3 ภัยร้ายใกล้ตัวปี 2552
โดย : ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา
ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชน ที่มีบทบาทเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งเหตุบุคคลสูญหาย นำเสนอภัยใกล้ตัวที่เป็นสาเหตุทำให้คนหายในรอบปีที่ผ่านมา ดังนี้
1. วิธีการเลี้ยงดูของบิดา มารดา
ภัยใกล้ตัวลำดับแรก เป็นเรื่องของวิธีการเลี้ยงดูของบิดา มารดา พอเอ่ยถึงเรื่องนี้ คงไม่มีใครคิดว่า การเลี้ยงดูของบิดา มารดา จะมีผลทำให้เด็กคนหนึ่งตัดสินใจออกจากบ้านได้
ในปี 2552 เราพบว่า ปัญหาเด็กสมัครใจออกจากบ้านนั้นมิได้เกิดจากสภาพครอบครัวที่แตกแยก แต่เกิดจากวิธีการเลี้ยงดูของผู้ปกครองที่มีวิธีการผิดๆ ในการเลี้ยงดูบุตรหลาน โดยใช้เงินทองและเทคโนโลยีเป็นตัวดูแล ให้ความคาดหวังและกดดันทั้งในด้านการศึกษาและพฤติกรรมทั่วไป ทั้งยังมองว่า เด็กเป็นเครื่องมือแสดงความภาคภูมิใจของตนในสังคม อีกทั้งไม่ยอมเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นหรือเลือกในสิ่งที่ตนต้องการ จนเด็กส่วนหนึ่งรู้สึกกดดัน และรับไม่ไหวกับความรักที่ผู้ปกครองมีให้ ซึ่งอาจเรียกได้ว่า "อาการสำลักความรัก" ที่ผู้ปกครองมีให้
และเมื่อเด็กกลุ่มนี้รู้สึกทนไม่ไหว ก็จะหาทางออกในรูปแบบต่างๆ และการหนีออกจากบ้าน ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หากครอบครัวยังคงมีวิธีคิดแบบเดิมๆ เด็กรายต่อไปอาจเป็นลูกของคุณ
ทั้งนี้ จากสภาพแนวโน้มที่เกิดขึ้น ทางศูนย์ข้อมูลคนหายฯ เชื่อว่า ในปี 2553 นั้น จำนวนของเด็กที่หายไปด้วยสาเหตุนี้จะเพิ่มมากขึ้น และอายุของเด็กจะลดลงด้วยเช่นกัน
2.โรคประจำตัวผู้สูงอายุ : โรคสมองเสื่อม
ภัยใกล้ตัวลำดับที่สองนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุโดยตรง นั่นก็คือ โรคสมองเสื่อม หรือผู้ป่วยที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง จนทำให้เกิดอาการหลงลืม จนถึงขั้นไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
รอบปีที่ผ่านมา พบว่า มีผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคนี้ถึง 42 ราย ที่พลัดหลงออกจากบ้าน สิ่งที่สำคัญสำหรับปัญหานี้ คงไม่ได้อยู่ที่วิธีการติดตาม หากแต่เป็นวิธีการดูแลของครอบครัว ที่จะหามาตรการมาดูแล หรือวิธีการใดที่จะป้องกันมิให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในการดูแลของตนพลัดหลงออกจากบ้าน
ณ ปัจจุบัน เราต้องยอมรับว่า มีหลายครอบครัวที่ไม่อาจเข้าถึงระบบสาธารณสุข ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ หรือเรื่องอื่นๆ ก็ตาม ทำให้ขาดความรู้ ความเข้าใจ ให้การดูแลผู้ป่วย หรือไม่รู้แม้กระทั่งว่าบุคคลที่อยู่ในครอบครัวมีอาการสมองเสื่อม
จึงไม่แปลกที่เราจะพบว่า หลายครอบครัวปล่อยผู้ป่วยอยู่บ้านเพียงลำพัง ไม่ก็จะขังผู้ป่วยไว้ในบ้าน ระหว่างที่ลูกหลานออกไปทำงานนอกบ้าน
จากเรื่องนี้ ทางศูนย์ข้อมูลคนหายฯ เล็งเห็นว่า ด้วยจำนวนอัตราผู้สูงอายุที่มีเพิ่มขึ้น ทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม ประกอบกับผู้ดูแลส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนี้ ทำให้ไม่ทราบวิธีการดูแล รวมถึงสิทธิรักษาที่ผู้ป่วยควรได้รับ
ดังนั้น ภายในปี 2553 ศูนย์ข้อมูลคนหาย จึงแนวคิดริเริ่มโครงการใหม่ ที่จะดำเนินการศึกษาสภาพปัญหา รวมถึงสิทธิต่างๆ เพื่อให้ผู้ป่วย ได้เข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลอย่างแท้จริง
3.ลักพาตัว
ภัยใกล้ตัวในลำดับสุดท้ายนี้ ก็คือ การลักพาตัว ภัยใกล้ตัวนี้มิได้เกิดจากฝีมือของกลุ่มแก๊งค์ แต่เกิดจากการกระทำของบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้นเอง โดยวิธีการที่ใช้เข้ามาตีสนิทกับเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายนั้น คือการเข้ามาชักชวนเสนอให้สิ่งของหรือสิ่งตอบแทนอื่นแก่เด็ก เช่น ขนม ของเล่น หรือเงินเล่นเกมส์ เป็นต้น
ทั้งนี้ เด็กที่ถูกลักพาตัวไป ส่วนใหญ่นั้นจะถูกนำไปแสวงประโยชน์ทางเพศ รวมถึงการใช้แรงงานในรูปแบบต่างๆ และปัญหาที่เกิดขึ้นเวลาเกิดเหตุการณ์ลักพาตัวที่ส่งผลให้การติดตามหาเด็กเป็นไปอย่างล่าช้า ก็คือ กลไกการทำงานของตำรวจและหน่วยที่เกี่ยวข้อง ที่ยังขาดความรู้และกลไกในการดำเนินการติดตามอย่างเป็นระบบ
ดังนั้นในปี 2553 ทางศูนย์ข้อมูลคนหายฯ เล็งเห็นว่า การออกกฎหมายคนหาย เพื่อออกมารองรับปัญหาคนหายพลัดหลงโดยเฉพาะ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งบุคคลสูญหายที่เป็นของหน่วยงานภาครัฐโดยตรง เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งเหตุดังกล่าว จะเป็นวิธีการที่สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาคนหายได้ดีที่สุด
มีความสุขมากๆๆนะคะ
สวัสดีครับพี่อ้อย
ภัยในปัจจุบันมีมากมาย...
การป้องกันเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ครับ
มีความสุขมาก ๆ เช่นกันครับพี่