Orn
น.ส. กนกอร ตั้งกุลบริบูรณ์

ภาษาจีน กับคนเกาหลี ขอ..นิดเดียว !


ถ้าขอแล้วไม่ได้ ลองขอแค่นิดเดียวดูนะคะ ^^

สวัสดีค่ะ ดึกๆแบบนี้มีเรื่องมาเล่าค่ะ

ตอนดิฉันไปเรียนเมืองจีนได้เจอเพื่อนชาวเกาหลีซึ่งมาเรียนก่อนหน้าดิฉันเทอมหนึ่งเธอชื่อว่า Yizhen (อี้เจิน) ตอนที่เจอกันเธอน่าจะอายุราวๆ 30 ปีแล้ว ตอนนั้นดิฉันเพิ่งจะเรียนระดับเริ่มต้น ส่วน Yizhen เรียนระดับกลางแล้ว พอเริ่มสนิทกันก็เลยถามไปว่าทำไมเธอยังไม่ทำงานแต่กลับมาเรียนภาษาจีนอยู่ที่นี่ ( เนื่องจากเห็นเธออายุก็ 30 แล้ว น่าจะทำงานจริงจังได้แล้ว) เลยถามไปว่าแล้วทางบ้านไม่ว่าอะไรหรอที่ยังไม่ทำงานอีก เธอเลยเล่าให้ฟังว่าตอนแรกเธอเคยทำงานเป็นครูสอนคณิตศาสตร์เด็กๆ แต่ต่อมาเธอเริ่มเบื่อๆแล้วเธอก็ชอบภาษาจีน ( จากที่ถามๆเพื่อนเกาหลีมาพวกเขาบอกว่าภาษาจีนสำหรับคนเกาหลีนั้นสำคัญ ถ้าใครรู้ภาษาจีนดีแล้วล่ะก็จะมีโอกาสด้านการงานมากกว่าคนอื่น ก็คล้ายๆกับที่คนไทยรู้ภาษาอังกฤษนั่นแหล่ะค่ะ )

กลับมาที่ Yizhen เธอบอกว่าตอนแรกที่บ้านเธอไม่ให้มาเรียน เนื่องจากเธอเป็นลูกสาวคนเดียวด้วย ที่บ้านอยากให้ทำงานแล้วก็หาสามีแต่งงานซะ เมื่อเห็นท่าว่าจะไม่ได้มาแล้วเธอจึงขอกับที่บ้านไปว่า "ขอมาเรียนแค่นิดเดียวก็ได้"  1 เทอม (ประมาณ 4 เดือน) ทางบ้านจึงอนุญาติ แต่พอมาเรียนแล้วเธอชอบภาษาจีนมากแล้วก็ชอบเมืองจีนมากไม่อยากกลับไปเกาหลี เธอจึงขอที่บ้านว่าขอเรียนต่ออีกนิดนึง อีก 1 เทอมเธอบอกที่บ้านไปว่าตอนนี้ภาษาจีนของเธอเริ่มดีแล้ว ถ้าได้เรียนต่ออีกนิดต้องดีขึ้นแน่ๆแล้วก็จะไม่ทำให้ลืมด้วยเมื่อกลับไปเกาหลี ซึ่งทำให้ดิฉันได้เจอกับเธอในเทอมที่ 2 นั่นเอง จากนั้นเธอก็เข้าทดสอบ สอบ HSK (สอบวัดระดับความรู้ทางภาษาจีน) เธอสอบได้ระดับ 6 ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นกลางๆ เธอจึงบอกที่บ้านไปอีกว่าเธออยากจะเรียนภาษาจีนเพิ่ม อยากสอบ HSK ให้ได้ระดับสูง เพราะว่าถ้าสอบได้ระดับสูงๆแล้ว โอกาสที่จะได้งานดีๆเงินเดือนสูงๆก็จะเพิ่มตามมาด้วย เธอจึงได้เรียนต่ออีก 1 เทอม เมื่อทดสอบอีกครั้งเธอสอบได้ระดับ 7 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงต้นๆแล้ว แต่เธอก็ยังไม่พอใจ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วถ้าสอบได้ ระดับ 8 จะถือว่าทักษะทางด้านภาษาจีนนั้นสูงเป็นที่ยอมรับของบริษัทต่างๆ มาถึงตอนนี้ทางบ้านของเธออยากให้เธอกลับบ้านไปทำงานได้แล้ว แต่เธอก็ ขอกลับทางบ้านไปว่า ขออยู่ต่ออีกนิดเดียว ถ้าให้เธออยู่ต่ออีกนิดล่ะก็เธอต้องสอบได้ระดับ 8 แน่ๆ ในที่สุดทางบ้านก็ใจอ่อนยอมตกลง ให้เธออยู่ต่ออีกจนได้

แล้วสุดท้ายเธอก็ทำได้ เธอสอบได้ HSK ระดับ 8 ขั้นสูง รวมระยะเวลาแล้วเธอเรียนอยู่ที่เมืองจีนถึง 2 ปีเต็ม ตอนนี้เธอกลับไปอยู่ที่เกาหลีแล้วและทำงานเป็นอาจารย์ค่ะ

สรุป

ตอนแรก Yizhen ขอมาเรียนภาษาจีน 1 ปีแต่ที่บ้านไม่ให้ เธอจึงบอกว่า ขอมาเรียนแค่นิดเดียวก็ได้ จากนั้นก็ใช้การขอทีละนิดมาเรื่อยๆ จนในที่สุด ได้เรียนอยู่ที่เมืองจีนถึง 2 ปี (น่าอิจฉา ที่บ้านดิฉันให้เรียนแค่ปีเดียวก็เรียกตัวกลับแล้ว)

ถ้าตอนแรกคุณขอ แล้วขอไม่สำเร็จล่ะก็ ลอง ขอแบบทีละนิด ทีละนิด ดูซิคะ อาจจะได้ผลแบบเพื่อนของดิฉันก็ได้ค่ะ

เมืองต้าเหลียนที่ฉันกับ Yizhen เคยไปเรียนภาษาจีนค่ะ เป็นเมืองตากอากาศติดชายทะเล อากาศดีน่าอยู่ค่ะ ติดกับเมืองหลวงปักกิ่งค่ะ

หมายเลขบันทึก: 325989เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2010 23:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

เคยอ่านเจอเรื่องการตอบตกลง

ถ้าเราสามารถให้คู่สนทนา ตอบตกลงในเรื่องเล็กๆได้สักเรื่องนึง ถ้าต่อมาขอในเรื่องที่ใหญ่ขึ้น จะมีแนวโน้มที่จะตกลงได้ง่ายกว่า

เค้าบอกว่าเป็นเรื่องของการรักษาความสอดคล้องของคน

คนเคยให้ความร่วมมือครั้งนึงแล้ว ครั้งหน้าก็จะให้ความร่วมมืออีกเป็นส่วนใหญ่

เค้าเสนอ case เรื่องขอติดป้ายรณรงค์อะไรซักอย่าง(พวกเมาไม่ขับอะไรยังงั้น) หน้าบ้านของกลุ่มตัวอย่าง

โดยถ้าขอติดป้ายใหญ่หน้าบ้านเลย มักจะได้รับปฏิเสธแต่ต้น

แต่ถ้าเริ่มจากขอติดป้ายเล็กๆเป็นที่ติดหน้าต่าง แขวนๆอันนึง

แล้วซักพักก็ค่อขอเพิ่มเป็นป้ายเล็กๆ แล้วสุดท้ายขอเป็นป้ายใหญ่ จะมีโอกาสตอบตอลงสูงกว่าขอไปตั้งแต่แรก

น่าจะเป็นเรื่องเดียวกับที่ยกตัวอย่างนี้นะครับ

เหอๆ ผมเพิ่งเอาตัวอย่างเคสนี้ลงเลย

ตรงกับพี่ข้างบนเดะเลยครับ ^^

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

ส่วนตัวคิดว่าคนเรานั้นส่วนมากแล้วจะมีการระวังตัว ปกป้องตัวเอง เหมือนเป็นสัญชาติญาณอย่างหนึ่ง เวลาที่โดนขอให้ทำอะไรหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะบอกปฎิเสธไว้ก่อนโดยที่ยังไม่ทันได้ฟังหรือคิดตามข้อมูลที่บอกมาเลย แต่ถ้าลองได้พูดคุยกันไปสักพักหนึ่งโน้มน้าวให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวของผู้พูด แล้วลองเริ่มต้นขอจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ ก่อนนั้นจะมีโอกาสสำเร็จมากกว่าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการขอ การทดลอง การขายสินค้า การให้คำแนะนำ การเรียนรู้ หรือเรื่องใดๆก็ตามส่วนใหญ่ถ้าเราเริ่มจากจุดเล็กๆก่อนก็จะนำไปสู่จุดที่ใหญ่ขึ้นได้ค่ะ

ดีมากเลยค่ะ...จริงๆเราอาจเคยใช้เทคนิคนี้มาแล้วแต่ไม่รู้ตัวก็ได้

เป็นคนนึงค่ะที่อนาคตจะเอาเทคนิคนี้ไปใช้...หลังจากเรียนจบแน่นอน...^^

ค่ะ ลองนำไปให้ดูนะคะ เริ่มจากการขอในสิ่งเล็กๆดูก่อนค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ

พอดีที่ร้านเป็นร้านอาหารค่ะ รู้สึกจะโดนลูกค้าใช้มุกนี้บ่อยเหมือนกัน คือจะขอส่วนลดค่ะ นิดๆ หน่อยๆ พอได้แล้ว คราวหน้าก็จะขออีก (อ้างว่าทางร้านเคยให้) คุณแม่ก็กลายเป็นเกรงใจน่ะค่ะ เลยต้องให้แทบทุกครั้ง ถ้าครั้งไหนไม่ได้ให้ ทางร้านจะรู้สึกผิดชอบกล(ซะงั้น) คนที่เคยมาขอเซ็นไว้กับร้านเหมือนกันค่ะ ถ้าได้เซ็นครั้งนึงแล้วจะมีครั้งที่ 2 3 4 5 6 แน่นอน ถ้าเจอคุณลูกคุมร้านเขาไม่กล้าขอเซ็นค่ะ เพราะคุณลูกจะไม่ให้ง่ายๆ ต้องมีมีค่าของมาวาง แต่เซ็นกับคุณแม่นี่ไม่ต้องวางอะไรเลยค่ะ

เจอแบบนี้ก็แย่เหมือนกันนะคะ พวกมาขอเซ็นๆ ติดไว้เนี่ย คุณออย ลองขอกลับไปบ้างสิคะ ขอให้จ่ายหนี้เก่าให้หมดก่อนค่อยให้เซ็นใหม่

เคยเหมือนกันค่ะ ..ขอไปจีนเหมือนกันเลย

การขอเป็นผลสำเร็จ ^^

ขอไปเรียนที่จีนมาหรอ ไปที่ไหนมาเอ่ย

การ"ขอ"นี่ เป็นอะไรที่ "ร้ายกาจ"


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท