ข่าวการเมืองไทย


รัฐฯ พร้อมแจงศาลปกครอง

“อภิสิทธิ์” เผยไม่หวั่นถูกฟ้องเพิกถอนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี โวแจงข้อมูลได้ โยนความเชื่อมั่นต่างชาติอยู่ที่คำวินิจฉัยศาลปกครอง

วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่สมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้เพิกถอน หรือยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงานการให้ความเห็นขององค์กรอิสระ ในโครงการ หรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง พ.ศ.2553 ฉบับลงวันที่ 12 ม.ค.2553 ว่า เป็นเรื่องที่เราต้องชี้แจงต่อศาลปกครอง แต่เราคิดว่า ได้ดูอย่างรอบคอบแล้ว และนี่เป็นกระบวนการเริ่มต้นการแก้ไขปัญหาได้

ถามว่า เมื่อมีคดีไปถึงศาลปกครองแล้ว จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า อยู่ที่คำวินิจฉัยของศาล ทั้งนี้ เรื่องใดที่มีความเห็นที่โต้แย้ง ก็มีการยื่นร้องศาลได้ทั้งนั้น แต่ตนคิดว่า เราได้ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของหลายฝ่ายมากที่สุด ก็หวังว่า จะชี้แจงแล้วคงไม่มีปัญหาอะไร.

