (atomic bomb) หรือ การระเบิดของภูเขาไฟ เป็นต้น แต่สาเหตุที่ว่ามานี้ นับว่าทำให้แผ่นดินไหวสะเทือนอ่อนมาก และเกิดไม่บ่อย เมื่อเทียบกับเหตุจากการที่โลกปล่อยพลังงานอย่างรวดเร็ว และสาเหตุนี้มาจากการ เคลื่อนไหว ของแผ่นเปลือกโลก บริเวณที่เป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ของแผ่นเปลือกโลกที่เรียกว่า รอยเลื่อน (faults) แรงการขยับตัวของเปลือกโลกต้องใช้พลังงานมหาศาล ด้วยพลังงานนี้เองที่ทำให้แผ่นดินไหว พลังงานนี้จะแผ่กระจายออกจากจุดศูนย์กลางกำเนิดพลังงาน(focus) ไปในทุกทิศทาง แบบเดียวกับคลื่น (wave) ที่เกิดจากการที่เราโยนก้อนหินสัก ก้อนลงในในสระน้ำที่มีน้ำนิ่งๆ ซึ่งจะเห็นคลื่นน้ำกระจายออกจากจุดที่ก้อนหินกระทบผิวน้ำในสระ คลื่นแผ่นดินไหว (seismic wave) เกิดแบบเดียวกันนี้ พลังงานที่เกิดขึ้นจะมีมากที่สุด ณ จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว (focus) และจะลดความรุนแรงลงเมื่อไกลจุดศูนย์กลางออกไป อย่างไรก็ดี การที่จะตรวจจับและบันทึกแผ่นดินไหวนั้นต้องใช้เครื่องมือที่มีความไวสูงมาก
ตัวเลขริกเตอร์ | จัดอยู่ในระดับ | ผลกระทบ | อัตราการเกิดทั่วโลก |
---|---|---|---|
1.9 ลงไป |
Micro |
ไม่มี |
8,000 ครั้ง/วัน |
2.0-2.9 |
Minor |
คนทั่วไปมักไม่รู้สึก แต่ก็สามารถรู้สึกได้บ้าง และตรวจจับได้ง่าย |
1,000 ครั้ง/วัน |
3.0-3.9 |
Minor |
คนส่วนใหญ่รู้สึกได้ และบางครั้งสามารถสร้างความเสียหายได้บ้าง |
49,000 ครั้ง/ปี |
4.0-4.9 |
Light |
ข้าวของในบ้านสั่นไหวชัดเจน สามารถสร้างความเสียหายได้ปานกลาง |
6,200 ครั้ง/ปี |
5.0-5.9 |
Moderate |
สร้างความเสียหายยับเยินได้กับสิ่งก่อสร้างที่ไม่มั่นคง แต่กับสิ่งก่อสร้างที่มั่นคงนั้นไม่มีปัญหา |
800 ครั้ง/ปี |
6.0-6.9 |
Strong |
สร้างความเสียหายที่ค่อนข้างรุนแรงได้ในรัศมีประมาณ 80 กิโลเมตร |
120 ครั้ง/ปี |
7.0-7.9 |
Major |
สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงในบริเวณกว้างกว่า |
18 ครั้ง/ปี |
8.0-8.9 |
Great |
สร้างความเสียหายรุนแรงได้ในรัศมีเป็นร้อยกิโลเมตร |
1 ครั้ง/ปี |
9.0-9.9 |
Great |
'ล้างผลาญ' ทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีเป็นพันกิโลเมตร |
1 ครั้ง/20 ปี |
10.0 ขึ้นไป |
Epic |
ไม่เคยเกิด จึงไม่มีบันทึกความเสียหายไว้ |
0 |
ขนาด |
ความสัมพันธ์ของขนาดโดยประมาณกับความสั่นสะเทือนใกล้ศูนย์กลาง |
1-2.9 |
เกิดการสั่นไหวเล็กน้อย ผู้คนเริ่มมีความรู้สึกถึงการสั่นไหว บางครั้ง รู้สึกเวียน ศีรษะ |
3-3.9 |
เกิดการสั่นไหวเล็กน้อย ผู้คนที่อยู่ในอาคารรู้สึกเหมือนรถไฟวิ่งผ่าน |
4-4.9 |
เกิดการสั่นไหวปานกลาง ผู้ที่อาศัยอยู่ทั้งภายในอาคาร และนอกอาคาร รู้สึกถึงการ สั่นสะเทือน วัตถุห้อยแขวนแกว่งไกว |
5-5.9 |
เกิดการสั่นไหวรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง เครื่องเรือน และวัตถุมีการเคลื่อนที่ |
6-6.9 |
เกิดการสั่นไหวรุนแรงมาก อาคารเริ่มเสียหาย พังทลาย |
7.0 ขึ้นไป |
เกิดการสั่นไหวร้ายแรง อาคาร สิ่งก่อสร้างมีความเสียหายอย่างมาก แผ่นดินแยก วัตถุที่อยู่บนพื้นถูกเหวี่ยงกระเด็น |
.....สวัสดีค่ะ....หนุ่มนาสวรรค์...
๐ สิ่งที่เกิดขึ้นถ้ามันเกิดขึ้นใกล้ตัวเรา เราก็เศร้าเหมือนกันนะ
๐ และนี่แหละคือสิ่งที่ ธรรมชาติเตือนมนุษย์ ว่า ต้องทำยังไงต่อไปกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
๐ ถ้ายังไม่ช่วยกัน สิ่งๆนี่คงเกิดขึ้นกับเราแน่