วันนี้มาอ่านตอนต่อของ The Female Economy กันครับ เมื่อเห็นถึงอิทธิพลของผู้หญิงในแวดวงการตลาดกันไปแล้ว ลำดับต่อมาของการตลาด คือ การแบ่งกลุ่ม หรือ Segment เพื่อประโยชน์ในการนำเสนอสินค้า
เรามาดูกันว่า 6 กลุ่มที่กล่าวถึงไว้ในบทความเรื่องดังกล่าวนี้ จะมีรายละเอียดอย่างไรกันบ้าง แล้วคุณคิดว่าคุณอยู่ในกลุ่มไหนครับ?
กลุ่มที่ 1 Fast-Tracker ซึ่งได้แก่ ผู้หญิงที่มีการศึกษาที่ดี มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี และเป็นผู้ที่ทำงาน กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโสดหรือไม่ก็แต่งงานแต่ไม่มีลูก ทำให้สามารถทุ่มเทเวลาให้กับงานได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังเป็นพวกที่ลูกโตแล้ว ทำให้ไม่มีภาระทางครอบครัวเท่าไร ผู้หญิงกลุ่มนี้มุ่งเน้นและให้ความสำคัญต่อความสำเร็จในอาชีพการงานเป็นหลักครับ
กลุ่มที่ 2 Pressure Cooker ซึ่งฟังชื่อดูอาจจะน่ากลัวนะครับ แต่จริงๆ กลุ่มนี้ ก็คือ บรรดาแม่ๆ ทั้งหลาย ที่วันๆ หนึ่งจะต้องมีกิจกรรมหลายอย่างทั้งดูแลบ้าน ดูแลสามี และที่สำคัญ คือ ดูแลลูกๆ ในกลุ่มนี้ยังสามารถแบ่งได้เป็นสองกลุ่มย่อยนะครับ นั่นคือ พวกที่ถือว่าประสบความสำเร็จในการเป็น Pressure Cooker นั่นคือ มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ปานกลางไปถึงดี จะสังเกตในเมืองไทยเองแม่ๆ กลุ่มนี้ คือ กลุ่มที่มีฐานะทางบ้านที่ดี และไม่ได้ทำงาน ส่วนอีกกลุ่มเป็นพวกที่ยังต้องปากกัดตีนถีบอยู่ นั่นคือ นอกจากต้องดูแลครอบครัวแล้วยังต้องทำงานเพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวอีกด้วย
กลุ่มที่ 3 Relationship Focused พวกนี้จะถือว่ามีอย่างเหลือเฟือทั้งเวลาและเงินทอง อาจจะเป็นพวกหญิงโสด หรือผู้ที่แต่งงานแต่ไม่มีลูก และไม่ได้ให้ความสำคัญกับอาชีพการงานเป็นอันดับแรก บางคนอาจจะถือว่าการทำงานเป็นงานอดิเรกก็ได้ ดังนั้น คนกลุ่มนี้จะมุ่งแสวงหาความสุขและประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การผจญภัยในรูปแบบต่างๆ เรียกว่าเน้นแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ
กลุ่มที่ 4 Managing on Her Own โดยผู้หญิงกลุ่มนี้จะกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจากการหย่าหรือเป็นหม้าย ผู้หญิงกลุ่มนี้จะมีฐานะที่ดีพอสมควร ส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้อาจจะไม่มีลูกหรือลูกๆ โตกันหมดแล้ว ดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงแสวงหาทั้งประสบการณ์ใหม่ๆ รวมทั้งอาจจะแสวงหาความสัมพันธ์ใหม่ๆ
กลุ่มที่ 5 Fulfilled Empty Nester ซึ่งจะเป็นกลุ่มของสตรีสูงอายุที่ลูกๆ โตกันหมด และแยกย้ายไปมีครอบครัวของตัวเองกันหมด เปรียบเสมือนเป็นรังเปล่าที่ลูกนกโบยบินออกไปหมด ผู้หญิงกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับสุขภาพ และการดูแลตนเองไม่ให้ดูสูงอายุ อีกทั้งให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว พักผ่อน และการออกกำลังกาย
กลุ่มที่ 6 Making Ends Meet เป็นกลุ่มที่ถือว่าน่าสงสารครับ เพราะมีระดับรายได้ที่น้อย ไม่มีเงินเพียงพอสำหรับการแต่งตัวสวยๆ หรือการออกกำลังกาย ส่วนใหญ่อาจจะมีการศึกษาที่ไม่สูงนัก
อีกแง่หนึ่ง
ขอแชร์ความคิดว่า
หากเป็น j อาจจะไม่แบ่งแยกกลุ่มให้ย่อย
มากมายขนาดนี้ก็ได้
j จะเลือกเพียงว่า เวลาจะทำการตลาด
j จะแบ่ง ระดับ บน กลาง และล่าง ไปเลยน่าจะดี
ระดับบน ไม่ว่าอายุมากน้อย หรือประสบความสำเร็จสูงขนาดไหน
หรือ แม้กระทั่งมีลูกแล้ว ลูกโตแล้ว หรือเป็นหม้ายก็ตาม
ระดับบนเหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะสรรหาเลือกซื้อสินค้าและบริการไม่ยากยัก
ยิ่งเป็นสินค้าทั่วไป แต่หากเป็นสินค้าที่ต้องอาศัยเทคโนโลยี แล้ว ความต้องการของระดับบน
อาจต้องเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ง่าย สะดวก และไวพอที่พวกเขาจะได้รับข้อมูลข่าวสาร
เพื่อพร้อมต่อการตัดสินใจหรือการทำธุรกิจ
ระดับกลาง และ ล่าง ไม่ใช่ว่า ไม่สำคัญ
แต่แนวโน้มระดับนี้ มีความสามารถในการจับจ่าย
มาเป็นตัวมาแบ่งขั้นกำลังซื้อได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ก็อาจพอมี ที่ผู้หญิงประเภทเงินน้อยใช้สอยมาก
พวกเขาหลงกลุ่มข้ามเข้าสู่กลุ่มระดับบน แต่อย่างไรก็ตาม
กำลังการซื้อ บ่งบอกได้เด่นชัดว่า
เวลาแบ่งแยกตลาดนั้น j จะเลือกเอาตามความเป็นจริงของผู้ซื้อเลย
โบร์ชัวร์ ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด
เหล่านี้ ถูกส่งเข้าทางอีเมลล์ จดหมาย และคำเชิญเปิดงานให้กับคนระดับบน
แต่ไม่ใช่ว่า เขากีดกันชนระดับล่าง
เพราะอย่างที่บอก หากกลุ่มชนระดับล่างต้องการซื้อสินค้าในราคาที่สูงลิบ
แพงเกินไป เขาจะเข้ามาเอง เช่น จะเข้ามาขอ โบร์ชัวร์ ที่สำนักงานเอาเอง
จะสอบถามเอาเอง จะพยายามแม้ว่าต้องซื้อเงินผ่อนดอกเบี้ยสูงก็ตาม
จะเกิดอะไรขึ้น หากบริษัทแจกข้อมูลรถรุ่นเปิดตัวใหม่ ให้คนทั้งประเทศ
แต่จำนวนผู้เข้าร่วม สนใจและตอบรับนั้น มีน้อยกว่าที่ได้ทำการตลาดไป
ฉะนั้น เขาเลือกแล้ว ที่จะเจาะจงว่า สินค้าระดับนี้
ควรต้องทำการตลาดอย่างไร กับกลุ่มคนประเภท ระดับไหน
j พอจะอธิบายรู้เรื่องรึเปล่าคะ
j เอง