เสื้อแดงร้อง“ป๋าเปรม-สุรยุทธ์”ลาออก

เมื่อเวลา 14.00 น. แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื่อ นพ.เหวง โตจิราการ นายจรัล ดิษฐาภิชัย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายพายัพ ปั้นเกษ นายสุพร อัตถาวงศ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ นายประแสง มงคลสิริ เดินทางมาพร้อมกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน ชุมนุมด้านหน้าทำเนียบองคมตรี เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงองคมนตรี เรื่อง การใช้กฎหมายสองมาตรฐาน โดยมีนายธานินทร์ คงยังยืน และนายฉัตรสุวรรณ วิทยะวาณิชกุล เจ้าหน้าที่นิติกร 7 สำนักราชเลขาธิการ เป็นผู้มารับมอบหนังสือ ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 6 จำนวน 1 กองร้อย หรือประมาณ 150 นาย นำโดยพ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบก.น.6 ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย แกนนำ นปช.ยังได้นำเอกสารแนบท้ายมายื่นต่อองคมนตรี ประกอบด้วย 1.เอกสารสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการถือครองที่ดินบริเวณเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา จำนวน 1 ชุด 9 หน้า และ 2.เอกสารคดีสนามกอล์ฟเขาสอยดาว ไฮแลนด์ จ.จุนทบุรี จำนวน 1 ชุด 28 หน้า นายวีระ เป็นแกนนำในการอ่านจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว โดยระบุว่า ขอกราบเรียนถึงองคมนตรี คือ 1.จำเดิมเมืองไทยมีปัญหาการใช้กฎหมายสองมาตรฐานอยู่บ้างแต่หลังการยึดอำนาจ 19 กันยา 2550 ปรากฎว่ามีการใช้กฎหมายสองมาตรฐานมากขึ้นอย่างชัดแจ้ง จนสังคมไทยไร้หลักนิติรัฐ นิติธรรม ประชาชนต่างรู้สึกถึงความอยุติธรรมอย่างแพร่หลาย ทำให้เกิดความคับแค้นใจนำนวนมาก 2.การใช้กฎหมายสองมาตรฐานหากใช้กับบุคคลทางการเมืองยังไม่สู้เป็นอัศจรรย์ แต่กลับปรากฎข้อมูลข้อเท็จจริงในขณะนี้ว่า มีการใช้กฎหมายสองมาตรฐานเป็นคุณกับผู้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีถึง 2 ท่าน คือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กรณีบุกรุกเขายายเที่ยง และพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กรณีสนับสนุนและปกป้องกลุ่มบุคคลให้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาสอยดาว เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว และเขตป่าไม้ถาวรท้องที่ หมู่ 2 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี 3.กรณีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติของพล.อ.สุรยุทธและพล.อ.เปรม มีการตรวจสอบจากฝ่ายนิติบัญญัติ โดยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษและดำเนินการสอบสวนขั้นต้นแล้ว ถึงสองกรณี โดย นต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมจริยธรรมแก่นักการเมือง ได้นำข้อมูลไปอภิปรายในสภา เมื่อเดือนตุลาคม 2550 ต่อจากนั้นมีการแจ้งความดำเนินคดีกับพล.อ.สุรยุทธ์ แต่การดำเนินการเป็นไปอย่างล่าช้าจนถึงปัจจุบัน ส่วนกรณีป่าสงวนเขาสอยดาว ซึ่งเป็นสนามกอล์ฟสอยดาว ไฮแลนด์ ของบริษัทสวนจันทบุรีจำกัด ซึ่งกลุ่มบุคคลที่ถือหุ้น เป็นผู้ถือหุ้นและบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด อยู่ด้วย โดยมีพล.อ.เปรม เป็นประธานคณะที่ปรึกษาธนาคารอยู่ในระยะหนึ่ง รวมทั้งเป็นประธานในพิธีเปิดสนามกอล์ฟแห่งนี้อย่างเป็นทางการ เรื่องดังกล่าวนายอนันต์ ดาโลดม สมาชิกวุฒิสภาและประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ได้รับการร้องเรียนจากราษฎร จึงขอให้กรมป่าไม้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ตั้งแต่สิงหาคม 2546 และกรมป่าไม้ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่า มีผู้กระทำผิดหลายราย จึงร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ตั้งแต่ 17 กรกฏาคม 2546 แต่การดำนินการไม่คืบหน้าจนถึงปัจจุบัน 4.ความล่าช้าของการดำเนินการตามกฎหมายทั้งสองกรณี เป็นที่ทราบกันว่า เกิดจากความเกรงกลัวต่ออำนาจอิทธิพลของผู้กระทำความผิดและผู้สนับสนุน ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญในบ้านเมือง อันเป็นอุปสรรคต่อการประศาสน์ ความยุติธรรมอย่างเสมอภาค และก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนขณะนี้ ด้วยเหตุนี้ในฐานะประชาชนผู้ตระหนักในปัญหาชาติบ้านเมือง จึงกราบเรียนมาเพื่อให้องคมนตรีได้รับทราบข้อเท็จจริงพร้อมกับขอทราบความเห็นของคณะองคมนตรี ผ่านทางสื่อสาธารณะ ดังที่หลายท่านได้แสดงความคิดเห็นไว้หลายประเด็นหลายวาระ เกิดประโยชน์ในทางความคิด มวลชนเสมอมา นายวีระ กล่าวต่อว่า แกนนำ นปช.ไม่ได้มีอคติกับองคมนตรีท่านหนึ่งท่านใด เพียงแต่มีความเชื่อตามหลักคำสอนของพระบรมศาสดาที่ว่า "ทุกข์เกิดที่ไหนต้องดับที่นั่น" พร้อมกับความเชื่อว่าการใช้กฎหมายอย่างศักสิทธิ์และเสมอภาคกัน จะทำให้สังคมเกิดสันติสุขได้ องคมนตรีท่านใดกระทำการไม่เหมาะสมอย่างหนึ่งอย่างใด ก็ควรได้พิจารณาตัวเองรับผิดชอบเป็นการเฉพาะตัว เพื่อรักษาสถาบันองคมนตรีให้มีความโปร่งใส มีเกียรติ และเป็นที่เคารพนับถือของประชาชน เช่นที่เคยมีมาในอดีต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการชุมนุมและการเข้ายื่นหนังสือของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ ไม่มีองคมตรีท่านใดอยู่ภายในทำเนียบองคมนตรี มีเพียงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่ทำงานอยู่ภายใน ขณะที่มีรายงานว่าทั้งพล.อ.เปรมและพล.อ.สุรยุทธ์ อยู่ในบ้านพักของตัวเอง อย่างไรก็ตามในวันอังคารที่ 19 มกราคมนี้ จะมีการประชุมทำเนียบองคมตรีประจำสัปดาห์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่นิติกร จะนำเอกสารรวบรวมเข้าสู่ที่ประชุมองคมตรีเพื่อให้รับทราบการเดินทางมายื่นหนังสือของกลุ่มเสื้อแดงต่อไป

 

 

หมายเลขบันทึก: 329687เขียนเมื่อ 21 มกราคม 2010 09:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ข่าวการเมืองน่าสนใจดีนะ

มาเม้นท์ให้ครับ

อ่านแล้วสงสารประเทศไทยจังเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท