เรารับราชการมา 28 ปี เราตั้งใจว่า เราจะเกษียณตัวเองเมื่ออายุราชการครบ 25 และบวกอีกนิดหน่อยสำหรับคำนวณวันลาแล้วเราจะลาออก แต่พอครอบ 26 ปี การทำงานเริ่มสนุกเพราะมีอะไรให้เราเยอะมาก และเราเองก็เห็นว่าเราเองเป็นประโยชน์อยู่ไม่น้อย ก็เลยงดความคิดเรื่องลาออกไว้ก่อน (เพราะเราบอกตัวเองว่าจะลาออกก่อนครบเกษียณอายุหรือเปล่า ธรรมชาติจึงทำให้เรามีเหตุต้องลาออก) แต่ก็ตั้งใจไว้ว่าเมื่อไหร่ที่ไม่สนุกและไม่มีประโยชน์แล้วก็สมควรจะลาออก แต่แล้วมาวันหนึ่งเราไม่ถูกกับนายซึ่งเป็นผู้หญิง ไม่ถูกกันหลายเรื่อง จนสุดท้ายมีเรื่องโต้เถียงกัน นายเราแอบทำบันทึกรายงานเราต่อผู้บังคับบัญชาแล้วเก็บเรื่องไว้เงียบเชียว รู้กันอยู่ 2 คน พอถึงฤดูเลื่อนขั้นเงินเดือน เขาไม่ยอมเลื่อนขั้นเงินเดือนให้เราตามปกติ แล้วยังมีการส่งสัญญาณขู่อีกว่า หากเราโวยวาย เขาจะเล่นงานเราในเรื่องวินัยข้าราชการ เราไม่กลัวเพราะเราไม่เคยมีการตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนหรือแจ้งให้เรารู้ว่าเราทำอะไรผิดวินัย เราจึงสอบถามเรื่องขั้นเงินเดือนของเรา เชื่อมั้ย เขาเอาบันทึกที่ทำไว้เพื่อขู่เราออกมาใช้กับเรา แล้วเรื่องราวก็บานปลาย เขาบอกเราว่าเขามีผู้ใหญ่ในส่วนกลาง แต่เราบอกตัวเองว่าเรามีความสุจริตใจ หากเราจะผิดต้องบอกเราได้ว่าเราผิดอะไร ไม่ใช่กล่าวโทษเราแบบเหวี่ยงแหแบบที่เขารายงานมา เชื่อหรือไม่ เขาสั่งย้ายเราโดยไม่มีเหตุผล เราจึงต้องขอลาออกจากราชการ เราโศกเศร้าเสียใจ ผิดหวัง และท้อแท้ต่อความอยุติธรรมอย่างมาก เราเชื่อแล้วโดยสนิทใจว่าความยุติธรรมไม่มีจริง ทั้ง ๆ ที่เราเคยเชื่อมั่นมาตลอดว่าองค์กรของเรา จะต้องไม่มีเรื่องความไม่ยุติธรรมมาตลอด แต่ความเชื่อนั้นได้ถูกสั่นคลอนโดยบุคคลไม่กี่คน หลังจากนั้นมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้โทรศัพท์มาหาเรา บอกเราว่า ได้อ่านเรื่องของเราแล้ว รู้สึกเห็นใจเราที่เกิดเรื่องแบบนี้กับเรา แต่ตัวท่านเองกำลังจะเกษียณอายุราชการ ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ได้แต่แสดงความเสียใจและกล่าวขอโทษที่ส่วนกลางได้กระทำเรื่องเช่นนี้กับเรา ท่านได้ให้กำลังใจเราว่า ขอให้เชื่อเรื่องเวรกรรม คนที่ทำกับเราจะได้รับเวรกรรมอย่างสาสมกับสิ่งที่เขาทำกับเรา ท่านปลอบใจเราให้เราเชื่อมั่นในเวรกรรมจะสนองเขาจริง ๆ ไม่ช้าก็เร็ว ผู้หญิงที่ทำกับเรา เรารู้ข่าวเขามาว่าเขาเป็นมะเร็งใช้เวลาผ่าตัดนานถึง 6 ชั่วโมง เขาต้องรักษาตัว ต้องให้คีโม เพื่อน ๆ โทรมาเล่าข่าวแล้วบอกเราว่ากรรมสนองเขาแล้ว เราอยากรู้จริง ๆ ว่ามันคุ้มค่าหรือในสิ่งที่เขาได้รับกับสิ่งที่เราได้รับ เราไม่ได้ทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ ไม่เคยเรี่ยไรขอเงินบุคคลภายนอก ไม่เคยใช้หน้าที่หาเงินนอกเงินใน ไม่เคยแต่งเรื่องเท็จเป็นเรื่องถูก เราอาจจะผิดตรงที่พูดตรงเกินไป แต่การเป็นข้าราชการไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตหรอกหรือ สภาพจิตเราแย่เสียไปเลยเป็นปี มันคุ้มหรือกับการที่เขาเป็นมะเร็งแค่นั้น มันอาจจะเป็นเพราะกรรมที่เขาทำกับคนอื่นมากกว่ามิใช่กับเรา เราคิด คิด คิด คิดและคิดว่าทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ ทำไมเขาไม่ทำอะไรให้ถูกต้องโปร่งใส ทำไมเขาต้องแอบทำ เราไม่เคยระวังตัวไม่เคยคิดว่าจะมีคนคิดร้ายกับเรา เราอยู่ในที่แจ้งเปิดเผย เราจึงบาดเจ็บขนาดนี้ ใครเคยมีประสบการณ์เหมือนเราหรือไม่ ผิดหวังกับองค์กรที่ตนเองอยู่มานานขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลย
ไม่มีความเห็น