สภาวะและศีล
หนูตื่นขึ้นมาตีสี่ ลุกขึ้นมานั่งสมาธิภาวนา สัปหงก ใจคร่ำครวญงอแง ประมาณตีห้าทำวัตรเช้า แล้วก็มานั่งเขียนบันทึก ที่ ๆ มีเราอยู่เขามีความสุข หรือหนักใจ?, พุทธวิธีกับการพัฒนาตนเอง, เราเลือกได้ เราเลือกที่จะใช้ชีวิตได้ ไปวิ่งออกกำลังกายในกระทรวง วันนี้หนูออกมาสายหน่อย แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด ทำเต็มที่ วิ่งเสร็จกลับมาที่ห้อง ใจโล่งสบาย จึงหยิบสมุดบันทึกของครูท่านมาเปิดอ่าน ขณะที่อ่านหนังสือ เป็นการอ่านกับลมหายใจที่ชัดเจน หนูรู้สึกซาบซึ้งในข้อความที่ท่านเขียน หนูปิ๊งขึ้นมาว่า “น่าเอามาเขียนบันทึก” สมุดบันทึกจากครู ι คนเราโดนล่อด้วยเหยื่อ (สมุทัย) เขียนเสร็จแล้วรู้สึกสบาย แต่พอหันมองนาฬิกา สายแล้วยังไม่ได้อาบน้ำ หนูโดนความเพลิดเพลินในการเขียนบันทึกครอบงำ จึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ไปทำงาน พอถึงที่ทำงาน เรียนปรึกษาพี่ ๆ เรื่องงานแต่ก็รู้สึกได้ว่าใจหนูมีกังวล จากที่เมื่อวานไม่ได้เข้ามาที่ทำงาน มีบันทึกข้อความที่ต้องเคลียร์หน่อย แต่หนูก็โอ้เอ้ ไม่ยอมไปวาดภาพซะที จนบ่นออกมา พี่เลี้ยงให้กำลังใจว่า ก็แค่ทำใจสบาย ปล่อยให้มือมันเลื่อนไปเรื่อย ๆ หนูยิ้มและหัวเราะไปกับท่าน พอหนูบอกตนเองว่า เอาหล่ะ ยังไงก็ต้องอดทน ฝึกฝนตนเอง มันยากเพราะใจไม่อยากทำ มันเป็นวิภาวะตัณหานะ มันหลอกเอา เสร็จแล้วก็ เอ๋า ครูท่านไม่ได้ให้ใส่ชื่อ อย่ามั่ว อะไรมันเกิดขึ้นในใจก็รู้อย่างที่มันเป็นไม่ต้องไปใส่ชื่อ
พอเริ่มลงมือ หนูก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ แต่พอวาดแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่พอวาดไปนาน ๆ ความเครียดก็เข้ามาอีก ค่อยมาระลึกถึงคำครูได้ว่า หายใจสบาย แล้วจะเห็นทางแก้ปัญหา หนูก็หยุดดึงลงหายใจเข้าลึก ๆ กระตุ้นความรู้สึกตัวของตนเอง พอประมาณห้าโมงครึ่ง จึงวางมือออกมาจากเครื่อง เดินมาที่โต๊ะ นั่งลงอ่านความคิดเห็นที่แต่ละท่านมาตอบ แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีความคิดขึ้นมาว่า เอ.........ข้อความจากสมุดบันทึกของครู สมควรหรือไม่ที่จะเอามาเขียนบันทึก เพราะหนูยังไม่ได้ขออนุญาตครูเลย มีแว๊บความกังวลเข้ามา แล้วก็มีเสียงบอกว่า “ถ้าไม่เหมาะไม่ควร ครูท่านคงเมตตาเตือนเอง” ก็มีเสียงถามอีกว่า “แล้วทำไมไม่ถามก่อน ยังไงก็ผิด” หนูรู้สึกหนัก ๆ จึงหยุดการพิจารณาเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วก็บอกตนเองว่า อะไรที่ทำไปแล้ว ก็ทำไป คราหลังให้ปรับปรุงใหม่ ขออนุญาตครูก่อน
แล้วก็หันมาถอดบทเรียนกับงานที่ทำ เภสัชเวท ι เมื่อต้องวาดรูปโครงสร้างของผิวใบล่าง หนูรู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่ใช้ความอดทน พยุงความบีบคั้นในใจ ตอนแรกกะว่าเที่ยง ๆ จะไปธุระที่สถานีตำรวจ แต่กว่าจะทำอะไรเสร็จก็เที่ยงกว่า ๆ แล้ว อาจจะไม่ทัน จึงตัดสินใจไปทานอาหารเจ ที่กรมอนามัย
บ่าย ๆ มาเริ่มลุยงานอีกครั้ง ครานี้หนูตั้งใจว่าจะ Calibrate scale ก่อนลงมือวาดใหม่ นั่ง ๆง่วนกับการคำนวณอยู่ แล้วเพื่อนเดินเข้ามาทัก ถามไปถามมา เธอช่วยให้ความกระจ่างในงาน ว่าเครื่องสามารถลอกลายได้ ใจหนูสว่างขึ้นมา ปีติเห็นทางออก เหมือนเธอมาโปรด รู้สึกขอบพระคุณเธอมาก ๆ หนูนั่งลอกลายไปเรื่อย ๆ อันแรกก็ไม่ค่อยจะได้เรื่อง ปรับแก้ไปเรื่อย ๆ พอจะรู้ว่าต้องลงลายเส้นอย่างไร สุดท้ายก็ได้ผิวใบล่าง เสร็จแล้วดูนาฬิกามีเวลาเหลืออีกชั่วโมงหนึ่ง หนูจึงลองวาดผิวใบบนด้วย ใช้เวลาลดลงชัดเจนจากชั่วโมงหนึ่ง เหลือครึ่งชั่วโมง หนูบอกตนเองว่า
“เธอทำได้ดีมาก ต้องพัฒนาตนเองต่อไป อย่าหยุดพัฒนา”
พองานทุกอย่างเสร็จหนูจึงกลับมาที่โต๊ะนั่งลงเขียนบันทึกด้วยใจที่เบิกบาน ปนเอ็นดูตนเอง เภสัชเวท ι วาดภาพผิวใบจากการลอกลาย
เลิกงานวันนี้ต้องปรับเส้นทางการออกกำลังกายเพราะต้องไปธุระที่สถานีตำรวจ จึงเลือกที่จะเดินไป พอเสร็จแล้วก็เดินกลับ แต่หนูแวะข้างทางที่ห้างโลตัสรัตนาธิเบศ ซึ่งหนูไม่เคยเข้ามาก่อนเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ พอเห็นร้าน MK ใจหนูก็มีเสียงว่า “อ้าวตรงนี้ก็มี รู้งี้ชวนครูเดินมาดีกว่า ใกล้ ๆ เอง” เออทุกอย่างดีเสมอแหละ หนูเห็นว่ามืดแล้วจึงกะว่านั่งรอรถเมล์ดีกว่า แต่หนูเห็นคนวิ่งแย่งกันขึ้น คันแล้วคันเล่า หนูก็เพียงนั่งดูเฉย ๆ สุดท้ายหนูตัดสินใจเดินกลับ แล้วค่อยนั่งมอร์เตอร์ไซด์จากปากซอบกลับมาที่หอพัก
ศีล
ไม่มีความเห็น