กว่าจะถึงปาย(ต่อ)


ปาย

หลังจากเข้าสู่โหมดขี้เกียจอย่างรุนแรงซักระยะเวลานึง  ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะเล่าถึงการเดินทางต่อนะคะ ถึงสถานที่ปางอุ๋ง ซึ่งการจะเข้าไปนอนพักที่นั่นค่อนข้างจำกัดผู้เข้าพักต่อวันนะคะ ตอนแรกที่สามติดต่อที่พัก เค้ามีอัพเดทเบอร์ติดต่อของสถานที่นี้ และต้องไปรับบัตรผ่านทางที่ตัวจังหวัดก่อนด้วยค่ะ แต่เนื่องด้วยโทรติดต่อไม่ได้เลยsearchหาข้อมูลนั่นนู่นนี่จนลงตัวที่โฮมสเตย์ค่ะ ซึ่งมีให้เลือกอีกมากมาย แต่สามเจอข้อมูลที่มีผู้ใจดีมาโพสต์ไว้หลังจากไปเที่ยวปางอุ๋ง ระบุไว้ว่าลุงสร้อยเงินเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านหรืออะไรที่ค่อนข้างมีฐานะทางสังคม(ซึ่งสามคิดว่า น่าจะอุ่นใจในการใช้บริการเพราะเราจะต้องโอนงินค่าที่พักไปก่อนก็เลยเลือกที่นี่ค่ะ) ได้ความสะดวกสบายคือไม่ต้องไปขอรับบัตรผ่านใดๆจากจังหวัด แต่ให้ยื่นใบโอนเงินให้เค้าดูแค่นั้นเอง  ความจริงมีรูปค่อนข้างเยอะมากเพราะปางอุ๋งถือเป็นไคลแม็กซ์อีกหนึ่งที่  คือสวยมากค่ะใครที่ไม่เคยไปก็อยากแนะนำให้ได้ไปโพสต์ท่าหน้าแนบกับสถานที่ตรงนี้  เรื่องการเอาหน้าแนบกับทุกสิ่งแล้วถ่ายรูปไว้เนี่ยก็เป็นสิ่งที่ทำจนติดเป็นนิสัย จนรู้สึกได้เหมือนกันในบางครั้งว่า เอ๊ะนี่เราโรคจิตหรือเปล่า เพราะมีตอนช่วงที่น้องคนนึงเมารถ และอาเจียน  ก็อยากจะประณามน้องคนนี้โดยการถ่ายรูป (ในใจอยากเอาหน้าแนบมากๆ แต่ประเมินดูแล้ว คงไม่เหมาะสมต้องเซนเซอร์เป็นแน่)  ไหนๆก็อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ใคร่ขอถามว่า(คำศัพท์จะทางการไปถึงไหน)นี่คือดอกไม้อะไร นึกชื่อทางวิทยาศาสตร์ไม่ออกจริงๆ(แค่ชื่อที่เค้าเรียกกันทั่วไปให้ได้ก่อนเหอะค่า)เห็นสวยดีและคิดว่าคงไม่มีที่อุดรอย่างแน่นอนจึงถ่ายเก็บไว้ทันทีค่ะดูฝีมือการถ่ายของแต่ละคนนะคะ

  ถ้าทราบคำตอบก็ให้ sms ตอบเข้ามาได้เลยนะคะ แต่ดูแล้วก้อประชันกันเห็นๆเลยว่า สามพ่ายแพ้ยับเยิน ทำไมคนละอารมณ์อย่างนี้นะ สิ่งที่เจ็บแปลบขึ้นมาอีกครั้งเกี่ยวกับรูปดอกไม้อะไรซักอย่างดอกนี้ สามค้นพบว่าที่โรงพยาบาลที่สามทำงานอยู่ก็มีดอกไม้นี้ด้วย นึกว่ามีแต่ทางภาคเหนือ อารมณ์เสีย

 แต่ทริปนี้ค้นพบว่าภาพถ่ายที่ได้ เบลอ 80% วิเคราะห์หาสาเหตุ จะด้วยเหตุผลของความสูงวัยของผู้ถ่ายหรือการมีโรคประจำตัวเป็นพาร์กินสันหรืออะไรก็แล้วแต่ ภาพเบลอก็มีข้อดีของมันนั่นคือ  ทำให้เราดูหน้าตาดีขึ้นอีก 20%

  อ้ะๆ คุณผู้อ่านเริ่มคิดในใจ นี่ตกลงจะเล่าต่อหรือจะนอกเรื่องไปอีกเท่าไหร่กันเชียว ก็ได้ค่ะในเมื่อกดดันกันขนาดนี้ก็จะเล่าต่อ(อืม เริ่มกลัวตัวเองแล้วเหมือนกันนะเนี่ย คุยคนเดียวก็ได้)  ที่ปางอุ๋ง ต่อค่ะ  อย่างที่บอกโฮมสเตย์เค้ามีเวลาในการเปิดปิดไฟ แล้วพวกเราก็มาถึงที่พักกันค่อนข้างเร็ว สี่โมงเย็น สถานที่เงียบเชียบ สิ่งที่ทำได้จากการเหน็ดเหนื่อยคือนอนพักแต่พวกเราเลือกที่จะบริหารสมอง บวกเลขให้ได้ เก้าหรือแปด  (แถวนี้มีตำรวจหรือเปล่าคะเนี่ย) คิดไม่ถึงว่าดวงจะค่อนข้างต่ำตมถึงที่สุด อาจะเป็นเพราะเคยสัญญากับหลวงปู่ทองใบตอนที่สามไปปฏิบัติธรรมว่าจะไม่เล่นการพนันนะ เพราะไม่รุ่งเอาซะเลย เสียเงินหมดเนื้อหมดตัว รวมเป็นเงินถึง 20 บาท(เล่นทั้งคืนขนาดเค้าปิดไฟ ก็ใช้ไฟฉายกับเทียน หมดแค่ 20 เนี่ยนะ ) ต่อค่ะ นอกเรื่องตลอด แต่จะเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีหรือไม่เนี่ย

    พวกเราตื่นกันมาเช้ามาก หกโมงเช้าเพื่อไปเก็บภาพประทับใจแบบหนังหลายเรื่องที่เค้ามาถ่ายทำที่ปางอุ๋ง

  สรุปว่ามีมุมให้ถ่ายเยอะมากค่ะ ก็เบลอหลานรูป  เค้ามีม้าแคระมาบริการด้วยนะคะ มีแพให้นั่งล่องแม่น้ำสวยๆด้วย แต่พวกเราก็ไม่ใช้บริการค่ะ เสพแค่เพียงความงดงาม แล้วก็เดินทางต่อ เข้าสู่ปายค่ะ  แวะที่จีนยูนานนิดนึงค่ะ ไม่ยากบอกว่าร้านนี้เลยจะมีชาอร่อยๆให้ชิมนะคะ แต่ระวังนิดนึงเพราะบางร้านบอกราคาค่อนข้างแพงมาก อย่างร้านนี้ที่สามถ่ายมาเนี่ย บอกชายอดน้ำค้างถุงละ 450 บาท แต่พอสามเดินไปเรื่อยๆ อีกร้านนึง ชาปริมาณเท่ากันกลับราคา 150  โอว แม่เจ้าอีกครั้งถึงกับเอามือทาบอก 

ความจริงโดยรอบปางอุ๋งจะมีถ้ำปลา และภูโคลนให้แวะนะคะ แต่สามเคยไป ก็แนะนำทุกคนว่าข้ามไปเลยเพราะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะเคยไปพอกโคลนที่หน้ามาค่ะ หวังใจมากว่าผิวหน้าจะผุดผ่อง ตกลงว่าสิวขึ้น โอวแม่เจ้า  (รู้สึกจะมีแต่บ่นไม่เห็นชมอะไรเลยนะคะคุณ)  เดินทางมาพักที่เรือนเอกปาย ที่พักคนละอารมณ์กับที่ปางอุ๋งเลยค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะต้องรีบทำเวลาไปที่ชุมชนจีนกันต่อ อยากเล่นไม้กระดกมากๆ แต่คนเยอะค่ะ เลยได้แต่เก็บภาพที่นั่น ได้ถ่ายรูปกลุ่มบ้าง

   จะเห็นได้ว่าสามต้องการให้น้องม้าใส่แว่นตาดำเป็นตัวเด่นของภาพนี้แต่ก็ต้องเสียใจเมื่อเอาหน้าแนบและพบว่าน้องม้าพยายามเอาฟันหน้าเฉาะหน้าสามก็เลยพยายามมาได้เพียงแค่นี้ มาตรงนี้สามมีรูปผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในการมาเที่ยวทริปนี้ เพื่อนโอ้ตนั่นเอง แถ่นแทนแท๊น

 

 

  พอถ่ายรูปเริงร่าซักระยะเวลานึงจึงได้เดินทางไปที่บ้านต้นไม้ต่อ เป็นรีสอร์ทที่น่ารักมากเลยค่ะ  แต่พวกเราไม่ได้พักกันที่นี่หรอกนะคะ แต่ก็ถ่ายรูปกันมากมายเช่นเดิม

  จบจากบ้านต้นไม้ก็ไปสะพานประวัติศาสตร์และคอฟฟี่อินเลิฟ ซึ่งทุกคนที่ไปปายคงจะไม่พลาดอย่างแน่นอน ปีที่แล้วไม่มรถคันนี้เลยเอามาให้ยลโฉมค่ะ

   หลังจากนั้นก็ไป เดินถนนคนเดินที่ปายค่ะ ร้านทุกร้านสวยงามเหมือนตกแต่งแข่งกันสุดๆ ดีค่ะ ชอบสวยมากขอข้ามไปเช้าวันต่อมาเลย

    ทริปวันรุ่งขึ้นคือขุนแม่ยะ ตอนที่ถามไกด์นำเที่ยวเค้าทำให้เราจินตนาการว่าค่อนข้างลำบากมากกกกกกกกกกก แต่เมื่อไปกันจริงๆ ก็ไม่ได้ลำบากอะไร ไกด์บอกว่าการขึ้นไปที่ขุนแม่ยะจะต้องมีรถโฟร์วีล แต่เมื่อไปถึงก็เป็นรถสองแถวนะ

   แต่ถนนหนทางก็จะคดเคี้ยวก็ทุลักทุเลบ้าง คล้ายๆเล่นรักบี้หรืออเมริกันฟุตบอลเพราะโดนเพื่อนๆกระแทกเวลาที่ลงจากเนินเขาหรือรถเหวี่ยงไปมา  เมื่อขึ้นไปถึงสิ่งแรกที่สามถามหาคือ  ห้องน้ำ  โอว ประทับใจอีกครั้งค่ะ ห้องน้ำน่ารักมาก เข้าไปภายในมีรูเล็กๆให้พอเคอะเขิน และระแวงว่าจะมีใครเห็นเราโป๊หรือเปล่า ถือเป็นจิตรกรรมที่มีนัย แฝงอย่างลงตัวค่ะ

   หลังจากนั้นเมื่อปลดทุกข์ได้ยากเรียบร้อย ก็ถึงเวลาตะลุย  กับดอกไม้แสนสวย แต่ช่วงที่สามขึ้นไปไม่สะพรั่งเหมือนที่คาดไว้ และต้นไม้ก็สูงมากกกกกกกก การจะเอาหน้าแนบจึงเป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างมากถ้าทำได้นะ  การถ่ายจึงต้องอาศัยเทคนิคเล็กน้อย  ภาพออกมาได้ประมาณนี้ค่ะ

การใช้เทคนิคลวงตาว่ามีดอกไม้บานสะพรั่งแต่ความจริงนั้นมีเพียงหย่อมเดียว  มีการผลัดกันถ่าย กันอย่างมืออาชีพ แต่เบื้องหลังของภาพ คนที่ถ่ายให้อาจดูไม่ดีเท่าไหร่นักอย่างนี้เป็นต้น

  เป็นภาพวิญญาณจับได้ ที่ดูไม่ค่อยจะรักษาภาพพจน์ แต่เมื่อสามหันไปที่ช่างภาพคนอื่นๆ จึงได้รู้สึกว่า ความพยายามของเราช่างน้อยเหลือ เมื่อเทียบกับคู่ของเพื่อนโอ้ตและสามี

  อ้ะ แต่ภาพเค้าออกมาสวยจริงๆแหละ  นี่คือความพยายามที่แตกต่างกัน มันเป็นอีกเรื่องนึงที่ทำให้สามได้รับรู้ว่า เพื่อนโอ้ตกับเพื่อนสาม ต้องมีอะไรที่ต่างกัน และมันคือเหตุผลว่าทำไมโอ้ตถึงได้แต่งงาน (ไม่เกี่ยวซักเท่าไหร่ แต่พยายามเอามาโยงให้สัมพันธ์กัน)  เมื่อเราลงจากขุนแม่ยะ ก็เป็นทริปสุดท้ายนั่นคือ ไร่สตรอเบอร์รี่ หวานและอร่อยมากๆ

   และก็แวะซื้อของฝากที่ตลาดวโรรสที่เชียงใหม่ เพื่อมุ่งหน้ากลับอุดร  กับการร้องคาราโอเกะกรอกหูคุณลุงขับรถที่พยายามขัดขืนตั้งแต่วันแรก แต่ไม่เคยสำเร็จ   ขอบคุณ เพื่อนโอ้ตมากมาย  ที่เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในการท่องเที่ยวครั้งนี้  ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกคนที่น่ารักมากๆ  ขอบคุณเจ้ามือป๊อกเด้งที่ไม่เหนี่ยวรั้งสามไว้เมื่อตอนที่เริ่มงอแงเมื่อเสียเงินไปตั้ง 20 บาท  ขอบคุณคนที่รักเพื่อนโอ้ตมากๆ ทริปนี้ถึงแม้จะไม่มีเพื่อนแอ้นผู้พ่ายแพ้ในสัญญาครั้งนั้น  และมันคงจะไม่มีสัญญาอะไรแบบนี้อีกแล้ว (หรือสามจะไปหลอกล่อให้เพื่อนแอ้นสัญญาเรื่องแต่งงานอีกดีนะ) แต่ก็รู้สึกอบอุ่นและเชื่อในเรื่องความรักมากขึ้นนะเพื่อนโอ้ต  ขอบคุณที่ฟ้าส่งให้เรามาเป็นเพื่อนกัน  ^__^

คำสำคัญ (Tags): #ปางอุ๋ง#ปาย
หมายเลขบันทึก: 330724เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2010 22:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

เย้ๆๆๆ ในที่สุดคุณน้องสามก็มาเขียนบันทึกต่อแล้ว แต่ก็คิดว่าออกนอกเรื่องซะเยอะ คงจะมีหลายภาคแน่ๆ 555 หมวกและผ้าพันคอช่างดูงดงาม มีฝีมืออะไรเช่นนี้น้อ 555555555555555 เอารูปพอกหน้าที่ภูโคลนมาคอนเฟิร์มว่าสามไปมาแล้วเจงๆ อิอิ

สวัสดีครับคุณสาม

ผมว่าคุณสามต้องกลับไปหา หลวงปูทองใบใหม่ เอาศีลไปคืนท่าน1 ข้อ

รับรองว่าที่หมดไป 20 นั้นน้อยไป ฮา....

เออ...อ่านบทนี้พอจะจับจุดได้แล้ว เขียนไปบ่นไปเยี่ยงนี้แหละดีแล้ว

ในเมื่อนิยมการบ่น ผมว่าก็เอาเถอะครับได้อรรถรสและเป็นตัวเองดี

เขียนต่อนะครับ

เออ...ชอบบ่นก็ยิ่งยืนยัน ตอนเช้ามีรถไฟตัดหน้ากระโดดขึ้นำไปเลยนะ อิ.อิ.

ตอนไปเที่ยวปายรู้สึกว่าได้เที่ยวนิดเดียว

ด้วยจำกัดเรื่องเวลา เห็นน้องสามเล่าแบบนี้ชักอยากไปอีกจัง

สวัสดีครับคุณสาม

"พอมาอ่านก็รู้สึกละอายในบล็อคของสาม

เพราะมีสาระบวกกับบันเทิง มากๆค่ะ"

เห็นข้อความนี้ในบล็อกของผมแล้วกลัวคุณสามจะไม่เขียนต่อ

เลยแวะมาบอกอีกครั้วว่า ที่คุณสามเขียนอยู่นี้ดีแล้วครับ

ยืนยันว่ามีอรรถรส และเป็นธรรมชาติ คิดอย่างไรเขียนอย่างนั้น

หานักเขียนในรูปแบบนี้ได้ยากนะครับ เขียนต่อนะครับอย่างทิ้ง

ระยะแสนลี้มีได้จากก้าวแรกครับ อย่าทดท้อนะคนดี

สวัสดีครับ เภสัช สาม

ตามมาเที่ยว

ตามมาอ่าน

ตามมาชมสาวงาม กับดอก"อะรูมิไร้"

ตามไปชิมยอดชาน้ำค้าง

ตามหาเพื่อโอ๊ต

ตามไปเข้าห้องน้ำ

ตามมาเก็กเชอรี่

ตามอีกทีไปอุดร

ตามเพียงแค่นี้ขอกลับก่อน บ้านอยู่ไกล กว่าท่าฉลอม

กลับลงใต้ไปไปอยู่บุญที่ปากพะยูน พัทลุง

บันทึกน่ารักมากค่ะ

 

เอิ่มมมมมมมมมม เท่าที่อ่านมา ไอรินขอสรุปนะคะ

ประเด็นเด็ด มานอยุ๋ที่ว่า ไปที่หน๊ายยยย

ม่ะอึ แสดงว่า ไปม่ะถิงงงงงงงงงงง

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เค้าฉลาด สามารถสรุปใจความสำคัญ ของเรียงความนี้ได้

อิอิ แต่ก็เบื่อหน่าย ตรงจุดที่ว่า

คัยยังม่ะเคยไปไหนก็ช่าง แต่พอสามเคยไปมาแระ

ก็ผ่านนนนนนนนนนไปเลย โชว์เฟอร์ เฮ็ออออออออออออออ

น่าสงสารผูร่วมทริป เจงๆๆๆๆๆๆๆ

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก

เห็นม่ะว่า เค้าสามารถเม้นแบบสั้น ๆๆ

แล้วก็ได้ใจความด้วยแระ

อิอิ

เค้าภูมิจายยยยยยยยยยยยยยยยยย

น้องสามขำน้องไอรินข้างบน อย่างฮาเลยแต่ละคน ขำภาพที่น้องหนึ่งเอามาด้วย เป็นขวานฟ้า เลย ฮ่าๆๆๆๆ

ไอริณเม้นได้สาระพอๆกะสามเขียนเลย ฟริ๊ววววว

น่า รัก กัน ทั้ง นั้นนนนน

555555555555555555

เพิ่งเห็นว่าห้องน้ำที่นั้น เวลาจะเข้าคงต้องมีลุ้น

555555555555555555

พี่ประทับใจอย่างยิ่งในความพยายามของช่างภาพโอ๊ตและสามีเป็นอย่างยิ่ง

555555555555555555

ปล.คุณน้องไอริณขา .. ถูกสามบังคับมาเม้นช่ายป่ะค้า อิอิ

เห็นแล้วก็เกิดกิเลสอะ

อยาก

ไป

เที่ยว

ด้วยยยยยยยยยยยยย

ทริปนี้ พี่หนึ่งถ่ายรูปแล้วดูหน้าเด็กลงมาเยอะเลยนะ

ช่ายๆคะพี่หนึ่งฉุดฉวย

น้องไอริน ถูกบังคับจิตจายย

ให้มาอ่าน เรื่องห้องน้ำอ่ะ

อารายกานจะปลดทุกข์ ก็ต้องมาเล่าด้วย

โฮ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ

อะไรยังไง ต้องมาบังคับให้อ่านด้วยหรอเนี๊ยะ

มาแปะเม้นไว้ก่อนเดี๋ยวแวะมานะคร้าบป้าสาม

ชอบความพยายามของเพื่อนตะเองจังนิ

ไปแต่เชียงใหม่ยังไม่เคยไปปายสักที ปีหน้าแหล่ะว่าจะไปแน่นอน ^-^ นัดกะแม่แฟนไว้แล้วด้วย

ที่นี่..คือที่ไหนอะ บล็อคๆๆ มันคืออาราย ทดสอบๆๆ ไช้งานยังไง เม้นได้เลยอะป่าว enter

อ้าว ..ไม่ได้ ต้องไส่รหัส สุ่มด้วยนี่ อิอิ เอาไหม่ๆ*o*

อิจฉาสาวๆจังเลยค่ะ

...อยากไป ปายยยยยยยยย

มาเม้นแล้วนะสาม..จิงจิงช่วงนี้เป็นช่วงฟื้นตัว(ร่างกายติอะ)

งดเล่นคอมไปพักใหญ่มากเลย งดอะไรที่ชอบทำ บาสก้อไม่ค่อยได้ไปเล่น ส้มตำก้องด จิงจิงก้ออาหารที่ไส่พริกทุกอย่างนะแหละ

ละคร ทีวี ช่วงค่ำก้อไม่ดู และ กาแฟสด สุดที่รัก ของติก้อไม่ดื่มละ.. ชีวิต อิอิ

ความหวังที่จะไปเที่ยวปายอีกรอบ ของติ ..สามก้อได้ไปก่อนอีกละ ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก้อตาม

เดวติจะไป..หั้ยได้อีกซักรอบแบบสาม ๆ ๆ ๆ

ติ..(ติชม) ละนะทีนี้ 55

เวปนี้เค้ามีไว้บันทึกความเป็นไปในช่วงชีวิตหรือนี่

เมื่อวานมาอ่านแล้วรอบนึง วันนี้มาอ่านอีกรอบ ปรากฏว่า มี 2 ตอนนี่หว่า ติอ่านบันทึกหลังก่อนอะ อ่านจากหลังไปหน้า หุหุ

รอบสองแล้วซินะ ดูรุปแล้วก้อน่าสนุกเหมือนเคย คงสร้างภาพไว้เยอะมากเลยซิ แต่เลือกเอามาเฉพาะคนถ่ายเป็นพาร์กินสัน โห๊ะๆๆ

รูปก้อเลยสวยๆท้างน้าน อย่างรูป(หน้าแนบ)ตามสไตร์สาม แนบกะดอกไม้อะ ติว่า ขาดอารมณ์อิอิออกแนวคิขุไปหน่อยแต่ก้อสวยนะ ส่วนเพื่อนๆสาม ออกแนวเซ็กซี่เลยหละดูจากสีหน้าและแววตา คริคริ

ผ้าพันคอกับหมวกสวยมากเลยเข้ากั๊นเข้ากัน เรื่องราคาชา ติก้อพึ่งรุ้จากสามราคาแต่ละร้านต่างกันเหรอ 55 (โดนแล้ว..)

ตอนติไป ไม่เห้นม้าแคระแฮะ สามเอาแว่นตาดำหั้ยม้าเหรอ ไหนไหน ทำไมนัยรุป เห็นแว่นตาดำเยอะจังหุหุ

ที่บอกว่าจะเอาหน้าแนบม้า กัวม้าจะเอาฟันเฉาะ โกหกไช่ป่าว..ดูนัยรูปแล้ว

ม้ามันทำท่า กัวกัว.ตัวสั่น น่าสงสาร แอบหลบอยู่หลังเสา ไม่เห้นฟันม้าเลยอะ แต่เห็นฟันใครน๊า ๆๆๆๆ ..ล้อเล่งงอิอิ

งั้นติขอตั้งชื่อภาพนี้เลยละกัน ภาพแห่งความทรงจำ "ม้าแคระ กับ สโนวไวทั้ง 7 " ดีไหม

ไปเที่ยวนี้ สามดูผอมเพรียวกว่าเดิมรึป่าว ภาพถ่ายกะต้นอะไรนะ ที่ดอกสีชมพูสวยดี

แล้วก้อรถตุ้ คอฟฟี่ อินเลิฟอะ ไหม่มากเลยทีเดียว เที่ยวก่อนไปไม่มี ทำหั้ยอยากรู้เลยว่าสามสุง กี่เซนต์กันแน่นะ

บันทึกยังบรรยายไม่ละเอียดเลย เรื่องห้องน้ำด้วย ข้างนอกพอมองออกว่าคล้ายสุ่มหรือเข่งผลไม้อะไรประมาณนี้

ข้างในหละสาม ชักโครกแบบ แบบสัมผัสรึป่าว มีอ่างจากุดจี่ ข้างในด้วยรึป่าว หวิวเลยๆ แบบนี้ อยากรู้ๆ

งานเข้าละ เดี๋ยวขายของก่อนนะ โดยรวมสวยมาก เอารูปมาลงหั้ยดูเยอะๆหน่อยนะสาม

คิดถึงเสมอ...เธอนะแหละ

อารายกานนนน เจ้าของบันทึกหายไปไหนคะเนี่ยยยย

อิอิ แวะมาเชียร์ให้เขียนบันทึกต่อ เชียร์ๆๆๆๆ 555

อะไรเนี่ย ไม่มีรูปโชว์สวีท เลยอ่า

แต่ก้อยังอิจฉาอยู่ (ถึงจะไม่มีรูปก้อเหอะ)

อยากไปมั่งอ่ะ อ่ะ อ่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท