แผนฯ 11 กับมิติการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น
บาว นาคร*
ในปัจจุบันประเทศไทยได้เผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมายทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม เช่น กรณีความขัดแย้งทางการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ ภาวะการตกงาน ปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่มาบตาพุด เป็นต้น ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่เป็นผลพวงมาจากการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืนและไม่สมดุล
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้นได้มีมาทั้งหมด 10 ฉบับแล้วตั้งแต่พ.ศ.2504 จนถึงปัจจุบัน เกือบ 50 ปีแล้วที่ประเทศไทยนั้นได้ดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นตัวแบบในการพัฒนาประเทศ ในอดีตที่ผ่านมามิติของกระบวนการพัฒนาส่วนใหญ่ได้เน้นเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหลัก และเป็นการกำหนดแผนพัฒนาฯจากส่วนกลางและนำไปสู่การปฏิบัติ ทำให้ขาดมิติของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแผนพัฒนาฯ ส่วนมิติของการมีส่วนร่วมของประชาชนได้เพิ่งเกิดปรากฎขึ้นในแผนฯ ฉบับที่ 8 แต่กระบวนการจัดทำแผนพัฒนายังเป็นรูปแบบ top-down จากข้างบนเป็นผู้กำหนดเป็นส่วนใหญ่ จนถึงปัจจุบันซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้มีการนำเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 และได้จัดทำวิสัยทัศน์ประเทศไทยสู่ปี 2570 ซึ่งสาระสำคัญในแต่ละประเด็นดังต่อไปนี้ คือ
จากเนื้อหาสาระโดยสรุปของแผนฯฉบับที่ 11และวิสัยทัศน์ประเทศไทยสู่ปี 2570 นั้นทำให้เห็นมิติของกระบวนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของประชาชนในหลายประเด็น ที่สำคัญคือในส่วนของสถาปัตยกรรมทางสังคม ได้มีเนื้อหาที่สื่อถึงมิติในงานพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเน้นให้ความสำคัญกับชุมชนเป็นหลักและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการพัฒนา ในส่วนของสัญญาประชาคมใหม่ ได้กล่าวถึง กระบวนการสัญญาประชาคม บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชุมชน ท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ โดยดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนตั้งแต่การสร้างความคิดร่วม (Social Consensus) การหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับและยึดถือ (Social Commitment)และนำไปสู่การปฏิบัติ (Action) ซึ่งเป็นภาพรวมและแนวทางกว้างๆในการนำไปสู่การปฏิบัติต่อไป
ในแผนฯ 11 นั้นผู้เขียนมีมุมมองว่า เนื้อหาสาระของ แผนฯ11 ส่วนใหญ่นั้นได้กล่าวถึงเศรษฐกิจรวมทั้งแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ยังมีเนื้อหาสาระบางส่วนที่ขาดหายไป เช่น มิติของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรที่สามารถเอื้ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน กระบวนการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นนั้นน่าจะมีบรรจุไว้ในแผน ฯ11 ด้วย
ประการสำคัญ คือ ทำอย่างไรจะให้แผนฯ 11ที่ได้กำหนดไว้มีการพิจารณาอย่างครบถ้วนทุกมิติและรอบด้าน รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขโดยให้ประชาชนและทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทและทิศทางการพัฒนาของประเทศไทย และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
* บุญยิ่ง ประทุม, [email protected]
สวัสดีครับ น้อง บาว "นอนคา "คนพัฒนาชุมชน ข้อมูลเยี่ยมมากครับ
การเมืองภาคพลเมืองผลักดันให้แผน 11 สอดคล้องกับ บริบทในการพัฒนา น่าจะไปได้น่ะครับ
(ยินดีที่รู้จักและจะได้แลกเปลี่ยนประเด็นพูดคุยกันครับ จากเฒ่าพัทลุงครับ
สวัสดีครับ ติดตามอ่านผลงานใน blog มาตลอดครับให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษามากครับ