เดิมทีเราตกลงกันว่านิทาน 08 โชว์เราที่เริ่มมาจากกิจกรรมที่อยากทำแล้วกลายมาเป็นได้รับรางวัลที่ 1 ของทีม KM จนออกงานหลายงาน แล้วเราก็พาเข้าสู่ routine โดยทีมจิตอาสา แล้วเล่าตามเทศกาลสำคัญที่เรากำหนดไว้ คือ วันพ่อ วันแม่ วันเด็ก และวันครอบครัว ปีนี้ก็พอใกล้วันพ่อเราก็คุยกันคร่าวๆไว้แล้วว่าเราเตรียมเล่านิทานกันหน่อยนะ แต่แล้วก็มีเหตุให้เกิดโรคเลื่อนตามเคย จนนึกว่าสงสัยงานนี้จะผิดคำพูดแน่เลย แต่แล้วเหมือนพ่อจะบรรดา ....วันนั้นหลังมื้ออาหารกลางวันก็เดินออกมาจากห้องทำงานจะไปประชุมอะไรซักอย่างนึง ระหว่างทางเผอิญเจอพี่แป๋ง...ภรรยาคุณหมอกิตติ ทักเรื่องนิทานที่เคยคุยไว้ แล้วยังไม่ได้เล่าเลยนานแล้ว ป้าแป๋งรู้สึกผิดอยู่ที่ยังไม่ได้เล่าตามที่เคยสัญญากันไว้
เราก็เลยถึงบางอ้อ!!! งานนี้เป็นโอกาสอันดีเลยจ้ะพี่ ใจเราตรงกัน เลยพาจูงมือไปหาพี่เตือนเจ้าแม่นิทานมือหนึ่งของเรา พี่เตือนก็กำลังงงๆ ว่าแกมาทำไมว่ะ เราก็ใช่โอกาสที่งงนี่ล่ะ คุยเรื่องนิทานเลยว่า เราจะเล่านิทานกันวันจันทร์เนาะ พี่แป๋งจะช่วยมาเล่าด้วย ก็เป็นอันว่า โอเค พี่แป๋งก็ไปแต่งนิทานเรื่องไข้หวัด H1N1 มา เพราะเรามี zone แยกโรคไว้ให้เด็กๆ นั่งรอในกลุ่มที่สงสัยไข้หวัดบริเวณหน้า OPD ที่ต้องรอพอสมควรในการตรวจ จะได้ไม่เบื่อและได้ประโยชน์
แล้วเช้าวันจันทร์ตามที่นัดหมายทุกคนพร้อม เราเตรียมลากฉากไปทิ้งไว้ให้พร้อมอุปกรณ์ ป้าเตือนก็ประสานขอพี่เล็กมาช่วย แล้วให้เราสงน้องซิลไปอีกคนก็โอเค แล้วมีน้องเต่าสาวประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลมาพาเข้าสู่เรื่องไข้หวัด แล้วน้องเจี๊ยบประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ พอทราบเรื่องก็ตามลงมาถ่ายรูปเลยส่วนผู้ฟังที่น่ารักของเรา ลูกเด็กเล็กแดงที่ไม่สบายทั้งหลายนั่งใส่ mask จ้องนิทานกันตาแป๋วเลย โดยเฉพาะหนุ่มน้อยเสื้อส้มนะ ดีดขากระดิกตลอดเลย คุณพ่อต้องย้ายจากด้านหลังไปให้ดูใกล้ๆเลย ชอบมากดีค่ะ โอกาสหน้ามีอีกเราก็คงไม่พลาดแน่ๆ ตามภาษานักฉวย...ฮ่ะ ฮ่า ก็งานนี้หนูทำเพื่อพี่แป๋งนะเนี่ย ดีจัง ชอบๆ พร้อมเสมอเมื่อไหร่ ได้เลยค่ะ ใครสนใจอยากเล่ามาบอกน้องได้เลยค่ะ จัดให้ เพื่อกระจายผลบุญ และความสุขเนาะ ...
* เย้..เย้..
* นิทาน 0'8 โชว์ ฟื้นคืนชีพแล้ว
รู้สึกว่า ฉาก จะหน้าตาคุ้นๆ นะ แบบว่า ไม่ค่อยลงทุนเท่าไร
ดีใจจริงจริง ชมรมเล่านิทาน คืนชีพ