สาส์นปีใหม่.. ถึงพี่น้องประชาชนชาวไทย


  

 

 ปี 2552 เป็นปีแห่งความทุกข์ยาก และความระทมขมขื่นของชาวไทยทั้งประเทศ ความแตกแยกแตกความสามัคคีในชาติขยายตัวไปอย่างกว้างขวาง คุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม และหลักศาสนาทั้งหลายถูกล่วงละเมิดและย่ำยีอย่างไม่ละอายต่อบาป สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกบ่อนทำลายชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน การทุจริตคอร์รัปชั่นดาษดื่นทั้งแผ่นดิน และเพิ่มความรุนแรงชนิดที่จะโกงกินกันจนสิ้นชาติ ทำให้ประชาชนทั้งชาติต้องอเนจอนาถถ้วนทั่ว 

ขื่อแปของบ้านเมืองถูกทำลายลงอย่าง ย่อยยับ สิทธิเสรีภาพของปวงชนถูกย่ำยีและถูกละเมิดตามอำเภอใจ บทกฎหมายคล้ายประหนึ่งมีไว้เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับผู้มีอำนาจ เศรษฐกิจของชาติกำลังพังพินาศถ้วนหน้า ศักดิ์ศรีของชาติถูกเหยียบย่ำทำลาย ระบบ ระบอบต่าง ๆ อ่อนแอคลอนแคลนชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ประเทศไทยกำลังกลายเป็นประเทศที่ยากจน ขาดแคลนและล้าหลังที่สุดในเอเชียไปแล้ว ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรและความภาคภูมิใจของคนในชาติกำลังจมดิ่งลงไปในประวัติ ศาสตร์ ชะตากรรมของชาติและประชาชนไทยจึงน่าอเนจอนาถนัก 

   วันนี้ประเทศไทยมีรัฐบาลก็เหมือนหนึ่ง ไม่มี มีกฎหมายก็เหมือนหนึ่งไม่มี อำนาจอธิปไตยทั้งสามหลักมีอยู่ก็แต่ในตัวหนังสือ แต่ไม่มีฐานะและคุณค่าในทางความเป็นจริง ในปีหน้าที่จะมาถึง สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงดำรงอยู่ต่อไป และจะทวีความรุนแรงมากขึ้น สถานการณ์มาถึงขั้นเผชิญหน้าที่ความขัดแย้งไม่อาจแก้ไขได้โดยหนทางสันติ ดังนั้นคำประกาศที่จะทำสงครามแตกหักเพื่อโค่นล้มทำลายล้างกันชนิดไม่เกรงฟ้า ไม่กลัวดิน ไม่กลัวความผิดต่อบทกฎหมายของบ้านเมืองจึงเกิดขึ้นอย่างหนาหูหนาตา ประหนึ่งว่าประชาชนชาวไทยไม่ได้อยู่ในครรลองสายตาหรือไม่ได้มีอยู่ในผืนแผ่น ดินอันเป็นราชอาณาจักรแห่งนี้เลย 

   สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขอประกาศต่อมวลมหาประชาราษฎร์ชาวไทยว่า ประชาชนชาวไทยยังคงดำรงอยู่ ยังคงติดตามจ้องมองการกระทำของบรรดาผู้มีอำนาจและการช่วงชิงอำนาจของเหล่าคน ผู้บ้าคลั่งอย่างไม่กระพริบตา ถึงแม้คนเหล่านั้นจะไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา แต่ประชาชนก็ยังดำรงอยู่และยังยิ่งใหญ่เสมอ ไม่มีวันที่จะจมดิ่งและสูญหายไปจากประวัติศาสตร์และอนาคตของประเทศชาติได้เลย 

ในปีที่ผ่านมา สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยได้พบว่า ประเทศไทยได้เสียเวลาไปกับความขัดแย้งเรื่องประชาธิปไตยมากว่า 60 ปีแล้ว การแสวงหาทางออก การโต้แย้ง และความขัดแย้งเรื่องประชาธิปไตยกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำลายชาติบ้าน เมืองและประชาชนอย่างยับเยิน ผลิตผลแท้จริงคือความพินาศย่อยยับของประเทศชาติและประชาชน การเลือกตั้งและสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตยที่ปนเปื้อนและชั่วช้าสามานย์ที่ ดำเนินมากว่า 60 ปีแล้ว คือบทเรียนอันเจ็บปวดของประเทศชาติและประชาชน มันจึงไม่ใช่สิ่งที่เป็นทางรอดหรือเป็นความหวังอย่างแท้จริงของประเทศชาติ และประชาชน 

   กว่า 60 ปีที่ทุ่มเถียงและหาทางออกเรื่องประชาธิปไตย ผลประโยชน์ตกอยู่กับนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียว ในขณะที่ประเทศชาติและประชาชนส่วนใหญ่ยากจนข้นแค้นและล้าหลังลงไปทุกที ในปีที่ผ่านมานี้สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการมุ่ง เน้นรณรงค์ที่ตรงเป้าเข้าจุดไปยังปมปัญหารากฐานของประเทศชาติคือทางออกที่มี ผลจริง และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวางมากขึ้นทุกที 

ในปีที่ผ่านมา สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยได้ทำการรณรงค์ในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนโดยตรง 2 เรื่อง คือ 

เรื่องแรก รณรงค์เรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินให้แก่ประชาชนผู้ครอบครองทำประโยชน์ เป็นเนื้อที่ประมาณ 100 ล้านไร่เพื่อทำให้ที่ดินอีก 1 ใน 3 ของประเทศ มีคุณค่า มีราคาและเป็นสินทรัพย์ของประชาชน เป็นมูลค่าถึง 6 ล้านล้านบาท และปลดเปลื้องพันธะให้พื้นที่ 100 ล้านไร่พ้นจากความยากจน ขาดแคลนและล้าหลัง ภารกิจนี้ได้รับการขานรับอย่างกว้างขวาง 

เรื่องที่สอง การรณรงค์เรื่องการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การคมนาคมทางบกให้ฟื้นฟูรถไฟเป็น หลักของการคมนาคมทางบกตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า อยู่หัว หยุดยั้งหายนะของประเทศชาติจากรายจ่ายค่านำเข้าพลังงานน้ำมัน เพิ่มสมรรถนะการแข่งขันของทุกภาคส่วนของประเทศชาติ และแก้ปัญหาพื้นฐานทั้งหลายของประเทศชาติให้ลุล่วงไป 

ทั้งสองเรื่องนี้ได้ปลุกเร้าประชาชนชาว ไทยให้ตื่นรู้อย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่สำเร็จ เราจะยังคงรณรงค์รุดหน้าต่อไป จนกว่าจะปรากฏเป็นจริงขึ้น และจะเพิ่มภารกิจในการรณรงค์อีก 2 เรื่อง คือ 

เรื่องที่หนึ่ง รณรงค์เรื่องการปฏิรูปการปกครอง มุ่งเน้นพัฒนาการปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เป็นรูปแบบเทศบาลทั่วทั้งราชอาณาจักรในที่สุด เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการท้องถิ่นและงบประมาณ ให้การพัฒนาท้องถิ่นเป็นไปตามความปรารถนาของปวงชนในท้องถิ่นนั้น และเพื่อลดรายจ่ายที่กำลังทำให้ประเทศชาติประสบหายนะให้ได้ทันท่วงที 

เรื่องที่สอง การรณรงค์เพื่อปราบปรามการคอร์รัปชั่นที่กำลังแผ่ขยายเบ่งบานทั่วประเทศไทย ให้มีผลจริง โดยจะปราบปรามการคอร์รัปชั่นตรงผลที่เกิดขึ้น คือปราบปรามผู้ที่ร่ำรวยจากการทุจริตคอร์รัปชั่น ด้วยการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปราบปราม เพื่อให้มีการตรวจสอบการได้มาซึ่งทรัพย์สินว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ และมีการเสียภาษีแก่รัฐโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่    

  ดังนั้นในปีหน้านี้ ภารกิจของพี่น้องสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยทั่วประเทศและทั่วโลกคือการ รณรงค์ใหญ่ 4 เรื่อง มุ่งให้บังเกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติโดยตรง จึงเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่และมีเกียรติของประชาชนชาวไทย เพราะไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลหรือมีอำนาจปกครองบ้านเมือง ขอเพียง 4 เรื่องนี้บรรลุผลสำเร็จก็จะธำรงชาติบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎรให้เจริญุ รุ่งเรืองและร่มเย็นเป็นสุขได้อย่างแน่นอน

    พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพรัก ในต้นปีหน้าเป็นห้วงเวลาที่เหล่าผู้ช่วงชิงอำนาจประกาศประหัตประหารทำลาย ล้างกัน ไม่คำนึงถึงผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน มันเป็นการกระทำที่เป็นปรปักษ์และขัดต่อผลประโยชน์ของชาติ เป็นการกระทำที่ทำลายชาติบ้านเมืองและความสงบสุขของปวงชน ดังนั้นจึงเป็นภารกิจของประชาชนที่ต้องคัดค้าน ต่อต้าน เปิดโปง และทำความเข้าใจกับพี่น้องคนไทยไม่ให้ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาและไม่ เป็นเครื่องมือของการช่วงชิงอำนาจ อย่ายอมเสียเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อความกระหายเลือดของผู้มีอำนาจเป็นอันขาด

  ความอยู่รอดของประเทศชาติและความ รุ่งเรืองไพบูลย์ของราชอาณาจักรอยู่ที่ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง และความเป็นปกติสุขของบ้านเมืองและประชาชน ประชาชนคือผู้สร้างและผู้พิทักษ์รักษาปัจจุบันและอนาคตของประเทศชาติ เราจะไม่ยอมให้ใครไหนมาทำลายเป็นอันขาด เราจะต้องสร้างชาติของเราให้เจริญรุ่งเรืองมั่นคงและมีความเป็นปกติสุขสืบ ไป.

 

สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย

28 ธันวาคม 2552

ติดตามข้อมูลได้ที่เวบสมัชชาฯ www.spt-th.com

             

หมายเลขบันทึก: 324020เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2009 08:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท