“สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ” คือคำสมาทานศีลข้อที่ ๕ ที่พุทธศาสนิกชนทั่วโลกยึดถือปฏิบัติ แปลว่า งดเว้นจากการดื่มน้ำเมาอันเป็นฐานแห่งความประมาท เนื่องจากเหล้านำมาซึ่งปัญหาส่วนบุคคล ครอบครัว และสังคม เป็นอันมาก ถึงแม้จะยอมรับกันโดยทั่วไปว่าแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและสังคม แต่แนวโน้มการดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยกลับเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ย ๒.๖ แสนคนต่อปี
จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงของประชาชนของสำนักควบคุมโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ พบว่า จังหวัดน่าน ประชาชนอายุ ๑๕ ปี ขึ้นไป มีการดื่มเหล้าร้อยละ ๕๒.๖๗ เป็นจังหวัดที่ดื่มเหล้าเป็นอันดับ ๑ ของประเทศ ทำให้เกิดการตื่นตัวและนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะในการลดละเลิกเหล้าในจังหวัดน่าน จนเกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจนหลายเรื่องที่สำคัญ ได้แก่ การประกาศให้งานแข่งเรือประเพณี, งานกาชาดและของดีเมืองน่าน เป็นงานประเพณีปลอดเหล้า มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ จนถึงปัจจุบัน และในระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ได้มีการกำหนดมาตรการต่างๆ ในการลดละเลิกเหล้า เช่น งานศพปลอดเหล้า, งานกีฬาปลอดเหล้า, งานวัดปลอดเหล้า เป็นต้น ผลของการขับเคลื่อนทำให้เกิดการร้อยรัดภาคีเครือข่ายต่างๆ เข้าหากัน ทำให้การขับเคลื่อนมีพลังมากยิ่งขึ้น
หนังสือการจัดการความรู้ เรื่อง “ชุมชนลดละเลิกเหล้า” นี้ เพื่อเป็นผลสืบเนื่องจากการนำเอาการจัดการความรู้ (Knowledge Management) มาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาการดื่มเหล้า เพื่อให้ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสเอาความรู้เชิงประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกัน นำเอาวิธีปฏิบัติที่ดี (Best Practice) และชุมชนที่ทำได้ดีมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน (Success Story Sharing) ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่และแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนการทำงานแก้ไขปัญหาการดื่มเหล้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่มา : คำนำหนังสือ “ชุมชนต้นแบบลดละเลิกเหล้าจังหวัดน่าน”
อยากให้น่านเป็นจัวหวัดปลอดเหล้า บุหรี่ค่ะ แต่คงต้องใช้แรงขับเคลื่อนอย่างมหาศาลเลยนะคะ แต่ไม่เป็นไรคะ
เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ค่อยๆขยายออกไป เหมือนขว้างหินลงน้ำค่อยๆ ให้คลื่นกระเพื่อมไปทีละน้อยๆ สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจค่ะ