ดื่มแล้วขับถูกจับขึ้นศาล (24 ธ.ค.2552)


สวัสดีครับ พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา รายงานตัวอีกครั้งหนึ่งครับผม

วันนี้มีเรื่องสำคัญมาแจ้งให้ทราบอีกเรื่องหนึ่งเพื่อให้เข้ากับเทศกาลสำคัญคือเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้เรื่องนั้นก็คือการรณรงค์เฝ้าระวังลดอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ 2553 ซึ่งในปีนี้หัวข้อรณรงค์ก็คือ "ดื่มแล้วขับ ถูกจับขึ้นศาล มีสิทธิ์ติดคุก" ดังป้ายรณรงค์ด้านล่างนี้ 


 

สำหรับที่มาของเรื่องนี้มีดังนี้ครับ

สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ร่วมแถลงข่าวมาตรการลดอุบัติเหตุดื่มแล้วขับ ถูกจับขึ้นศาล มีสิทธิ์ติดคุกโดยเริ่มพิพากษาคดีดื่มแล้วขับ ด้วยการส่งกักขังทันที นำร่องโดยศาลภาค 2 จ.ตราด ที่สถานีตำรวจทุ่งมหาเมฆ

นายประสงค์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกากล่าวว่า อุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตัวผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนน นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งทางร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สิน นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่ป้องกันได้เพียงแค่ลดพฤติกรรมเสี่ยงจากการดื่มแล้วขับ ซึ่งคดีเมาแล้วขับโดยปกติแล้วหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะส่งฟ้องศาลภายใน 48 ชั่วโมง และต่อมาศาลอาจตัดสินให้รับโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2552 ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล เช่น รับโทษปรับ 5,000-20,000 บาท ส่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพิกถอนใบอนุญาต หรือให้ทำงานบริการสังคมเพื่อประโยชน์สาธารณะภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ

ทางด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นสูงในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ปีใหม่นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลังพร้อมในการสกัดกั้นพฤติกรรมดื่มแล้วขับด้วยการตั้งด่านตรวจจับอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ กระบวนการในการตรวจเจอปริมาณแอลกอฮอล์ที่มีสูงเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะถูกดำเนินคดี โดยการสั่งฟ้องศาลทุกรายและรอพิจารณาโทษภายใน 48 ชั่วโมง หากศาลได้มีการพิจารณาถึงความผิดแล้วและพิพากษากักขัง โดยจุดเริ่มต้นในการกักขังก็คือจุดตรวจของตำรวจนั่นเอง

นายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับกล่าวว่า ทุกๆ ปีมีคนตายบนถนน 12,000 คนต่อปี พิการสะสม 100,000 คน ความสูญเสีย 2 แสนล้านบาทต่อปี ช่วงเทศกาลปีใหม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติ 2 เท่า ระหว่างปี 2550-2552 พบว่าในช่วงปกติจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 280 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 35 คน ในขณะที่ช่วงเทศกาลปีใหม่มีอุบัติเหตุเฉลี่ยวันละ 607 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 58 คน สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดกับรถจักรยานยนต์ถึงร้อยละ 84 และมีสาเหตุจากเมาสุราขณะขับรถเป็นอันดับหนึ่งถึงร้อยละ 41 

 

มูลนิธิเมาไม่ขับทำงานรณรงค์เพื่อป้องกันพฤติกรรมการเมาแล้วขับอย่างต่อเนื่อง เท่าที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการสกัดกั้นพฤติกรรมเสี่ยงเมาแล้วขับโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นงานที่ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการป้องกันอุบัติเหตุด้วยการลดพฤติกรรมเสี่ยง หากดื่มแล้วไม่ควรขับรถ ทั้งนี้ ประชาชนเองก็สามารถเรียกร้องสิทธิด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เช่น หากพบพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนน ก็สามารถโทร.แจ้งได้ที่ จส.100 หรือร่วมด้วยช่วยกัน 



ศาลในบางภาคตระหนักถึงความรุนแรงของอุบัติเหตุทางการจราจรจากการดื่มแล้วขับว่าเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อสังคม จึงเริ่มพิพากษาให้ผู้ดื่มแล้วขับรับโทษกักขังโดยไม่รอลงอาญา โดยศาลภาค 2 คือ ชลบุรี และภาคตะวันออก 8 จังหวัด นำร่องพิพากษาสั่งกักขัง เช่น ศาลจังหวัดตราดสั่งกักขังผู้ดื่มแล้วขับ ภายใน 15 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 - กันยายน 2552 รวมทั้งสิ้น 155 ราย  ทั้งนี้ ศาลจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ ศาลภาค 6 จ.พิษณุโลก และจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 7 จังหวัด และ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา อยุธยา สุพรรณบุรี อุบลราชธานี กำแพงเพชร เชียงใหม่ นนทบุรี พิษณุโลก และ จันทบุรี ได้เริ่มพิพากษาสั่งกักขังคดีดื่มแล้วขับเช่นกัน

ด้านตัวแทนเหยื่อเมาแล้วขับ นายเจษฎา แย้มสบาย กล่าวว่า ผู้พิการจากการเมาแล้วขับขอกราบขอบพระคุณศาลยุติธรรมในการที่ท่านพิจารณาเห็นโทษเมาแล้วขับ และใช้มาตรการเด็ดขาดในการพิพากษากักขังคดีเมาแล้วขับเพื่อให้เกิดเป็นตัวอย่าง ทำให้สังคมตื่นตัวและลดพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนน คาดว่าหากศาลท่านพิจารณาคดีและพิพากษาให้กักขังอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้ดื่มเกิดความยำเกรงและไม่กล้าดื่มแล้วขับ เป็นการช่วยลดอุบัติเหตุอย่างได้ผล และทำให้สังคมเกิดจิตสำนึกในการรักษาความปลอดภัยในระยะยาว

สำหรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ ทุกภาคส่วนต่างช่วยกันระดมกำลังในการป้องกันการสูญเสียจากอุบัติเหตุให้มากที่สุด อย่างไรก็ดีหากพบเห็นเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามสมควร ประชาชนสามารถแจ้งร้องเรียนได้ และหากพบอุบัติเหตุจราจรสามารถโทร.แจ้งศูนย์กู้ชีพนเรนทร 1669

ที่มา : http://www.prachatouch.co.th/web/news_detail.asp?id=7338 

  

ก็ขอฝากกันไว้ด้วยนะครับในเรื่องนี้เพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ อีกอย่างหนึ่งสำหรับสื่อรณรงค์ที่นำมาแจ้งให้ทราบกันในวันนี้นั้นสถานีตำรวจภูธรพานจะนำไปติดตั้งหรือใช้งานในจุดที่เหมาะสม สามารถมองเห็นได้ง่ายในช่วงการณรงค์ 7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชันย์ (29 ธันวาคม 2552-3 มกราคม 2553) นี้

  

 

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

 

สวัสดีครับผม

   

************************

ติดตามการทำงานทั้งหมดของผมได้ที่

http://phanpatrol.spaces.live.com

คำสำคัญ (Tags): #2503
หมายเลขบันทึก: 322652เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2009 15:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน 2012 11:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)
  • น่าจะตระหนักกันมากขึ้นนะครับ เพราะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมรณรงค์กันอย่างเข้มแข็งเช่นนี้..สวัสดีปีใหม่2553ครับ
  • ขอบคุณความรู้ และขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยียนครับ

 

                               Happy New Year 2010   kha....

                    

     ขอให้มีความสุขกายสบายใจปีใหม่นี้นะครับ

สวัสดีค่ะ Vij มาอวยพรปีใหม่ค่ะ

สวัสดีค่ะ

P
มายินดีที่ได้รู้จักค่ะ
และส.ค.ส. ปี 2553ค่ะ

สว้สดีปีใหม่2553 ส่ง ความ สุข แด่ คุณตำรวจพตท.สุพจน์ มัจฉา

 

      ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้อวยพร

ให้มีคุณและครอบคร้ว มีความสุข สุขภาพแข็งแรงทุกๆวัน

 ปรารถนาสิ่งใดขอให้ได้ดังหวังทุกประการ

 ตลอดปี2553 และตลอดไป

 

 

 

  • ดีๆๆค่ะ จะได้เข็ดกันมั่ง จับเลยๆ
  • ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีปีใหม่ค่ะ..
  • มีคนถาม กันมาก สุดๆๆ  อิอิ  "เมาไม่ขับ...แล้วจะกลับยังไง..."
  • 5555+5555+5555

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 

              คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ นะคะ

มีประโยชน์มากค่ะ จะแวะมาเยี่ยมชมบ่อย ๆ

สวัสดีปีใหม่นะคะ มีความสุขตลอดไปค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท