ประชาธิปไตยในยุโรป 1939 – 1989
1.1. รัฐที่มีลักษณะเผด็จการหรืออำนาจนิยม
1.2. รัฐตามแนวคิดของมาร์กซิสม์
ดังนั้นจึงอาจจะกล่าวได้ว่า ชะตากรรมของประชาธิปไตยขึ้นอยู่กับผลของสงคราม
3.1. ภายใต้การครอบงำทางเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐอเมริกา ประชาธิปไตยระบบเสรีนิยมได้ถูกสถาปนาขึ้นในยุโรปตะวันตก
3.2. อย่างไรก็ตาม ประเทศในยุโรปทางใต้หลายประเทศก็กลายเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบอำนาจนิยม (Authoritarian Regime)
3.3. ส่วนยุโรปตะวันออกนั้น หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นต้นมา กองทัพแดง (Red Army) ก็กระจายครอบคลุมทั้งยุโรป คาบสมุทรบอลติก ทำให้ประเทศต่างๆ เหล่านั้นมีระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสม์
ยุโรปในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามเย็น
3.1. ผู้ชนะสงครามในยุโรปตะวันตกได้สถาปนาประชาธิปไตยในหลายๆ ประเทศ เช่น เยอรมันตะวันตก อิตาลี ญี่ปุ่น ออสเตรีย และเกาหลีใต้
3.2. ประเทศอื่นๆ ที่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีการปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เพราะว่าฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นผู้ชนะสงคราม ประเทศเหล่านี้เช่น กรีซ ตุรกี บราซิล อาเจนติน่า เปรู เอกวาดอร์ เวเนซูเอลา และโคลัมเบีย
3.3. ประเทศต่างๆ ในยุโรปต้องเผชิญกับความอ่อนแออันเนื่องมาจากสงคราม ประกอบกับเกิดกระแสชาตินิยมขึ้นในประเทศอาณานิคม ปัจจัยทั้งสองประการทำให้เหล่าอาณานิคมเริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องอิสรภาพ หรือเอกราช ดังนั้นในช่วงปี 1943 – 1962 เราจึงจะพบว่ามีประเทศจำนวนมากที่หลังจากการปลดแอกแล้วได้สถาปนาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยขึ้นมา อย่างไรก็ตาม มีประเทศจำนวนน้อยมากที่จะสามารถรักษาประชาธิปไตยไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความเห็น