ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน


ความรู้ ความสามารถ จิตรสำนึกและการพัฒนา : ผู้มีหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ คนไม่มีหน้าที่ต้องปฎิบัติเกินหน้าที่ ข้อเสียข้อดีเป็นอย่างไร..!!

..!!.. เจอเครื่องหมายนี้ทีไรเป็นผมทุกที คนที่ชอบงวยงง.. สงสัย..และชอบวุ่นวายกับเรื่องคนอื่น และก็มีความเห็นไม่สอดคล้องกับ gotoknow.org เอาเสียเลย พอจะแรกเปลี่ยนได้แค่อยู่ในชุมชนคนทำงานคนหนึ่งเท่านั้น

สิ่งที่จะนำมาเล่าเปลี่ยบเทียบให้คนในชุมชนแสดงความเห็นวันนี้ก็คือ การทำงานของคนสามประเภท เริ่มจากคนที่ผมสนใจทีละคน

 

หัวหน้างานที่ขาดความรู้ความสามารถ : วันๆพูดแต่เรื่องของตัวเอง เล่าแต่แนวคิด และคาดการณ์ ให้ลูกน้องฟังแต่ก็ไม่ได้สั่งการให้นำไปปฏิบัติโดยให้เหตุผลว่าจะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือจะทำให้ผู้ใหญ่เดือดร้อน (ผมก็ได้แต่สงสัยว่าถ้าเป็นเรื่องที่คิดดี ทำแล้วดีทำไมผู้ใหญ่ถึงจะเดือดร้อน) ที่สำคัญควรที่จะใช้เวทีการประชุมในการนำเสนอผลงานเพื่อจะได้ใช้มติของที่ประชุมตัดสินใจพาแนวทางการแก้ไขป้องกันหรือที่ประชุมต่อยอดความคิด ได้แต่เรียกลูกน้องเข้ามานั่งฟังความไม่พอใจในวิธีคิดของผู้อื่นที่เสนอในที่ประชุม และกับมาต่อยอดความคิดของตัวเองให้ลูกน้องฟังตามด้วยข้อความจำเจ..ผมว่าแล้ว.. ผมคิดแล้ว.. แต่ผมไม่อยากพูด วนไปวนมาครั้งหนึ่ก็แล้ว.. เป็นเดือนก็ไม่แตกต่าง.. เป็นปีความคิดก็เหมือนพายเรือในอ่าง.. สิบปีทั้งลูกน้องลูกพี่ความคิดวิธีการก็ไม่พัฒนาไปไหนถือเป็นเวนเป็นกรรมของลูกน้องที่จะมีโอกาสก้าวหน้า

วิศัยทัศกว้างไกลดังนั้นจึงอยากให้ลูกน้องแสดงความคิดเห็น "ที่ไม่แตกต่างไปจากผม" ก็ไม่ต่างไปจากที่หัวหน้าตัดสินใจไปแล้วหละแต่อยากให้มีผู้อื่นเห็นด้วยโดยใช้วิธีสอบถามความคิดเห็นจากนั้นก็พูดโน้มน้าวให้มีความคิดและเชื่อในสิ่งที่ตนเสนอ สรุปด้วยการตัดสินใจไม่ต่างไปจากคิดเองทำเองจนหลายครั้งหลายหนคนอื่นก็ไม่แสดงความคิดแห็นอะไรสู้เฉยไว้ดีกว่า "พูดดีไม่ดีไม่รู้แต่ที่รู้เข้าตัวทุกที"

ไม่คิดเรียนรู้ (หาแต่คนมาคอยรองมือรองตีน) งานบางงานแทนที่จะสั่งครั้งเดียวจบ.. ทำคนเดียวเสร็จ.. พองานเข้าถึงมือปุ๋บ โน้น.. ต้องมีผู้ช่วยคนที่หนึ่ง (พนักงานทั่วไป) คอยสืบค้นคนหาประวัติ...!! เอากลับมาไว้ในมืออีกระยะ (ถ้าหายก็เริ่มต้นใหม่กับผู้ช่วยคนที่หนึ่ง) พอตั้งสติได้ก็ส่งงานให้ผู้ช่วยคนที่หนึ่งให้ไปบอกผู้ช่วยคนที่สอง (เสมียนประจำสำนักงาน) ที่ตำแหน่งใหญ่กว่าผู้ช่วยคนที่หนึ่ง และก็นั่งอยู่ที่โต๊ะติดกัน "ไม่งงใช่ไหมครับท่าน" แล้วท่านหัวหน้าก็เดินทำหน้าเฉยออกไปไม่อยู่รอให้ถ่ามเพราะไม่มีคำตอบ ปล่อยให้ผู้ช่วยทั้งสองงงและหงุดหงิดใส่กันด้วยความเข้าใจ ผู้ช่วยคนที่สองดำเนินการเสร็จส่งกลับมาที่ผู้ช่วยคนที่สองเพื่อไปเสนอหัวหน้าอีกครั้งก่อนที่หัวหน้าจะส่งกลับมาให้ผู้ช่วยคนที่หนึ่งนำไปส้งให้หัวหน้าควบคุมงาน (โดยตำแหน่งเป็นหัวหน้างานตัวตริงของผู้ช่วยคนที่หนึ่ง) และหัวหน้าคุมงานก็ต้องไปสอบถามรายละเอียดกับผู้ช่วยคนที่สองซึ่งเป็นคนเก็บข้อมูลการทำงาน แล้วถึงจะมาสั่งพนักงานทั่วไป (ซึ่งก็คือผู้ช่วยคนที่หนึ่ง) นำไปปฏิบัติ

โห..!! แม้ง (โครตยุ่ง) เลยวะงานชิ้นนี้

หัวหน้าระดับควบคุมงาน :

เสมียนประจำสำนักงาน : อยู่มานาน รู้งานเยอะ ทำเกินหน้าที่ที่ต้เองได้รับแต่ไม่รับหน้าที่ที่ตนเองต้องทำ ชอบทำตัวเป็นจอมบงการสังงานแทนหัวหน้าหรือไม่ก็สั่งงานหัวหน้าเสียเลยก็มี มักเก็บกักงานไว้ในมือคนเดียวไม่บอก ไม่สอน ไม่แนะนำให้เพื่อนร่วมงานได้เรียนรู้เพราะต้องการกดขี่ไว้รองรับอารมณ์

เป็นคนที่เข้าใจตนเองและเข้าใจว่าคนอื่นไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเอง (คิดว่าเพื่อนร่วมงานไม่เท่าทัน) จนในที่สุดความเป็นตัวเองของเพื่อร่วมงานมีมากขึ้นเกิดการวางเฉย การไม่ยอมรับ และไม่นำไปปฏิบัติตามแทนที่จะทบทวนตัวเองกับคิดแต่ต่อว่าต่อต่อขาน เจ้าแง่แสนงอน ประชดประชัน ไม่หันหน้าเข้าพูดจามีปัญหาก็เดินหนีไป.. มีปัญหาก็หายหน้า.. มีปัญหาก็ลางาน ปวดท้อง ปวดหัว เป็นไข หายใจหายคอไม่ออก ใหม่ๆเพื่อนฝูงก็เห็นอกเห็นใจ อภัยให้และคล้อยตามแต่พอหลายครั้งหลายหนเข้าเสียงสะท้อนก็ออกมา "เมื่อไหลมันจะตายหงตายห่าเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียที" ทุกวันนี้ก็แทบจะต่างคนต่างอยู่อย่างทุกระทมหวานอมขมกลืนกันทั่วหน้า

หัวหน้าเธอก็ทำเหมือนว่าถ้าเธอไม่อยากจะเป็นลูกน้องก็ไม่ต้องเป็น สั่งงานสังการก็ไม่สั่งกับเธอไปบอกผ่านพนักงานแทน เวลาเรียกประชุมอะไรเธอเคยเจ้ากี้เจ้าการต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าหัวหน้าไม่ถูกใจเพื่อนร่วมงานไม่เห็นด้วยเธอก็มักจะโกรธเคื่องแง่งอนมีพฤติกรรมไม่ต่างไปจากหัวหน้าเธอ จนในที่สุดหัวหน้าก็ตัดสินใจไม่เรียกเธอเข้าประชุมใดๆ จนทุกวันนี้เธอต้องงงอยู่กับงาน งงอยู่กับเพื่อนร่วมงาน งงอยู่กับหัวหน้างานของเธอเอง แต่รู้สึกเธอจะมีความเข้าใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเสียเหลือเกินนั่นก็คือ..เธอเข้าใจความคิดของเธอเองว่ามันถูก..เธอทำดีที่สุดแล้วน๊ะ..!!!

พนักงานทั่วไป :

หมายเลขบันทึก: 317245เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2009 16:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท