วิธีป้องกันนิ่วในไต


การศึกษาใหม่พบ อ้วนเพิ่มเสี่ยงนิ่วในไต [ Reuters ]

...

อ.ดร.เบรียน อาร์.มัทลากา และคณะ จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพคินส์, บัลติมอร์ US ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างมากกว่า 95,000 คน

ผลการศึกษาพบว่า ผู้ชายเสี่ยงนิ่วในไต 2 เท่าของผู้หญิง, ความเสี่ยงนี้เพิ่มขึ้นตามอายุ (ยิ่งอายุมาก-ยิ่งเสี่ยง)

...

เมื่อนำดัชนี มวลกาย (body mass index / BMI = น้ำหนักเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตร 2 ครั้ง) พบว่า คนที่มีน้ำหนักตัวปกติ (BMI = 18.5-24.9) หรือน้ำหนักเกิน (BMI = 25-29.9) เสี่ยงนิ่วในไต = 1/40 หรือ 40 คนเป็น 1 คน

ส่วนคนอ้วน (BMI มากกว่า 30) เสี่ยงนิ่วในไต = 1/20 หรือ 20 คนเป็น 1 คน 

...

BMI คนเอเชียมีค่าปกติต่ำกว่าฝรั่งหรือชาวตะวันตก เนื่องจากโครงสร้างร่างกายเล็กกว่า แนะนำให้ใช้เครื่องคิดเลขอัตโนมัติที่นี่ > [ mahidol.ac.th ]

@ ปกติ > 18.5-23.4

@ น้ำหนักเกิน > 23.5-28.4

@ โรคอ้วน > 28.5-34.9; อ้วนมาก > 35-39.9 & อ้วนมากที่สุด 40 ขึ้นไป

...

สาเหตุที่ ทำให้เกิดนิ่วในไตยังไม่เป็นที่ทราบกันแน่ชัด คนที่มีประวัติคนในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่พี่น้องเป็นนิ่วในไต หรือเคยเป็นนิ่วในไตมาก่อน มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น, ผู้ชายเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง, และพบนิ่วในไตได้มากในช่วงอายุ 20-70 ปี

โปรดสังเกตว่า นิ่วในไตไม่ค่อยพบในเด็ก-วัยรุ่น ถ้าพบต้องหาสาเหตุ เช่น นมปนเมลามีนจากจีน ฯลฯ

...

วิธีป้องกันนิ่วในไตได้แก่ [ mayoclinic ] & [ mayoclinic ]

...

(1). ดื่มน้ำน้อย > ช่วงที่คนเรามีโอกาสขาดน้ำบ่อย คือ ตอนตื่นนอนเช้า

วิธีสังเกตว่า ดื่มน้ำพอหรือไม่วิธีหนึ่ง คือ กลางวันควรปัสสาวะทุกๆ 1-2 ชั่วโมง, ถ้าปัสสาวะบ่อยเกิน 1 ชั่วโมง/ครั้ง อาจเป็นผลจากการดื่มน้ำมากเกิน, ถ้าปัสสาวะน้อยกว่า 2 ชั่วโมง/ครั้ง อาจเป็นผลจากการดื่มน้ำน้อยเกิน

...

(2). เกลือแคลเซียม > เพิ่มเสี่ยงจากการกินพืชผักในท้องที่ที่มีสารออกซาเลต (oxalate) สูง, กินวิตามิน D ขนาดสูง,

ลดเสี่ยงได้จากการดื่มนมไขมันต่ำหรือนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม 2-3 แก้ว/วัน พร้อมอาหาร กลไกที่เป็นไปได้ คือ แคลเซียมที่มีประจุบวกไปจับกับเกลือออกซาเลตที่มีประจุลบในทางเดินอาหาร ทำให้การดูดซึมออกซาเลตเข้าสู่ร่างกายลดลง (ขับออกทางอุจจาระ) 

...

(3). การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะไตอักเสบ > เพิ่มเสี่ยงนิ่วในไตชนิดรูปคล้ายเขากวาง (struvite / staghorn stones) 

กลไกที่เป็นไปได้ คือ เชื้อโรคบางชนิดสร้างเยื่อหุ้มคล้ายเมือกเหนียว หรือทำให้ความเป็นกรดด่างของน้ำปัสสาวะบริเวณรอบๆ ตัวเชื้อโรคเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการตกผลึกของนิ่วได้ง่ายขึ้น

...

วิธีป้องกันที่สำคัญ คือ ดื่มน้ำคราวละน้อยๆ บ่อยๆ ในช่วงกลางวัน (ไม่ควรดื่มน้ำมาก 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อป้องกันปวดปัสสาวะตอนนอน ซึ่งอาจทำให้นอนหลับไม่สนิท ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะ หรือฝันร้ายได้),

อย่าอยู่นิ่งนานๆ โดยเฉพาะไม่นั่งนานๆ-นอนนานๆ ลุกขึ้นมายืน-เดินอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมงในช่วงที่ไม่ได้นอนหลับ

...

(4). นิ่ว กรดยูริก (uric acid stones) พบเพิ่มขึ้นในคนที่เป็นโรคข้ออักเสบเกาต์ ป้องกันได้ด้วยการกินยารักษาโรคตามที่หมอใกล้บ้านแนะนำ (อาจมียาขับกรดยูริคออกด้วย ถ้ามีระดับกรดนี้สูงในเลือด), 

ไม่กินอาหารโปรตีนสูงเกิน โดยเฉพาะสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์, ไม่ดื่ม (แอลกอฮอล์) หนัก

...

(5). อาหาร

อาหารโปรตีนสูง-เกลือโซเดียมสูง-แคลเซียมต่ำ เพิ่มเสี่ยงนิ่วในไต, ขอให้สังเกตว่า การกินอาหารไม่เค็มจัด โดยเฉพาะฝึกไม่เติมน้ำปลา-ซอสในอาหาร ช่วยลดเสี่ยงได้ทั้งความดันเลือดสูง และนิ่วในไต

กลไกที่เป็นไปได้ คือ อาหารเกลือโซเดียมสูงเพิ่มการขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะ, อาหารโปรตีนสูงเพิ่มเสี่ยงนิ่วชนิดกรดยูริก (พบในคนไข้ข้ออักเสบเกาต์ได้บ่อย), 

...

(6). ออกแรง-ออกกำลัง หรือ "ถีบ (active)" ลดเสี่ยง

คนที่ "ถีบ (active = เคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ)" เสี่ยงนิ่วในไตน้อยกว่าคนที่นั่งๆ นอนๆ

กลไกที่เป็นไปไ้ด้ คือ การเคลื่อนไหวร่างกายหรือ "ถีบ" ให้บ่อย ช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมจากมวลกระดูก ซึ่งเมื่อสูญเสียแล้วจะขับออกทางปัสสาวะ

...

(7). ระวังอย่าให้อ้วน

คนที่อ้วนเพิ่มเสี่ยงนิ่วในไต ปัจจัยข้อนี้พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย, ทีนี้ถ้าอ้วนไปแล้ว... อย่าเพิ่งตกใจ ให้รีบเปลี่ยนเป็นอ้วนฟิตก่อนในขั้นแรก ขั้นต่อไปค่อยหาทางควบคุมน้ำหนัก

...

(8). ความดันเลือดสูง

ความดันเลือดสูงเพิ่มเสี่ยงนิ่วในไต 2 เท่า

...

(9). สาเหตุอื่นๆ

สาเหตุอื่นๆ ได้แก่ การผ่าตัดลดความอ้วนแบบทำบายพาสส์ (bypass gastric surgery) หรือให้อาหารผ่านลำไ้ส้เล็กส่วนต้นน้อยลง (เพื่อลดการย่อยและดูดซึมอาหาร), ท้องเสียเรื้อรัง หรือโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังบางชนิด (inflammatory bowel disease)

...

สรุปคือ การ ดื่มน้ำให้พอ, การกินอาหารให้หลากหลาย มีผักบ้างเนื้อบ้าง (ลดเนื้อลงสักครึ่งหนึ่งดีกว่าไม่ลดเลย), กินแคลเซียมให้พอ (กินพร้อมอาหารจึงจะดี),

ไม่กินเค็มมากเกิน (เน้นลดอาหารสำเร็จรูป เช่น หมูหยอง หมูแผ่น เบคอน ไส้กรอก ฯลฯ) และที่สำคัญ คือ "ถีบ (active)" หรือออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ ช่่วยถนอมไตของพวกเราให้ดีไปได้นานทีเดียว

...

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดี และมีไต (อังกฤษ = kidney; บาลี = วักกัง) ดีไปนานๆ ครับ

...

 ติดตามบล็อกของเราได้ทางทวิตเตอร์ > [ Twitter ]

ที่มา                                                         

  • Thank Reuters > Obesity linked to higher risk of kidney stones. January 2010. / Source > Urology, February 2010.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. > 19 มกราคม 2553.
  • ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
หมายเลขบันทึก: 330537เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2010 12:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท