สารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึง ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ


สารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึง ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ

เนื่องจาก ผู้เขียน ได้อ่านสารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึง ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ และเห็นว่ามีประโยชน์ต่อลูกจ้างประจำและผู้อ่าน จึงขอสรุปได้ ดังนี้ค่ะ...

ลูกจ้างประจำของส่วนราชการเป็นบุคลากรภาครัฐประเภทหนึ่งซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการสนับสนุนการทำงานของข้าราชการ และ นอกจากจะได้รับเงินค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานเป็นค่าจ้างแล้ว ยังได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์เกื้อกูลอื่น ๆ จากทางราชการตลอดเวลาที่รับราชการอยู่จนเมื่อพ้นจากราชการ อย่างไรก็ตาม ในระบบปัจจุบัน เมื่อลูกจ้างประจำพ้นจากราชการก็จะได้รับบำเหน็จซึ่งเป็นเงินก้อนในคราวเดียว ไม่มีสิทธิเลือกรับเป็นรายเดือน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีรายได้เป็นรายเดือน ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของท่านและเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเรื่องค่าครองชีพ รวมทั้งให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพภายหลังออกจากราชการ สำหรับกลุ่มคนที่ได้ปฏิบัติงานราชการมาเป็นเวลา 25 ปี กระทรวงการคลังจึงได้เสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังใหม่ เมื่อวันที่ 25 สิหงาคม 2552 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบร่างระเบียบดังกล่าว โดยให้มีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เป็นต้นไป ซึ่งร่างระเบียบกระทรวงการคลังดังกล่าว เป็นการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง พ.ศ. 2519 ฉบับเดิม โดยกำหนดเพิ่มเติมให้ลูกจ้างประจำได้รับบำเหน็จรายเดือนและบำเหน็จพิเศษรายเดือนได้ ซึ่งผู้เขียนขอสรุปสาระสำคัญย่อ ๆ ดังนี้

1. กำหนดให้ลูกจ้างประจำผู้มีสิทธิรับบำเหน็จปกติ ซึ่งมีเวลาทำงานตั้งแต่ 25 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปหรือมีสิทธิได้รับบำเหน็จพิเศษ สามารถขอรับเป็นบำเหน็จรายเดือนหรือบำเหน็จพิเศษรายเดือนแทนก็ได้ ทั้งนี้ เมื่อลูกจ้างประจำได้รับเงินดังกล่าวจากส่วนราชการผู้เบิกแล้ว จะขอเปลี่ยนแปลงความประสงค์ในการขอรับอีกไม่ได้

2. กำหนดให้สิทธิในบำเหน็จรายเดือนและบำเหน็จพิเศษรายเดือน เริ่มตั้งแต่ลูกจ้างประจำออกจากงาน จนกระทั่งผู้นั้นถึงแก่ความตาย

3. กำหนดให้บำเหน็จรายเดือน คำนวณจากค่าจ้างเดือนสุดท้ายคูณด้วยจำนวนเดือนที่ทำงานหารด้วยสิบสอง ผลลัพธ์เป็นเท่าใดให้หารด้วยห้าสิบ

ตัวอย่าง ในกรณีที่ลูกจ้างประจำรายหนึ่ง มีเวลาในการรับราชการ 30 ปี (12 X 30 ปี = 360 เดือน)

ค่าจ้างเดือนสุดท้าย 15,260 บาท

การคำนวณบำเหน็จรายเดือน (ระบบใหม่ที่ปรับปรุง)

บำเหน็จรายเดือน = ค่าจ้างเดือนสุดท้าย X จำนวนเดือนที่ทำงาน

12 X 50

= 15,260 X 360 = 9,156 บาท/เดือน

12 X 50

การคำนวณบำเหน็จปกติ (ระบบเดิม)

บำเหน็จปกติ = ค่าจ้างเดือนสุดท้าย X จำนวนเดือนที่ทำงาน

12

= 15,260 X 360 = 457,800 บาท

12

ดังนั้น ถ้าลูกจ้างประจำรายดังกล่าวออกจากราชการ และมีชีวิตหลังออกจากราชการอีก 20 ปี ตามระบบใหม่ที่ปรับปรุง (ซึ่งเป็นทางเลือก) จะได้เงินรวมทั้งหมด 9,156 X 20 X 12 = 2,197,440 บาท (โดยรับเป็นบำเหน็จรายเดือน เดือนละ 9,156 บาท)

4. กำหนดให้บำเหน็จพิเศษรายเดือน คำนวณโดยให้เจ้าสังกัดเป็นผู้กำหนดตามจำนวนที่เห็นสมควรแก่เหตุการณ์ประกอบกับความพิการและทุพพลภาพของลูกจ้างประจำ ดังนี้

(1) กรณีปฏิบัติหน้าที่ในเวลาปกติ ให้คำนวณจากหกถึงยี่สิบสี่เท่าของค่าจ้างเดือนสุดท้าย ผลลัพธ์เป็นเท่าใดให้หารด้วยห้าสิบ

(2) กรณีปฏิบัติหน้าที่ตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ในระหว่างเวลาที่มีการรบการสงคราม การปราบปรามจลาจล หรือในระหว่างที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้คำนวณจากสามสิบหกถึงสี่สิบสองเท่าของค่าจ้างเดือนสุดท้าย ผลลัพธ์เป็นเท่าใดให้หารด้วยห้าสิบ

5. กำหนดให้ลูกจ้างประจำผู้มีสิทธิได้รับบำเหน็จปกติ หรือบำเหน็จพิเศษที่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงความประสงค์ขอรับเป็นบำเหน็จรายเดือนและบำเหน็จพิเศษรายเดือน ได้ที่ยังไม่ได้รับเงินบำเหน็จปกติหรือบำเหน็จพิเศษจากทางราชการ ในวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ สามารถแสดงความประสงค์ขอเปลี่ยนบำเหน็จปกติหรือบำเหน็จพิเศษเป็นบำเหน็จรายเดือนและบำเหน็จพิเศษรายเดือน แล้วแต่กรณีแทนได้

ซึ่ง ผู้เขียน หวังว่าคงเป็นข่าวดีที่ลูกจ้างประจำทุกท่านคงมีความมั่นใจในอนาคตของตนเองมากขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกจ้างประจำทุกท่านจะช่วยกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้การดำเนินงานของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและส่งผลดีต่อประเทศชาติ โดยรวม

ที่มา : วารสารข่าว กสจ. ปีที่ 12 ฉบับที่ 3 ประจำเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2552

หมายเลขบันทึก: 313190เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2009 11:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน 2016 15:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (38)

มาร่วมยินดีกับลูกจ้างประจำด้วยนะคะ *^_^*

 

ขอบคุณ...อาจารย์พิชชาค่ะ

และแล้ววันที่รอคอยของลูกจ้างประจำก็มาถึงค่ะ...

และคิดว่า ระเบียบอื่น ๆ ก็คงจะตามมาค่ะ...

อยากทราบว่าถ้าเกษียณปุบ อยู่มาอีกปีเดียวแล้วเกิดตายขึ้นมา ลูกจ้างไม่ขาดทุนแย่หรือ

น่าจะได้ค่ารักษาพยาบาลด้วยนะ เพราะทำงานในหน่วยราชการเหมือนกัน

ตอบ...หมายเลข 5-6

ใน blog ไม่สามารถตอบได้ค่ะ อยู่ที่คุณจะตัดสินใจว่าจะเลือกวิธีการรับบำเหน็จแบบใดค่ะ ที่นำมาแจ้งเพื่อต้องการให้ทราบว่าการคำนวณบำเหน็จ มีวิธีคิดคำนวณกันอย่างไร สำหรับค่ารักษาพยาบาล ต้องรอระเบียบของกระทรวงการคลัง และระเบียบอื่น ๆ ออกให้ก่อน จึงจะนำมาแจ้งให้ทราบค่ะ

อยากทราบว่าอีกนานไหมครับ กว่าระเบียบกระทรวงการคลังจะออก

เพราะปีนี้มีเพื่อนๆเกษียนไปบ้างแล้ว ขอบคุณครับธภ

ตอบ...หมายเลข 8...

ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2552

ประกาศใช้แล้วนะค่ะ... อยู่ในไฟล์ข้างบนค่ะ ถ้าจะอ่านก็อยู่อีกหัวข้อ ได้เขียน

ไว้ให้ทราบแล้วค่ะ...

อยากทราบว่าปี 53จะมีการขยายขั้นเงินเดือน

ลูกจ้าง ไหมครับ ไม่ขึ้นมาหลายปีแล้ว

ตอบ...หมายเลข 10

ทราบแต่ว่าขณะนี้ รัฐกำลังดำเนินการจัดแบ่งกลุ่มลูกจ้างประจำให้ใหม่ค่ะ

มี 3 กลุ่ม รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไปค่ะ...

ตอบ...หมายเลข 10...

แก้ไข การแบ่งกลุ่มของลูกจ้างประจำ ปัจจุบัน มี 4 กลุ่ม ค่ะ ...

สวัสดีครับ ผมรับราชการมายี่สิบเก้าปีครับ

สวัสดีค่ะ...คุณเกียรติศักดิ์...

Ico32  ยินดีที่ได้รู้จัก...เป็นครูพลศึกษาหรือค่ะ...ไม่ทราบสังกัดใดค่ะ...เพราะไปดูประวัติไม่มีบอกค่ะ...แล้วจะไปเยี่ยมที่บล็อกค่ะ...รับราชการนานนะค่ะ...ประสบการณ์คงเยอะมาก ๆ นะค่ะ...

สวัสดีครับ ครูพลศึกษาครับ สอนโรงเรียนเสาไห้ "วิมลวิทยานุกูล" อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี โรงเเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษาเดิม ปัจจุบันสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานครับ โรงเรียนมีนักเรียน 2900กว่าคนครับ ผมไม่ได้ลงประวัติเพราะเพิ่งหัดเล่นเวปบล็อกครับ

ต้องขออภัยครับ

สวัสดีค่ะ...อาจารย์เกียรติศักดิ์...

  • Ico32  ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งค่ะ...เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่นะค่ะ...
  • แต่ก่อน ผู้เขียนก็เป็นผู้บริหารอยู่สังกัดประถมศึกษาเหมือนกัน
  • แต่พอตำแหน่งยุบ...เลยสอบโอนมาอยู่ ม.ราชภัฏ ค่ะ...
  • ถ้าไม่มาก็เป็นรอง ผอ.เขตที่ สพท.แล้วค่ะ...แต่ขอโอนมาดีกว่า...เพราะอยู่ที่เขตไม่ค่อยมีความสุข (อำนาจเยอะมากเกินไปค่ะ)...ตัวคนเดียวสู้ไม่ไหวค่ะ...
  • ตอนนี้มีความสุขตามอัตภาพค่ะ...เพราะทำงานตามความสามารถ...
  • ทำให้เราทราบถึงระบบข้าราชการไทยที่เปลี่ยนแปลงในระบบใหม่ค่ะ...
  • การเขียนบล็อก ต้องมาด้วยใจรักนะค่ะ ถ้าไม่รัก จะเป็นลักษณะกระท่อนกระแท่นค่ะ
  • สิ่งแรก เราอยากเขียนอะไร ก็ต้องเตรียมเรื่องไว้ค่ะ
  • อาจารย์มีประสบการณ์ทางด้านกีฬาเยอะ เพราะเป็นครูพลศึกษา
  • ลองนำความรู้มาถ่ายทอดบนเว็บสิค่ะ  เพื่อสุขภาพก็ได้...เด็กรุ่นใหม่จะได้ทราบค่ะ
  • เด็ก ๆ จะได้รับความรู้กันค่ะ
  • ลองดูนะค่ะ...แต่ขอบอกว่าการเขียนก็ต้องสม่ำเสมอค่ะ ขึ้นอยู่ที่ใจค่ะ...และต้องฝึกเข้ามาอ่านบล็อกอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ...(แบ่งเวลาก็ได้)...จะได้ความรู้จากเพื่อน ๆ ในบล็อกมากค่ะ
  • อยู่ที่เราเลือกอ่านและนำไปปฏิบัตินะค่ะ...
  • ขอบคุณค่ะ...

อยากสอบถามอาจารย์เรื่องการคิดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(กสจ)กรณีเกษียนอายุค่ะ

ตอบ...คุณ kun...

  • ขอทราบอีกครั้งได้ไหมค่ะ ว่าคุณต้องการทราบเรื่องอะไร
  • แต่ถ้าเป็นเรื่องของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กสจ.) ลองดูได้ที่ด้านล่างนะค่ะ
  • http://gpef.or.th/view_webboard.php?uid=8
  • การคิดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขอดูที่เบอร์โทรด้านล่างนะค่ะ
  • แล้วติดต่อ เพราะน่าจะมีโปรแกรมคำนวนค่ะ
  • ซึ่งบริษัทพินันซ่า รับเรื่องในการบริหารจัดการเกี่ยวกับ กสจ.ค่ะ...

สวัสดีครับอาจารย์ ผมรับราชการ(ลูกจ้างประจำ)บรรจุ พ.ค.35 มา 18 ปี อายุ 36 ถ้าทำงานจนเกษียณ 60 ปี จะเกษียณอายุปี 2577

จะได้ บำเหน็จรายเดือนไหมครับ อ่านใน ข่าว ท่าน รมต. ท่านว่า ลูกจ้างประจำกลุ่มสุดท้ายที่จะได้ บำเหน็จ จะเกษียณปี 2576 แต่ข่าวว่าให้ทุกคนที่ อายุราชการ 25 ปี ขึ้นไป ผมอายุงาน 42 ปี และยังมีคน บรรจุหลังผมอีก หลายปี ทำไมกลุ่มสุดท้ายตามข่าวจึงแค่ปี 2576 ละครับ หาคำตอบไม่ได้เลย ข่วยตอบด้วยครับ มีประโยชน์มากเลย ขอบคุณครับ ตอบทางเมล์ก็ได้ครับ

ตอบ...คุณศิริศักดิ์...

  • แต่ที่พี่ทราบมานั้น ประมาณอีก 30 ปี นะค่ะ ที่ลูกจ้างประจำจะหมด แต่ที่คุณบอกมานั้น อาจเป็นเรื่องการประมาณการกระมังค่ะ...แต่ข้อมูลก็อยู่ที่สำนักงาน ก.พ. ค่ะ...เป็นไปตามจำนวนลูกจ้างประจำที่ยังคงเหลืออยู่ไงค่ะ...
  • เอาเป็นว่า ข่าวก็คือ ข่าว อาจมีการคลาดเคลื่อนกันได้บ้างค่ะ...แต่ข้อมูลที่มี คือ ข้อมูลจริงค่ะ...อย่าวิตกไปเลย...

ขอบอาจารย์แทนลูกจ้างที่ นำข้อมูลมาแจงรายละเอียดให้เห็น ปีนี้ลูกจ้างได้รับบำเหน็จรายเดือนไปแล้วหลายคน

สมาคมลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย เราก็ช่วยกันบอกเล่าให้ลูกจ้าทุกคนได้รับทราบ

หลังการปรับเปลี่ยนสู่ตำแหน่งใหม่หลายคน ยังไม่ทราบ และหลายคนก็รับทราบจากบันทึกของอาจารย์

จึงต้องขอขอบพระคุณอย่างสูงที่ได้ชี้แนะ

  • สวัสดีค่ะ
  • อ่านบันทึกของอาจารย์แล้วเข้าใจในรายละเอียดเพิ่มขึ้นมากมายเลยค่ะ แล้วจะนำความนี้ไปบอกต่อกับเพื่อน ๆ นะค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

                            

สวัสดีค่ะ...คุณวอญ่า...Ico32...

  • ขอบคุณค่ะ...

สวัสดีค่ะ...น้องบุษรา...Ico32...

  • ขอบคุณค่ะ...

 

สวัสดีครับอาจารย์ ขอบคุณครับที่อาจารย์ให้ความกระจ่าง แต่ขอคำยืนยันว่า ผมได้บำเหน็จรายเดือนใช่ไหมครับ เพื่อประกอบการตัดสินใจในอนาคตการรับราชการของกระผม (อายุราชการ 18 ปี อายุ 36 ปี)

ผมมีคำถามอีกข้อครับ ผมอยู่กลุมช่างเทคนิค (กลุ่มช่างยนต์)4 ขั้น อยู่ชั้น 2 ระบบใหม่เงินตันประมาณ ที่ 22,000 ถ้าตันแล้ว จะขึ้นไป ขั้น 3 ระบบใหม่เขาทำกันอย่างไรครับ ต้องสอบเลื่อนชั้นแบบเดิมหรือเปล่าครับ หรือเหมือนกับของข้าราชการ ที่ ไปกินแท่งใหม่เลย คือไม่ได้หมายความว่าสอบเป็นหัวหน้างานนะครับ ก็ไม่เข้าใจว่าระบบใหม่ ชั้น 3 ตำแหน่งเฉพาะหัวหน้างานหรือเปล่า ขอบคุณอาจารย์มากนะครับที่ให้ความรู้ ผมจะได้ไปบอกกับ เพื่อน ที่ทำงาน มี่เป็นพันคนเลยครับ

เพิ่มเติมครับ คือถ้า รับราชการจนเกษียณ ขอบคุณครับ

ตอบ...คุณศิริศักดิ์...

  • ปัจจุบันระเบียบได้ประกาศใช้แล้ว ก็มีผลไปจนกว่า ระเบียบนี้จะถูกยกเลิก
  • ไม่มีใครให้คำตอบคุณได้ว่าระเบียบใช้ตลอดไปหรือไม่ หรืออาจถูกยกเลิกถ้ามีกรณีอื่น เอาเป็นว่าปัจจุบันให้ได้รับบำเหน็จรายเดือน แต่อนาคตผู้เขียนก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ...ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการภาครัฐค่ะ...
  • การที่จะเลื่อนเป็นระดับ 3 นั้น ให้คุณดูที่หน้าที่ปัจจุบันด้วยนะค่ะ ว่าคุณได้ปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องใด + ดูคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งระดับ 3 ว่ามีว่าอย่างไร ถ้ามีบุคลากรในตำแหน่งที่จะเลื่อนขึ้นเท่ากับคนมาก...ส่วนราชการคงต้องมีการเปิดสอบเพื่อแข่งขันกันค่ะ...
  • เมื่อจะเลื่อนเป็นระดับ 3 ถึงสอบได้ระดับ 3 แล้ว ก็ต้องรอให้เงินค่าจ้างเต็มเพดานค่าจ้างที่ 22,000 บาท ก่อนค่ะ จึงจะเลื่อนไปยังอีกระดับหนึ่งค่ะ...ให้ศึกษาในบล็อกด้านล่างนี้ค่ะ...
  • http://gotoknow.org/blog/bussayamas46/350704

สวัสดีครับ อาจารย์ บุษยมาศ ผมเป็นลูกจ้างประจำกระทรวงกลาโหม ผมมีข้อข้องใจอยากถามอาจารย์ หน่อยครับ คือ ตรงคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง น่ะครับ คือ ผมสอบเปลี่ยนสายงานจาก ช่างโลหะแผ่นชั้น 2 มาเป็น ช่างต่อเรือเหล็กชั้น 2 ได้ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ แต่อายุราชการอยู่ที่ 20 ปี โดยประมาณ ไม่ทรวบว่าการปรับตำแหน่งลูกจ้างประจำจะเป็นปัญหาหรือเปล่าครับ เพราะผมอ่านตรง คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งแล้วไม่สบายใจเลยครับ ไงอาจารย์ ช่วยอธิบายหน่อยนะครับ ได้หรือไม่ได้ช่วยกรุณาแนะนำทางออกด้วยนะครับ ขอบคุณครับ (พึ่งหน่วยงานไม่ได้เลยครับ เลยต้องรบกวนอาจารย์อีก)

สวัสดีครับอาจารย์ ขออนุญาติอาจารย์ นำบันทึกนี้ไปเผยแพร่ในบันทึกของสมาคมลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทยครับ

ตอบ...ประจำ ทร.

  • ขอให้คุณศึกษาตามไฟล์หรือบล็อกด้านล่างนี้นะค่ะ...
  • http://gotoknow.org/blog/bussayamas46/348990
  • http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/530/111/original_technic_compare_8.pdf?1285770085
  • http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/530/114/original_technic_job_8.pdf?1285770112
  • http://gotoknow.org/blog/bussayamas46/350704
  • http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/534/293/original_bbb2.pdf?1285800449
  • สำหรับคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งช่างต่อเรือเหล็ก ระดับ 2 มีดังนี้ค่ะ...
  • 1. แต่งตั้งจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งช่างต่อเรือเหล็กระดับ 1 ซึ่งปฏิบัติงานมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือ
  • 2. ได้รับวุฒิไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่าในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับลักษณะงานในหน้าที่ และเคยปฏิบัติงานด้านนี้มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือ
  • 3. แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถเหมาะสมและมีความชำนาญงานในหน้าที่ และเคยปฏิบัติงานด้านนี้มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 8 ปี หรือ
  • 4. ได้รับวุฒิไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือเทียบเท่าในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับลักษณะงานในหน้าที่ หรือ
  • 5. เป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในระดับชั้นที่มีความสัมพันธ์กับลักษณะงานในหน้าที่
  • ถ้าคุณเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง ก็ปรับได้ค่ะ เพราะมีคำว่า "หรือ"...
  • ขึ้นอยู่กับคำสั่งที่ส่วนราชการให้คุณปฏิบัติด้วยว่า ปฏิบัติหน้าที่อะไร ให้ดูรายละเอียดในไฟล์เกี่ยวกับหน้าที่โดยย่อของ ตำแหน่งช่างต่อเรือเหล็ก ระดับ 2 ด้วยค่ะ ว่าคุณทำหน้าที่ดังกล่าวในไฟล์ข้างต้นหรือไม่ ถ้าทำก็ O.K. แล้วค่ะ...แต่ถ้าไม่ทำต้องดูด้วยนะค่ะว่างานที่เราปฏิบัตินั้น ได้แก่ ตำแหน่งอะไร เพราะจะเกี่ยวเนื่องกับการไปขอปรับเปลี่ยนเป็นระดับ 3 ค่ะ...
  • ลองศึกษาดูก่อนนะค่ะ ถ้าไม่เข้าใจให้สอบถามมาใหม่ค่ะ...รหัสตำแหน่งช่างต่อเรือเหล็ก ระดับ 2 คือ รหัสที่ 3404 ค่ะ เพื่อง่ายต่อการค้นหาค่ะ...

ตอบ...คุณวอญ่า...Ico48...

  • ยินดีเลยค่ะ...

ขอบคุณมากครับอาจารย์ บุษยมาศ ถ้าติดขัดอะไรจะมารบกวนใหม่นะครับสวัสดีครับ

ตอบ...ประจำ ทร.

  • ยินดีให้คำแนะนำค่ะ...

ขอให้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลด้วย ขอบพระคุณอย่างยิ่ง

ผมเข้ารับราชการเป็นลูกจ้างประจำปี 2539 เป็นลูกจ้างของโรงพยาบาลในกทม.ครับ และนับเวลาเกษียณแล้วผมได้

แค่เวลา 22 ปี ครับ ถึงแค่ปี 2561 จะเกษียณแล้ว และที่บอกว่าถ้ามีปฏิวัติรัฐประหาร ก็จะบวกเข้าไปอีก ของผมนับดูแล้ว หลังจากที่ผมบรรจุแล้วมีปฏิวัติมาอีก 4 ครั้ง อย่างนี้ผมจะได้บวกไปอีก 4 ปีหรือป่าวครับ ถ้าได้ผมจะได้อายุราชการ 26 ปี ใช้ไหมครับ คืออยากได้บำเหน็จรายเดือนครับ ถ้าไม่ถึงก็ไม่ได้บำเหน็จรายเดือนครับ

ลูกจ้างประจำท่านใดอยากย้ายสับเปลี่ยนบ้าง

ผมเป็นลูกจ้างประจำอยู่ที่สำนักเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 ตำแหน่ง ช่างไฟฟ้า ช 3 สนใจโทร.0884702254

กราบเรียนอาจารย์ค่ะ

ดิฉันเป็นลุกจ้างประจำของกระทรวงสาธารณสุขค่ะมีวุฒิผุ้ช่วยพยาบาลPN และวุฒิปริญญาตรีสาธารณสุขศาสร์ดิฉันบรรจุเป็นลูกจ้างประจำในตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ ปี พ.ศ 2538 ค่ะดิฉันรบกวนเรียนถามอาจารย์ว่าลูกจ้างประจำมีตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาลรีเปล่าคะถ้ามีแล้วดิฉันสามารถปรับได้เลยหรือเปล่าค่ะและเงินเดือนจะปรับเพิ่มขึ้นตามวุฒิผู้ช่วยพยาบาลไหมคะ

                                            ขอบคุณค่ะ

เรียน อ.บุษยามาส อยากจะขอให้ช่วยผลักดัน กม. ให้ลูกจ้างประจำมีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ หลังเกษียณอายุราชการ เป็นความหวังของลูกจ้างประจำค่ะ เพราะทำงานมาไม่น้อยกว่าข้าราชการเลย ทำมากกว่าบางคนด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท