ร้านข้าว รถยนตร์ และการขอแบบอาศัยตัวนำร่อง


Appreciative Inquiry : การขอแบบอาศัยตัวนำร่อง

ที่ขอนแก่นวันนี้อากาศถือว่าดีครับ

ถึงจะมีฝนตกอยู่บ้าง แต่ท้องฟ้าไม่อึมครึมละ

พอจะได้เห็นแสงอาทิตย์อยู่บ้าง ผมเพิ่งกลับมาจากการสอบ Final เลยครับ

วิชาสุดท้ายของเทอม และเป็นวิชาที่ผมไม่ถนัดอย่างที่สุด ( ว่าง่ายๆคือไม่ชอบ แฮะๆ )

นั้นก็คือ "บัญชีเพื่อการตัดสินใจ" พูดถึงข้อสอบงวดนี้ก็พอทำได้ครับ แต่เสียดายอยู่นิดส์นึง

ทำไม่ทันซะงั้น... แต่ไม่เป็นไรครับ ทำเต็มที่แล้ว แถมสิ่งที่ผ่านไปแล้วเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ซะด้วยซิ ^^



มาทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่าครับ.. นั้นก็คือการนำสาระดีๆที่ได้จากการขอมาแบ่งปันให้กับทุกท่านชาว GTK ยังไงละครับ

เรื่องราวในวันนี้เป็นภาคต่อของเมื่อวานที่หลายๆ ท่านถึงกับ ...งง... กับคำศัพย์ใหม่ที่ผมตั้งขึ้น นั้นก็คือ "การขอแบบอาศัยตัวนำร่อง"

เคสในวันนี้เป็นเคสที่เกี่ยวกับธุรกิจครับ... เรื่องราวจะเป็นอย่างไร จะน่าสนใจแค่ไหนนั้น ตามผมมาเลยครับ ^^



เรื่องในวันนี้ผมได้ฟังมาจากอาจารย์สอนวิชาการตลาดของผมครับ ท่านได้เล่าเรื่องนี้เป็นเคสกรณีศึกษาในคาบเรียน

อาจารย์ผมเล่าว่า "พวกคุณเวลาไปต่างจังหวัดเนี่ย เคยแวะกินข้าวข้างทางกันไหม... สังเกตุไหมว่าเราไม่รู้หรอกว่าร้านไหนอร่อย

เพราะเราก็ไม่ใช่คนในพื้นที่ แถมร้านมันก็ขายอาหารคล้ายๆกัน มีอยู่วันหนึ่งอาจารย์ไปที่จังหวัดร้อยเอ็ด (ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะใช่นะครับ)

มองไปข้างทางก็มีร้านอาหารเต็มไปหมด อาจารย์ก็ไม่รู้ว่าจะกินร้านไหนดี แต่ไปสะดุดตากับร้านร้านหนึ่ง ซึ่งมีรถจอดเต็มหน้าร้านไปหมด

ไม่เหมือนร้านอื่นๆที่ลานจอดรถโล่งโจ่ง อาจารย์เลยตัดสินใจจอดกินที่ร้านนี้ เพราะมันมีรถจอดเยอะ อาหารน่าจะอร่อย

ประกอบกับชื่อร้านที่ว่า "ข้าวแกงร้อยหม้อ" อาจารย์ก็คิดภาพว่าคงจะมีกับข้าวให้เลือกละลานตา จนไม่รู้จะกินอะไรดี"



ผมถามอาจารย์ "แล้วมันอร่อยไหมครับอาจารย์" อาจารย์ผมตอบ "รสชาติก็โอเคนะ แต่ที่ผมวาดภาพไว้ก่อนเข้าไปมันผิดหมดเลย

รถจอดเยอะๆคนน่าจะเต็มร้าน แต่พอเข้าไปมีคนนั่งอยู่แค่ 2-3 โต๊ะเอง กับข้าวที่คิดว่ามีเป็นร้อย ก็มีแค่ไม่กี่อย่าง

แต่รอบร้านเขาเอาหม้อเป็นร้อยๆใบมาร้อยกับเชือกเป็นการตกแต่ง... ผมเลยถึงบางอ้อ.. ร้อยหม้ออย่างนี้นี่เอง"

ผมถามต่อ "แล้วรถที่จอดเยอะๆของใครละครับอาจารย์" อาจารย์ตอบ"เป็นของเจ้าของร้าน ลูกๆหลานๆและก็พวกลูกจ้างนั้นละ"



ตัดมาที่จุดนี้ครับ
... หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าร้านนี้นำเทคนิคการขอแบบอาศัยตัวนำร่องไปใช้ยังไงกันน๊าาาา... มาดูกันครับ ^^

เคสนี้เป็น "การขอให้เข้าไปใช้บริการในร้านอาหาร" โดยบริเวณนั้นก็มีร้านอาหารเยอะแยะเต็มไปหมด

ร้านนี้จึงสร้างจุดต่าง โดยใช้ "รถ" เป็นตัวนำร่องในการดึงดูดลูกค้าครับ เพราะลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมาส่วนใหญ่ย่อมจะคิดว่า

ร้านอาหารที่มีคนเยอะ มันต้องอร่อย และที่ร้ายไปกว่านั้นการตั้งชื่อร้านที่สื่อออกมาแล้วเห็นภาพอย่าง "ข้าวแกงร้อยหม้อ"

ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยเสริมให้ตัวนำร่องนั้นดูสมเหตุสมผลยิ่งขึ้น จนทำให้อาจารย์ของผมเข้าไปใช้บริการในที่สุดยังไงละครับ



เป็นยังไงกันบ้างครับ... กับ"การขอแบบอาศัยตัวนำร่อง"ในเคสนี้ หลายๆท่านอาจจะรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก(แต่เต็มใจให้หลอก)

ส่วนผมมองว่าเป็นความชาญฉลาดของเจ้าของร้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้ครับ ขอด้วยจิตวิทยาล้วนๆ เพียงแค่เอารถมาจอดเยอะๆ

ก็สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปใช้บริการได้แล้ว... ครั้งต่อไปผมจะพา Go Inter ไปกับธุรกิจในต่างแดน

ด้วยเทคนิค"การขอแบบอาศัยตัวนำร่อง"นี้ครับ... ลองนำไปปรับใช้ดูครับ แล้วมันจะให้ผลที่น่าแปลกใจเลยทีเดียว ^^



แล้วคุณละคิดยังไง


หมายเลขบันทึก: 330609เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2010 14:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เคสนี้คุ้นๆแฮะ

แต่กลยุทธลานจอดรถ หรือให้มีรถจอดหน้าร้านมากๆนี่

หลงกลไปหลายทีแล้วเหมือนกัน 555+ ได้ผลค่ะ ได้ผล

สวัสดีครับท่านเอิร์ท

ทำข้อสอบไม่ทันไม่เป้นไรครับ

เทอมหน้ายังมี กลับไปทำใหม่ซิครับ นี้ให้กำลังใจนะ...ฮา....

วิธีการนี้ผมว่าเป็นวิธีผสมผสานครับ คือใช้ทั้งตัวนำร่องและใช้ทั้งตัวหลอก

อย่างนี้ยังยืนยันว่า นักเลงสนุกแถวบ้านเรียก " ใช้บ๋อยขุดบ่อล่อมัจฉา"

ไปหละครับ

ร้านข้าวแกง 100หม้อ เคยขับรถผ่านเหมือนกันค่ะ แค่เห็นชื่อก็คิดว่าสงสัยคนเยอะแล้วค่ะ เพราะว่ามีตั้ง 100 หม้อ ^^

เป็นการใช้เทคนิคการขอ โดยใช้เรื่องของภาษาด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับเคสดีๆค่ะ

ขอบคุณุกท่านมาครับ

@ชาม >>> ไม่คุ้มได้ไง.. นั่งเรียนนำกันหนิ 555+ ขอบคุณมากครับที่มายืนยันว่ามันได้ผล โดยส่วนตัวถ้าผมเป็นอาจารย์ผมก็หลงไปใช้บริการเขาเหมือนกันครับ ^^

@ท่านทนาย >>> แหมๆ... เป็นำคอวยพรที่ไม่ขอรับละกันครับท่าน ไม่เอาแล้วๆ อย่าได้เจออีกเลย ขอบคุณสำหรับความเห็นครับท่าน ผมชอบคำว่า"ผสมผสาน"จัง จุดประกายให้ผมใช้ในเคสต่อๆไปได้ดีเลยครับ ^^

@อร >>> อย่าแว่าแต่เห็นเลยครับ... แค่ได้ยินชื่อผมก็นึกภาพไปไกลละ มันเป็นตัวเสริมที่ดีให้การที่มีรถจอดเยอะๆ ดูสมเหตุสมผลยิ่งขึ้นไปอีกครับ ขอบคุณมากครับที่แวะมา

สามารถแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยนะครับทุกท่าน

ผมดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นคอมเม้น เพราะรู้สึกว่างานของผมมีคนติดตาม และดูอบอุ่นดีครับ

อยากให้บรรยากาศในห้อง "จิตวิทยาการขอ" แห่งนี้ เป็นแบบนี้ไปนานๆ

ขอบคุณทุกท่านมากครับที่แวะมา ^^

แบบนี้ก็เหมือนทำให้หน้าร้านยุ่งๆ เข้าไว้ คนจาได้สนใจร้านเราใช่มั้ยค่ะ ^^

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ คุณเพลินเพลง

ประมาณนั้นละครับ เคยสังเกตุไหมครับ เวลาไปเดินเล่นตามเปิดท้ายหรืออะไร เวลามีคนมามุงๆ เราก็จะเดินเข้าไปดูโดยอัตโนมัติ

เรื่องนี้ก็น่าสนใจครับ หลักจิตวิทยาอย่างแท้จริง เดี๋ยวจะหามานำเสนอในโอกาสต่อๆไปครับ ^^

  • ร้านไหนรถจอดเยอะ  ก็จะดูว่า 
  • ถ้ารีบเร่งเวลามีน้อย หิวมาก ก็จะไม่ไปทานค่ะ  เพราะว่าขี้เกียจรอนาน 
  • แต่ถ้าเป็นร้านที่เคยไปทานแล้วอร่อย(หรือมีคนบอกมาว่าอร่อย)ถ้าอยากทานมากๆ  แม้รถเยอะก็จะรอค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะน้อง ไพรัชช์ ....พี่ว่ามันเป็นเทคนิค ที่เดียวแหละ เพราะตัวพี่เองก็ดูที่รถ กับการขึ้นป้ายเหมือนกัน อย่างร้านไก่ย่างท่าช้าง อาก๋ง ทั้งหลายแถวๆโคราช ถ้าได้มีรูปดาราหรือนักการเมือง ถ่ายกับเจ้าของร้านแล้วยิ่งดูเหมือนอร่อยมาก แต่บางที่ก็เหมือนร้านไก่ย่างทั่วไป.....

.....พูดไปแล้ว เที่ยงนี้กินข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ด้วยกันนะ.....สวัสดี

ชื่ออาหารจูงใจลูกค้า ที่จอดรถมีรถจอดเต็มไปหมด

ถ้าเป็นเราก็คิดแบบนั้นค่ะ ใครจะไปรู้ค่ะ ก็ถือว่าเป็นหลักการตลาดค่ะ

เหมือนกับชาบูชิไง แต่นั่นคนเค้าไปรอที่จะเข้าไปใช้บริการจริงๆ แต่รอไม่ไหว คิวท้ายๆเลยได้เข้าเร็ว อิอิ แต่ถ้าหิวๆเห็นคนเยอะๆกลัวได้ช้าก็ไปร้านอื่นเหมือนกัน

ขอบคุณครับทุกท่านมากครับ...

@คุณชาดา ~natadee >>> ครับ... ถ้าเวลาเป็นตัวบีบวิธีการนี้ก็อาจจะแป็กได้เหมือนกัน แต่คนส่วนใหญ่หลงกลแน่นอนครับ ขอบคุณมากครับ ^^

@คุณปิ่นธิดา >>> ใช้แล้วครับ... เทคนิคนี้ใช้กับผมได้ผลจริงๆ เพราะถ้าให้เลือกร้านที่คนเยอะกับไม่มีคน แต่สินค้าประเภทเดียว ผมก็เลือกร้านคนเยอะครับ เพราะมันต้องมีอะไรสักอย่าง ที่ทำให้คนไม่ไปกินร้านนั้น ขอบคุณครับ ^^

@คุณberger0123 >>> จะเรียกแบบนั้นก็ได้ครับ เพราะหลักการแบบนี้สามารถเปิดโอกาสให้เราขายสินค้าได้ ขอบคุณมากครับ ^^

@คุณPLOY >>> เป็นกรณีที่คล้ายๆกันครับคุณพลอย แต่อันนั้นเค้าใช้วิธีการไทยมุงทำให้เราสงสัยครับ ว่ามันมีดีอะไรคนถึงเยอะ และถ้ามีเวลาผมเชื่อเหลือเกินว่า คนส่วนใหญ่ต้องลองแน่นอนครับ ขอบคุณมากครับ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ

ยินดีที่ได้เห็นคอมเม้นของทุกท่านนะครับ จุดประกายความคิดให้ผมได้เยอะเลย

ขอบคุณครับ... ^^

กฎแห่งการนำร่อง ได้ผล และดีจริงๆ

สู้ๆ ว่าแต่ว่า สอบบัญชี ทำได้มั้ยจ๊ะ

jw

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท