".......ห้องพักอาจารย์ ไม่ได้นะ เค้าดูผิด เป็นได้ห้องแยกกัน" เสียงผู้อำนวยการบอกกล่าวมาทางโทรศัพท์
ฉันรู้สึกผิดอย่างไรไม่รู้ ฉันยืนยันอาจารย์ไปแล้วเพราะผู้อำนวยการจัดการให้เรียบร้อยตั้งแต่เช้าแล้วนี่นา
อาจารย์ไม่สบาย อยากอยู่สองห้องที่สามารถเปิดทะลุหากันได้
"อืมมม.....ต้องเข้าเมือง ไปหาห้องพักให้อาจารย์" ฉันคิดในใจ
"สไลด์นำเสนอยังไม่เสร็จ" อีกความคิดหนึ่งมาฉุดอีกความคิดหนึ่ง
"ห้องพักอาจารย์สำคัญกว่า" ความคิดกำลังลำดับความสำคัญ
ฉันรีบจัดการป้อนข้าวอาบน้ำให้พ่อช่วยพี่สาว
ฉันไม่ได้ไปต้อนรับอาจารย์และดูแลอาจารย์เหมือนเคยเพราะต้องดูแลพ่อ แม้ว่าจะรู้สึกสนิทสนมกับ อ.แม่ต้อย และ อ.น้องพอลล่าก็ตาม ฉันรู้สึกผิดในใจลึกๆ
ฉันโทรหาโรงแรมหลายที่ แต่...จังหวัดเล็กๆอย่างหนองคาย จะมีให้เลือกซักกี่ที่กัน
ฉันต่อรองกับน้องหน้าเคาร์เตอร์ต้อนรับ "ไม่มีเลยค่ะ ห้องสูทก็เต็ม เราพยายามจัดให้แล้ว"
สุดท้าย........ฉันต้องกลับบ้านโดยที่ไม่ได้เห็นหน้าและต้อนรับอาจารย์อย่างที่ตั้งใจ
อาจารย์พักที่อุดร
---------------
ภายในห้องประชุมเล็กของเรา หัวหน้าฝ่ายหัวหน้างานมาพร้อมกันด้วยสีหน้าสดชื่นไร้ความกังวล เพราะเห็นว่าอาจารย์มาเยี่ยมให้กำลังใจไม่ได้มาตรวจเพื่อให้คะแนน
ฉันเสียบ handy drive ต่อโน๊ตบุ๊ค เพื่อนำเสนอผลงานก่อนที่จะไปรอต้อนรับอาจารย์ ณ จุดจอดรถ
อาจารย์ไม่สบาย ปิดมาร์คกันทั้งสองท่าน แต่ท่าทียังคล่องแคล้ว อาจารย์เดินดูสิ่งแวดล้อมและโอพีดีของเราก่อน อาจารย์ชอบสีเหลือง เก้าอี้รอตรวจของเราเป็นสีเหลืองมันวาว ตัดกับสูทสีฟ้าอมเขียวของพยาบาล ทำให้บรรยากาศสดใสได้ไม่น้อย
เมื่อถึงห้องประชุมท่านผู้อำนวยการมีงานด่วนที่ต้องทำ ท่านให้ฉันนำเสนอข้อมูลให้อาจารย์ฟังไปก่อน
ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองของอาจารย์ ทำให้ฉันไม่เกร็งมากนัก แม้...ก่อนหน้านั้น ฉันเสริฟ น้ำส้มอาจารย์ด้วยอาการมือสั่น คุณหมอแก้มแซวฉัน
ฉันเสนออาจารย์ไปว่า "เรามีกิจกรรมที่คาดว่าจะทำให้การบริการของเราได้ผลลัพธ์ที่ดีมีคุณภาพตรงใจผู้รับบริการ"
ฉันเสนอข้อมูลไม่มากนักด้วยจะให้อาจารย์ไปเห็นที่หน้างาน ฉันเสนอการเตรียมความพร้อมก่อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ใหม่ การเตรียมจิตใจของเจ้าหน้าที่ด้วยการไปปฏิบัติธรรม การฝึกคนให้เป็นคนดีตามโครงการคนดีศรีท่าบ่อ การสร้างคนให้เป็นจิตอาสา บำเบ็ญประโยชน์ การทอดผ้าป่าให้กับโรงเรียนและวัด การออกกำลังกายที่ต่อเนื่องและ โครงการ slimming award
ในส่วนของผู้รับบริการ เราสนับสนุนในเรื่องความเชื่อของชาวบ้าน อย่างเช่นมีการผูกข้อมือรับขวัญเด็กคลอดใหม่ การนิมนต์พระมาสวดมนต์ในวันพระแรม การอนุญาตให้นำเปลเลี้ยงเด็กที่เคยใช้กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
ในส่วนของชุมชน ฉันเสนอภาพของชาวบ้านที่สามารถพึ่งตนเอง การมีภาคีต่างๆมาสนับสนุน การฝึกอาชีพ การผลิตสินค้าประจำหมู่บ้าน
หลังการนำเสนอ อาจารย์ได้บรรยาย เรื่องราวของโครงการ SHA ฉันรู้สึกยินดีที่จะทำให้หลายคนที่เคยบ่นว่าไม่รู้เรื่อง คงได้รู้เรื่องขึ้นมาบ้าง หลายคนไปซื้อหนังสือ "the last lecture" ที่อาจารย์พูดถึงมุมมองของผู้เขียนในความละเอียดอ่อนของการมารับบริการที่โรงพยาบาล
อาจารย์ได้ออกไปเยี่ยมชาวบ้าน ได้เห็นการพับทางมะพร้าวเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ได้เห็นการกล่อมเด็ก ได้ฟังการเล่านิทาน ได้เห็นแปลงเกษตร
ด้วยเวลาที่มีจำกัด อาจารย์ต้องรีบกลับเข้าโรงพยาบาล เพราะหลายคนรออาจารย์อยู่ หลายที่อยากให้อาจารย์ไปเยี่ยมแต่เวลาไม่พอ
ในช่วงบ่าย พวกเราได้ทำ SHA dialog ในประเด็น สุขภาวะของชาวท่าบ่อ คืออะไร อะไรที่เกิดขึ้นแล้ว และด้วยภารกิจหน้าที่เราจะทำอะไรเพื่อโรงพยาบาล
ในการทำ world cafe นี้ ฉันได้ฟังเรื่องราวที่ประทับใจทั้งผู้ให้และผู้รับมากมายหลายเรื่อง อาจารย์ก็สรุปในตอนท้ายได้อย่างสวยงามและสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมากมายเช่นกัน
ในบริบทความเป็นโรงพยาบาลชุมชนของเรา แต่ผู้นำเราต้องการให้ชาวบ้านได้รับการดูแลรักษาพยาบาลใกล้เคียงกับโรงพยาบาลใหญ่ๆ อาจารย์จึงได้เห็นอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย
"มาที่นี่...ได้เห็นอุปกรณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนโรงพยาบาลเอกชนมากกว่าโรงพยาบาลชุมชน" อาจารย์กล่าวกับท่านผู้อำนวยการ
ขอขอบพระคุณอาจารย์ที่ให้กำลังใจพวกเรา หวังว่าโรงพยาบาลชายขอบอย่างพวกเราจะอยู่ในใจของอาจารย์ เราจะพัฒนาต่อไปให้ยั่งยืน.........
pa_daeng
สวัสดีค่ะ ป้าแดง และทีมงาน ชิงเขียนก่อน อิอิ
พอลล่ากำลังจะเขียนค่ะ รออ่านนะคะ เรื่องห้อง เราไม่ได้ติดใจอะไรค่ะป้า
พอลล่าอยากให้ รพ. สบายใจ พอดีพอลล่าป่วยขึ้นมาเอง เลยทำให้รพ. ลำบากค่ะ
ขอโทษด้วยนะคะ
มาเชียร์ค่ะ
You can do it .
ฟันธงไปแล้วนะคะ
สู้ๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