ในวงการสาธารณสุข ทุกวันนี้ เรื่องสำคัญที่ต้องพูดถึง เรื่องหนึ่งคือ รพสต.(โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล)เพราะเป็นเป้าหมายในนโยบายหลักด้านสังคมของ รัฐบาลชุดปัจุจุบัน ที่ได้จัดสรรงบก้อนใหญ่มากเทลงไปแล้ว และจะส่งตามมาอีก สปสช.ก็ปรับทิศทางการจัดสรรงบรายหัว[uc] ตรงไปที่การพัฒนา รพสต. มากและชัดเจนขึ้นในงบปี53 ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้คำว่าบริการปฐมภูมิ ซึ่งเป็นคำเดิมที่น่าจะสื่อความหมายมากกว่าด้วยซ้ำในความคิดเห็นผม
ผมได้สังเกตุและได้รับฟัง การเคลื่อนไหวของการพัฒนาในผู้เกี่ยวข้องที่น่าจะมีหน้าที่(ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว) ผมคิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือ stakeholder ทุกคน น่าจะมีคิดเห็นในเป้าหมายและวิธีเดินไปสู่เป้าหมายที่ตรงกันมากที่สุด สัมฤทธิผลของนโยบายจึงจะบังเกิดได้
ผมได้อ่านบทความของอาจารย์ของผมที่ผมเคารพ แล้วจับใจ อยากให้หลายคนที่อาจยังไม่ได้อ่าน ได้อ่านแล้ว พิจารณา ตาม แต่ท่านทั้งหลายจะคิด
“ระบบบริการปฐมภูมิ จะมีประสิทธิภาพ สามารถครอบคลุมประชากรได้ทั่วถึง และทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญที่จะส่ร้างความยั่งยืนแก่ระบบประกันสุขภาพ ก็ต่อเมื่อฝ่ายต่างๆ หันมาทำความเข้าใจ และทำงานร่วมกัน มากกว่าเพียงการพูดสรรเสริญแนวคิด แต่ปล่อยให้โอกาสในการทำงานที่สอดคล้องกับแนวคิดหลุดลอดไป เพราะมองหน่วยต่างๆ แยกย่อยออกจากกัน หรือมองเห็นแค่เนื้อหารายการบริการในชุดสิทธิประโยชน์ และงบประมาณที่จะได้รับ แทนการมองทะลุแนวคิด มองเห็นศักยภาพภาคี และร่วมกันสร้างรูปแบบการทำงานที่หลากหลายในลักษณะของเครือข่าย โดยยึดแนวคิด และเป้าหมาย มากกว่าเพียงบัญชีรายการงานที่ต้องทำ และงบประมาณที่จะได้รับในแต่ละหน่วยบริการ”
โดย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์
ประธานคณะกรรมการวิชาการหลักเพื่อพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ
ระบบบริการปฐมภูมิ จะมีประสิทธิภาพ สามารถครอบคลุมประชากรได้ทั่วถึง ก็ต่อเมื่อฝ่ายต่างๆ หันมาทำความเข้าใจ และทำงานร่วมกัน มากกว่าเพียงการพูดสรรเสริญแนวคิด แต่ปล่อยให้โอกาสในการทำงานที่สอดคล้องกับแนวคิดหลุดลอดไป
เห็นด้วย เป็นที่สุดครับ
ผมเชื่อว่าภาคีต่างๆมีการขยับเขยื้อนไปอย่างมาก แต่หัวขบวนในระบบคือแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ยังมีกลุ่มน้อยครับ น่าลองจับมาแลกเปลี่ยนสบายๆแบบ KM วักรอบนะครับพี่
ขอบคุณสำหรับภาพหน้าปกหนังสือครับ จะหาอ่านอีกที
เข้ามาเชียร์ครับ
ขอบคุณครับ
ใครทำอะไรดี หรือเห็นใครทำอะไร ช่วยกันเขียน ช่วยกันเชียร์ดีไหมครับครับ