การกินเจ
การไม่บริโภคเนื้อสัตว์นั้น ในแง่ของสุขภาพก็เป็นผลดีต่อสุขภาพเช่นทำให้ระบบขับถ่ายดี การเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลดลงขณะเดียวกันลึกๆแล้วยังเป็นการ สร้างวัฒนธรรมที่อ่อนโยนต่อโลก ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เข้าใกล้วิถีแห่งพระโพธิสัตว์ คือไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
อย่างไรก็ดีเพื่อไม่ให้มีปัญหาทางสุขภาพกายหลักในการกินอาหารเจ ก็ควรเน้นที่สีของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นถั่ว ผัก ผลไม้ ควรบริโภคอาหารให้ ครบทั้งสี ขาว เขียว ดำ และแดง เพราะไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งที่ให้สารอาหารครบถ้วน และข้อระวังคือ หลีกเลี่ยงอาหารพวกแป้งและอาหารที่ใช้น้ำมันมากๆรวมถึงผักต่างๆก่อนจะใช้ปรุงอาหารก็ต้องล้างให้สะอาด เพื่อป้องกันสารพิษตกค้าง
หากกินเจอย่างถูกหลักโภชนาการ นอกจากจะทำให้การกินเจส่งผลดีทางด้านจิตใจแล้วยังทำให้ร่างกายของผู้ที่กินเจไม่มีปํญหาเช่น น้ำหนักเกิน ก็สามารถลดน้ำหนักส่วนเกินได้รวมทั้งยังช่วยให้อวัยวะที่ใช้ในการขับถ่ายไม่อุดตัน ช่วยให้ไตทำงานน้อยลง เป็นต้น
และที่สำคัญอีกประการหนึ่ง แม้จะกินเจ ก็คือหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินที่ร่างกายได้รับ และส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีตามมา
การหิวโหยอ่อนแรงเพราะกินเจ เพราะเคยชินกับการกินเนื้อสัตว์ให้แก้อาการด้วย การกินข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ถั่วเมล็ดแห้ง เพื่อชดเชย และการกินผักมากเกินไปก็อาจเป็นโทษต่อร่างกายได้ เพราะผักบางชนิดมีสารที่ขัดขวางการดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อ่อนแรงได้ ดังนั้นทางที่ดี ควรเดินสายกลาง อย่าสุดโด่งมากเกินไป อีกทั้งช่วงกินเจนั้นก็คงไม่ใช่แค่มุ่งกินผักอย่างเดียว แต้ควรทำจิตใจให้ผ่องแผ้วด้วย ไม่คิดร้าย ไม่อิจฉา ริษยาคนอื่น ถือศิล ทำสิ่งดีๆจึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ของประเพณีอันมีคุณค่านี้
ขอบคุณ คำกล่าวของ นพ.ณรงค์ สายวงค์
ผู้อำนวยการกองโภชนาการกรมอนามัย ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี