13.ทะเลโศก
ริมขุมเหมือง สายลมซัดผิวน้ำระริกไหวก่อระลอกคลื่นลูกแล้วลูกเล่า แสงตะวันสาดระลอกคลื่นเปล่งประกายระยิบระยับ แมกไม้ตามชายเฟือยไหวเอนตามกระแสลม เกสรดอกอ้อปลิดปลิวลอยละล่อง พะเยิบพะยาบเป็นสายยาว
ฟองทะเลหวนนึกถึงวันเก่าก่อน ก่อนที่ไหลน้ำและดอกหมากจะมาเล่นละแวกนี้ เธอ ฟ้าคราม พู่กลิ่น วาหว่า เคยหยอกล้อ ร่วมกันทำของเล่นแปลก ๆ ไม่มีชื่อ จากต้นไม้ซึ่งอยู่บริเวณนี้ หลายครั้งเพื่อน ๆ นำของเหลือใช้มาสุมกองไว้ สร้างเป็นของเล่นมีชีวิต บางคราเพียงสลับที่ของเหล่านั้นร้อยเรียงทีละชิ้นเป็นรูปร่างขึ้นใหม่ ชวนตื่นเต้นว่าจะเป็นรูปอะไร ประหลาดแค่ไหน แม้จะไม่มีรูปร่างในโลกของผู้ใหญ่ พวกเราก็ปรบมือ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับการคิดและการสร้างของพวกเรา
“ม้านิลมังกร” หรือลำไม้ไผ่ที่เธอหิ้วออกมาเมื่อวาน ก็เคยแล่นบนพื้นดิน เหินหาวในเวหา และดำน้ำในขุมเหมืองมาแล้ว แม้แต่ฟ้าครามและพู่กลิ่นผู้เป็นคนช่วยคิด ช่วยสร้างของเล่นชิ้นนี้กับเธอก็ยังเฉยเมยไม่อธิบายสิ่งใด ให้ไหลน้ำและดอกหมากได้รับรู้เลย
วันที่ไหลน้ำกับดอกหมากมาถึงที่นี่ครั้งแรกดอกหมากถือรถบังคับ ไหลน้ำเหน็บปืนข้างเอว ทั้งสองเดินเข้ามากลางวงขณะที่พวกเรากำลังทำเจ้าม้านิลมังกร เธอเลื่อยไม้ไผ่เป็นปล้องเล็ก ๆ
พู่กลิ่นจับกระป๋องน้ำอัดลมพลิกดูด้านบน ด้านล่างวางลงพื้น ลุกขึ้นยืน เดินรอบ ๆ กระป๋อง นั่งลง ลุกขึ้น เดินวนอย่างนี้ หลายรอบ เธอได้แต่อมยิ้มกับท่าทางของพู่กลิ่น
ส่วนฟ้าครามกับวาหว่าเดินวุ่นหาไม้แกนกลางน้ำหนักเบา คิดวิธีคว้านไส้ในให้เหลือแต่เนื้อไม้กลวง ๆ
“ฟอง ผมขอเล่นด้วยคน” ดอกหมากเอ่ย ก้าวเข้ามาใกล้เธอ
“เอาสิ ของเล่นกองอยู่บนพื้น”
“ขยะมิใช่หรือ ผมมองยังไงก็เป็นของที่ไม่มีใครต้องการ” ไหลน้ำว่า เขาวางรถบังคับคันแดงบนฝ่ามือ ยกขึ้นระดับสายตาเธอ วาดมือเป็นวงกลม โยกคันบังคับ ล้อหลังหมุน ฟริ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ! “ฟอง...” จนเธอตาลายต้องหยุดเลื่อยไม้เงยหน้าสบตาเขา
“รถบังคับคันนี้จำลองมาจากของจริงเชียวนะ” ไหลน้ำว่า
เมื่อเธอปรับสายตาได้จึงยิ้มตอบ แทนที่เขาจะหยุดกลับวาดมือเวียนไปวนมา เธอจึงก้มหน้าเลื่อยไม้ต่อ
“ฟองเล่นได้ทันที ไม่ต้องคิด ไม่ต้องเสียเวลาสร้างขึ้นมา” ไหลน้ำยื่นรถเข้ามาใกล้ กระเดาะปาก เป๊าะ !
เธอจึงหยุดเลื่อยไม้ พยักพเยิด เพื่อหาว่าไหลน้ำต้องการอะไรกันแน่ ทว่าเขาก็ไม่พูดอะไรต่อ เขาหดมือกลับวางรถบังคับบนพื้น โยกคันบังคับ ให้รถวิ่งรอบ ๆ เธอ เธอเหลือบมองรถอีกครั้ง ถอนสายตากลับ ก้มหน้าเลื่อยไม้
พู่กลิ่นถือกระป๋องน้ำอัดลมเดินเข้ามา เธอหยุดกึก เงยหน้ามอง นึกว่าพู่กลิ่นจะเข้ามาช่วยอธิบายในทำนองว่า “จริงอยู่ของเหลือใช้ต้องใช้เวลาสร้างขึ้นมาเป็นรูปร่าง ทว่าของเหล่านี้ก็เป็นของเล่น เล่นได้นับแต่วินาทีแรกที่แต่ละคนนำมาสุมกองไว้ ของเล่นที่พวกเราสร้างไม่ได้มุ่งหวังว่าต้องเป็นรถ เป็นเรือ หรืออื่น ๆ ในโลกของผู้ใหญ่ อาจจะเป็น หรือไม่เป็นอะไรก็ได้”
ไหลน้ำยกรถบังคับ ส่งให้ดอกหมากจับไว้ เขาโยกคันแล่น ล้อหมุน ฟริ้ว ! ฟริ้ว !
“พู่ไปเล่นรถด้วยกันมั้ย ?” ไหลน้ำชวน
“เอาสิ” พู่กลิ่นพยักหน้ารับทันควัน ซ้ำร้ายยังโยนกระป๋องทิ้งโดยไม่ใส่ใจไยดีว่าเธอนั่งอยู่ตรงนั้น
ขณะที่ฟ้าครามกับวาหว่าลากไม้ไผ่ และต้นหญ้าดอกอ้อ แกรกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ! ดอกหญ้าร่วงเป็นทาง
“หยุดนะนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ไหลน้ำชักปืนส่องไปทางฟ้าครามกับวาหว่า พวกเขาทิ้งท่อนไม้ งงงัน ทันใดนั้นไหลน้ำเหนี่ยวไกยิงใบมะม่วงบนยอดไม้ ปัง ! ทั้งสองหมอบตัวลง ใบไม้ร่วงหล่น วาหว่าแผดเสียง “บ้าเหรอ ! ยิงสุ่มสี่สุ่มห้า”
“โธ่เอ่ย ! ปืนของเล่น” ไหลน้ำยกปืนเป่าปลายลำกล้อง
“ผีอะไร ! ของเล่น ของจริงชัด ๆ” วาหว่าสาวเท้าเข้าไปดูใกล้ ๆ
ไหลน้ำยกปืน 11 ม.ม.สีดำเลื่อม ปลดรังเพลิง ชี้ให้ดูลูกกระสุนพลาสติกทรงกลมสีเขียวเล็ก ๆ “เชื่อหรือยัง ถ้าเป็นปืนจริง ต้องลูกกระสุนจริง” เขาเก็บรังเพลิงยื่นให้วาหว่า วาหว่ารับมากระดกเบา ๆ “หนักแฮะ”
ไหลน้ำรับปืนคืนมาขึ้นรังนกส่งให้วาหว่า “ลองยิงดู เล็งไปที่มะม่วงหิมพานต์ลูกนั้น”
วาหว่ายกปืนขึ้นเล็ง เหนี่ยวไก ปัง ! กระสุนกลมสีเขียววิ่งออกจากรังเพลิงผ่านปลายกระบอกปืน แหวกสายลม พุ่งทะยานขึ้นฟ้า ผ่านผืนหญ้า ปะทะขั้วมะม่วงหิมพานต์สีแดงเหลืองใกล้เน่า เปรี๊ยะ ! กระสุนสิ้นแรง มะม่วงหิมพานต์หล่น ตุ๊บ ! นอนแน่นิ่ง กระสุนลอยเอื่อย ๆ ตกในกองใบไม้
“แม่นอย่างจับวางเลย” ไหลน้ำตีไหล่วาหว่าเบา ๆ
“บังเอิญนะ ขอยิงอีกนะ”
“ได้สิ มาทางนี้ดีกว่า”
“เราขอเล่นด้วยคน” ฟ้าครามอ้อมแอ้ม
“ตกลง” ไหลน้ำพยักยิ้ม
พวกเขาจึงเดินตามไหลน้ำ และดอกหมาก ปล่อยให้เธอยืนงงเป็นไก่ตาแตก ตะโกนไล่หลัง “ไม่เล่นกับฟองแล้วหรือ ?”
ฟ้าครามเหลียวหลัง พูดเต็มเสียง “ไม่ละ ไว้วันหลัง วันนี้จะไปเล่นปืน”
เธอนั่งเศร้าซึมทำของเล่นตามลำพังเฝ้ารอคอยให้เพื่อนกลับมา ทว่าวันนั้นไม่เคยมาถึง
* * *
ไม่มีความเห็น