บทสัมภาษณ์ "หมอชาวบ้าน" เกี่ยวกับประสบการณ์ "มือใหม่โยคะ"


เท่าที่ผ่านมาพบว่าร่างกายมีความยืดหยุ่นดีขึ้น จิตใจสงบมากยิ่งขึ้น รู้สึกว่าไม่ค่อยเจ็บป่วยเหมือนแต่ก่อน
            ผมได้ให้สัมภาษณ์หนังสือนิตยสาร “หมอชาวบ้าน” เกี่ยวกับประสบการณ์ “มือใหม่” ในเรื่อง “โยคะ” ไว้ในฉบับเดือนกันยายนที่ผ่านมา “คุณวรรธ” (นามปากกา) ได้เขียนถ่ายทอดไว้ว่า . . .
 
กว่าจะเป็นโยคะ
ก่อนที่อาจารย์ประพนธ์จะมาสนใจฝึกโยคะได้ลองทำอะไรมาหลายๆ อย่างที่คิดว่าเหมาะสมกับตนเอง เหมาะสมกับคนที่อายุมากขึ้น โดยเน้นการออกกำลังที่ไม่หนักและหักโหมจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการแกว่งแขน รำมวยจีน หรือชี่กง แต่ปัญหาคือไม่มีความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จนไม่ได้ทำในที่สุด และแล้วก็ได้มารู้จักและทดลองฝึกโยคะโดยการแนะนำของภรรยา
 
" แรกๆ แค่ตามภรรยาไปฝึกโยคะสัปดาห์ละครั้ง แต่นั่นก็เป็นเรื่องยากแล้วเพราะรู้สึกว่าต้องเหยียด ต้องยืดอะไรมากมาย พยายามแล้วก็ยังทำไม่ได้ ยิ่งท้อไปใหญ่เมื่อเห็นคนอื่นทำได้แต่ตัวเองแข็งเหมือนท่อนไม้ " แล้วความพยายามที่มีก็สิ้นสุดลงที่ 2 เดือนเท่านั้น
 
"เวลาผ่านไปเป็นปี ก็ได้ยินเรื่องโยคะมาเข้าหูอีก เพื่อนที่ทำงานไปเล่นโยคะร้อน (Hot Yoga) มาและชักชวนให้เล่นด้วย    ในใจยังกล้าๆ กลัวๆ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาฝังใจว่าเป็นเรื่องยาก ยิ่งเป็นโยคะร้อนที่ต้องอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 38-40 องศาเซลเซียส ให้ครบ 90  นาทีแล้วก็ยิ่งกังวล " แม้จะกังวลแค่ไหนแต่อีกใจก็อยากลอง ในที่สุดอาจารย์ประพนธ์จึงได้เข้าไปฝึกโยคะร้อนในฐานะแขกรับเชิญของเพื่อน ฝึกผ่านไปได้ด้วยดีโดยไม่มีอาการเป็นลมแต่อย่างใด
 
จากโยคะร้อนที่ไปทดลองกับเพื่อนมาถึงโยคะร้อน ใกล้บ้านจากการชักชวนของภรรยา (อีกครั้ง) " ตัดสินใจสมัครสมาชิกไป 2 เดือน และพยายามไปให้บ่อยครั้งจะได้คุ้มกับเงินที่จ่ายไป  อาจารย์ประพนธ์บอกถึงความ รู้สึกทรมานกับการจัดการบริหารเวลาในช่วงนั้นว่าเสร็จงานปุ๊บต้องรีบไปให้ทันฝึกรอบเย็น ไม่ทันรอบเย็นก็เป็นรอบกลางคืน กว่าจะกลับถึงบ้านดึกดื่น เป็นการจัดการเวลาที่ไม่ลงตัว ครบ 2  เดือนก็หยุดไปอีก


แม้จะผ่านประสบการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับโยคะมาโดยไม่มีครั้งไหนที่ได้ทำอย่างจริงจัง แต่โอกาสก็มาให้ได้ทดลองอีกครั้ง... 13-14 ธันวาคม พ.ศ.2551  อาจารย์ประพนธ์และภรรยาได้เข้าร่วมคอร์ส "โยคะ ธรรมะหรรษา ฮา..ฮา..ฮา" ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดนครปฐมโดยสถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธิหมอชาวบ้าน เน้นการสอนอาสนะพื้นฐาน 14 ท่า ผนวกกับการบรรยายธรรมและนำฝึกปฏิบัติ (ฝึกสติ) ตามแนวหลวงพ่อเทียนโดยพระอาจารย์ครรชิต อกิณจโน แห่งวัดป่าสันติธรรม จังหวัดชัยภูมิ


" การเข้าคอร์สครั้งนี้เปลี่ยนมุมมองของผมเกี่ยวกับโยคะโดยสิ้นเชิง คือได้เรียนรู้ว่า "โยคะไม่ได้ยากอย่างที่เคยรู้สึก " และยังได้หลักสำคัญในการฝึกโยคะ 4 ข้อ ว่าจะต้อง นิ่ง สบาย ใช้แรงแต่น้อย และมีสติรู้ตัวอยู่ทุกขณะ "
 
ทําโยคะให้ง่าย
จากการฝึกโยคะแบบจำใจมาหลายครั้ง ถึงตอนนี้ อาจารย์ประพนธ์ฝึกโยคะด้วยความเต็มใจและสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างลงตัว การบริหารเวลาในตอนเช้าช่วง 05.00-06.00 น. เพียง 1 ชั่วโมงสำหรับฝึกโยคะและนั่งสมาธิก่อนเตรียมตัวไปทำงานทำให้พบความเปลี่ยนแปลง... " เท่าที่ผ่านมาพบว่าร่างกายมีความยืดหยุ่นดีขึ้น จิตใจสงบมากยิ่งขึ้น รู้สึกว่าไม่ค่อยเจ็บป่วยเหมือนแต่ก่อน เพราะปกติจะเป็นหวัดหรือแพ้อากาศค่อนข้างบ่อย แต่ตอนนี้สังเกตว่าเป็นน้อยลง และตั้งแต่ฝึกโยคะมาพบว่าไม่ได้เป็นหวัดถึงขั้นต้องไปหาหมอหรือกินยาปฏิชีวนะเหมือนแต่ก่อน "... คำบอกเล่าที่แสดงถึงความรู้สึกยินดีกับสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้นของอาจารย์ประพนธ์ เป็นผลมาจากการรู้จักนำโยคะมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นธรรมชาติ


นอกจากทำโยคะให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แล้ว ยังสามารถผสานเรื่องโยคะกับการปฏิบัติธรรมได้อย่างกลมกลืน เพราะโยคะมีหลักคือ ต้องไม่ฝืน ไม่รีบ และทำด้วยตนเอง...อาจารย์ประพนธ์ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองที่บ้านหลังจากได้รับคำชี้แนะจากครูมาแล้ว ซึ่งเป็นการพึ่งตนเองให้ได้มากที่สุดโดยการสร้างวินัยให้เกิดขึ้นแก่ตนเองและทำจนเป็นนิสัย นี่คือหลักปฏิบัติที่สำคัญ 
 
โยคะคือธรรมะและธรรมชาติ
ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับการจัดการความรู้หรือ KM นั้น ทำให้อาจารย์ประพนธ์พบว่า เราไม่สามารถจัดการแต่ส่วนที่เป็น "ความรู้" ได้ แต่ต้องจัดการส่วนที่เป็น " สติปัญญา" ด้วย เพราะสติปัญญาเป็นรากฐานสำคัญสำหรับหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น อัตตาตัวตน (อีโก้) หรือเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก การจะจัดการและพัฒนาสติปัญญาให้มีประสิทธิผลนั้นสามารถใช้แนวทางของโยคะหรือธรรมะเป็นตัวยึดเหนี่ยวได้


ธรรมะสอนให้เรานิ่ง สงบ อยู่โดยจัดการชีวิตให้เกิดความสมดุล ไม่มากหรือน้อยไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เช่นเดียวกันกับโยคะที่เน้นใช้ความนิ่ง สบาย ใช้สติ ค่อยๆ ทำ ไม่เร่งหรือฝืนจนเกินกำลัง แต่ต้องสร้างความกลมกลืนและสมดุลให้เกิดขึ้นและให้เป็นไปอย่างธรรมชาติที่ควรจะเป็น  การมีสติรู้ตัวอยู่ในทุกขณะเท่านั้นที่จะนำพาไปสู่เป้าหมายได้
 
            ท่านที่สนใจต้องการจะไปร่วมงาน "โยคะ ธรรมะหรรษา ฮา..ฮา..ฮา" ครั้งหน้า (ครั้งที่ 16) ผมเพิ่งได้รับแจ้งจาก “ครูกิ๊ม” ว่าจะจัดกันที่เดิมคือที่สวนแสนปาล์ม กำแพงแสน จ. นครปฐม ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 19-20 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ปีนี้ราคาถูกกว่าปีที่แล้ว ตอนที่ผมไปราคาคนละ  2500 บาท แต่ครั้งนี้ได้ยินมาว่า  1900 บาท (ถ้าขับรถไปเอง 1800 บาท) เพราะต้องการจะให้ผู้ที่สนใจได้ไปกันมากขึ้น ถ้าสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://yogadhammahunsa.multiply.com/journal/item/6   ขอให้โชคดีและมีความสุขกับคอร์สนี้นะครับ
หมายเลขบันทึก: 313172เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2009 10:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 17:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

          น่าสนใจดีนะคะ   ...ครูตาก็เคยไปเหมือนกันค่ะ  แต่ไม่สำเร็จ รู้สึกยุ่งยาก  ต้องจัดเวลา  ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า  ต้องขับรถออกบ้าน แล้วก็ฝึกยากมาก ๆ ตัวไม่อ่อนอย่างครูฝึก ก็เลยเลิกค่ะ 

          แม้จะรู้ว่าดีกลับสุขภาพ  ได้ทั้งกายและจิต .. พออาจารย์ว่าอย่างนี้ ก็อยากไปดูอีกสักครั้ง...แต่ท่าจะคิดยาวอยู่ค่ะ.. 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท