การรักษาสุขภาพ


อายุมากขึ้นต้องระวังอาหารพวกไขมัน

เล่าจากประการณ์จริงของคนที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ  ขณะนี้ผมอายุ 53ปี จากชีวิตเด็กชนบท พื้นเพก็เหมือนลูกเกษตรกรทั่วๆไป ที่ฐานะพออยู่พอกิน ตอนเด็กๆทำนา และทำสวน ได้ออกกำลังกายพอสมควร อาหารก็เป็นปลาน้ำจืดที่ออกไปหาเองตามบึง ตามคลอง ส่วนผักก็เก็บจากท้องทุ่งนาบ้าง จากในสวนบ้าง สมัยเรียนมัธยมก็เข้ามาเรียนในเมือง และก็กินอาหารประเภทมันๆ เช่นหมู ไก่ เป็ด ปลา กุ่ง หอย ปลาหมึก ผัก ผลไม้ เมื่อทำงาน(ราชการ) ก็ยังกิน อาหาร กุ้ง หอย ปู ปลา ผัก ผลไม้แบบเดิม และ ทานเบียร์ ทานเหล้าบ้าง บางโอกาส แต่ไม่บ่อยนัก แต่ไม่สูบบุหรี่ การออกกำลังกายก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มีความเครียดกับงานบ้างบางครั้งแต่ไม่บ่อยนัก

              อาการที่แสดงว่าเป็นโรคเส้นเลือดตีบที่หัวใจคือ

     1.ผลเลือด มีโคลอตเตอร์ร่อนในเส้นเลือดมาก ประมาณ 250-300 เริ่มเป็นมาตั้งแต่อายุ38ปี และไม่มีการลดลงเลย คงเป็นเพราะผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเหล่านี้ เลยปล่อยประละเลยไม่สนใจที่จะลดไขมันตัวนี้(ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมากมาย ที่ไม่พยายามลดโคลอตเตอร์ร่อนตัวนี้ จนลุกลามกลายเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ)

     2.เมื่อ อายุประมาณ 45 ปี  เริ่มมีอาการเจ็บแน่นน่าอก  แต่เป็นไม่บ่อยนัก ปีละประมาณ 3 ครัง   จากนั้นปีต่อๆมาก็เริ่มแน่นน่าอกถี่ขึ้นเรื่อยๆ  ไปหาหมอก็ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโรคหัวใจ

     3. และเมื่ออายุ 48ปี อาการแน่นน่าอก ก็มีอาการแน่นมาก และแน่นบ่อยๆ ส่วนมากจะเกิดอาการแบบนี้ ตอน ตี4ตี5 อาทิตย์ละประมาณ 2- 3ครั้ง ผลสุดท้าย หมอก็ตรวจพบว่าเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ จำนวน 1 จุด และหมอก็ทำบอลลูนให้ 1 ลูกครับผม และให้ทานยา ลดไขมัน ยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ยาป้องกันเกิดภาวะหลอดเลือดตีบตัน ยาละลายลิ้มเลือด  โดยต้องทานยาตลอด เช้า เที่ยง เย็นครับ ทุกวันนะครับ ตอนนี้ก็ยังทานอยู่นะครับ

       และที่สำคัญ ต้องออกกำลังกาย โดยการเดิน เร็วๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 4-5 วันนะครับ วันละไม่ต่ำกว่า 30 นาที ไม่ ควรกิน อาหารมันๆ เช่นหมูติดมัน เนื้อไก่ เครื่องในสัตว์ หอย ปลาหมึก ไข่แดง  อาหารพวกทอด แกงกะทิ  อาหารที่ควรกินคือ เนื้อปลา ผักและผลไม้ครับ  สรุปแล้ว ลำบากมากครับ คนที่เป็นโรค ถูกต้องแล้วครับที่ว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ครับ

หมายเลขบันทึก: 330627เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2010 15:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีครับ ท่าน วี

กินอาหารเป็นยา ก่อนที่จะกินยาเป็นอาหารครับท่าน

ครับ คุณ วอญ่าครับ ผมรู้ตัวเมื่อสายไปมากแล้วครับ

ยังไม่สายสำหรับการดูแลตนเองให้ดีหรอกนะคะ

การดูแลตนเองอย่างเคร่งครัดจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพค่ะ

ขอบคุณนะคะที่ไปทักทายในบล็อก

หวัดีค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาชบล็อกสามนะคะ

เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่เราซื้อไม่ได้ค่ะ อยากได้สุขภาพแข็งแรงก้อต้องทำเอง ^__^

ขอบคุณครับ คุณมณีวรรณ และคุณหญิงสาม ที่ให้กำลังใจนะครับ

ขอบคุณ นะคะ !!

ก็ยังไม่ถึงกับเก่งหรอกค่ะ^^

บล็อกนี้มีประโยชน์มากเลยนะคะ..

สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องหาเองค่ะ *

สวัสดีคะ ได้ความรู้ดีมากคะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆที่แบ่งปัน

จะได้ป้องกันตัวเองไว้บ้างค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ.. ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีนะคะ ^^

เอ๋อคือ เพิ่งรู้เมื้อกี้ว่าแม่ไม่ค่อยสบาย จริงๆแล้วเป็นมานานแล้วแต่ครั้งนี้มันเริ่มรุนแรงขึ้น

อาการก็คือเวลาทานข้าวหรือว่าอะไรก็ตามจะแน่นที่น่าอกจนต้องอาเจียนออกมา เป็นมาก็นับปี

แต่ครั้งนี้มันยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้น ถี่ขึ้น (แม่อายุ 70 ปี) ")ไปหาหมอหลายครั้งหมอบอกว่าเป็นไทรอยและให้ยามาทาน

แต่ก็ยังไม่หาย จนครั้งนี้ไปคลีนิค หมอก็แนะนำบอกว่าอาจจะเป็นเนื้องอกที่หลอดลม ให้ไปตรวจแบบละเอียดที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

วันจันทร์นี้แหละหมอนัดตรวจ ลุ้นอยู่ว่าเป็นฌรคอะไร พิมพ์ไปแล้วอยากจะร้องไห้ ไม่ได้กลับไปเยี่อมแม่มา2อาทิตย์กว่าแล้วเพราะทำแต่งาน งาน งาน กะว่าจะกลับปลายเดือน ไม่รู้ว่าแม่ว่าแม่เจ็บด้วยซ้ำ เพราะอาการภายนอกไม่มีอะไรเลย แค่เวลาทานอะไรแล้วมันจะแน่นจนต้องอาเจียน ไม่ได้หยุดคิดเลย ไอ้โง่เอ๋ยน่าจะพาแม่ไปตรวจตั้งนานแล้ว พรุ่งนี้ก็กลับบ้าน วันจันทร์พาแม่ไปตรวจ ลุ้นมากกลัวว่าจะเป็นอะไรที่มันรุนแรง

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาเป็นกำลังใจให้ค่ะ "เรื่องการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ" จริง ๆ
  • ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่นำมาบอกกล่าวกันค่ะ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท