วันนี้หนูจะมาเล่าเรื่อง เมื่อครูพาหนูไปทำงานด้วย
หนูเป็นศิษย์งี่เง่า ๆ คนหนึ่ง ที่อยากรู้อยากเห็นว่างานที่ครูทำเป็นยังไงนะ
ตอนที่อ้อนขอไปกับท่าน เหมือนเด็กจะร้องตามแม่ไปทำงานก็ไม่ปาน
แต่พอได้ไปจริง ๆ หนูต๊กกะใจ งานของครูใหญ่มาก ๆ และหนักมาก ๆ อยากรู้ไหมค่ะ เดี๋ยวค่ะ หนูจะเล่าให้ฟังค่ะ......
มีคนมากมายมานั่งฟังท่าน ตอนเช้าแววตาแต่ละคนสะท้อนอะไรหลาย ๆ อย่าง บางคนคาดหวัง บางคนว่างเปล่า บางคนสงสัย
แต่พอเข้าสู่กระบวนการ
เหมือนครูท่านมีมนต์เปลี่ยนใจ ปิ๊ง
แววตาของผู้เข้าร่วมประชุมเปลี่ยนไป
จากว่างเปล่าไม่มีอะไร
ก็ค่อย ๆ ปรากฏเป็นประกายมีความหวัง
จากเดิมที่หลาย ๆ คนขาดชีวิตชีวา
ครูเหมือนคืนชีวิตชีวากับผู้คนเหล่านั้น
ให้พลัง ให้กำลัง ที่จะกลับไปทำงานต่อไป
ไปสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับตนเองและโลกใบนี้
หนูภูมิใจในตัวครูค่ะ
และดีใจมากที่มีโอกาสได้เรียนรู้จากครู
แต่อย่าคิดว่าหนูทำงานนี้ได้ดีนะค่ะ
ถ้าท่านคิดเช่นนั้นผิดแล้ว
วันนั้นหนูช่วยอะไรครูไม่ได้เลยขอโอกาสสารภาพ
บางทีบางจังหวะ ดันไปเพิ่มภาระให้ครูซะงั้น
หนูปฏิเสธไม่ได้เพราะมันคือความจริง
แต่ครูท่านเมตตากับหนูมาก ๆ
กราบขอบพระคุณในโอกาสและความเมตตาที่ครูให้ค่ะ
ท่านสอนแบบไม่สอน ท่านพาไปสถานที่จริงเลย
สาธุค่ะ
ครูนกดีใจแทนหนูใบไม้ร้องเพลงด้วยค่ะ..ที่มีโอกาสได้เป็นศิษย์ของผู้เป็นครูอย่างแท้จริง
อ่านแล้วประทับใจ อยากให้มีครูทั้งกายและใจ
ดีใจด้วยนะคะที่พบการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง...เพียงศิษย์เอ่ยคำนี้ออกมา..ครูก็สุดปลื้มแล้วค่ะ...ยินดีด้วยกับศิษย์ผู้พบทางสว่างนะคะ
หลังจาก Mail ปรึกษาคุณครูท่านชี้ว่าทำไมใน G2K
ไม่เขียนแบบที่ เขียนส่งท่าน
เหมือนท่านชี้ให้หนูเห็นว่า หนูยังติดดี อยากดูดี
แสดงความตอแหลแบบเนียน ๆ
เพราะความรู้สึกจริง ๆ เป็นเช่นนี้ค่ะ
นั่งเขียนบันทึก ความคิดชั่วต่อครูทำให้ไม่เจริญ ในสมุดก่อน เขียนไปก็รู้สึกเสียใจ สำนึกว่าทำผิด
แต่พอมาพิมพ์ มันเป็นหนัก ๆ รู้สึกงง ๆ เหมือนยอมรับความชั่วตัวเองไม่ได้
มันไม่อยาก พอลงบันทึกแรก จิตมันเร็วมาก ๆ
สั่งให้เขียนบันทึกที่ 2 (คือบันทึกนี้) เขียนเสร็จ รู้สึกดีโล่ง upload รอบแรก ระบบ error รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
รีบหายใจ แล้วพิมพ์ใหม่ ความหมายอย่างเดิมแต่ถ้อยคำเปลี่ยน
รู้สึกว่าอันที่ทำใหม่เจือด้วยความขุ่นมัวและอยากเอาชนะ
พออัพซ้ำ ปรากฏว่า อันแรกเข้าไปในระบบได้จึงมาลบอันที่เขียนใหม่ออก
เสร็จมานั่งดู อะไรทำให้เขียนอันที่ 2 คำตอบมันคือ มันอยากดีค่ะ
อยากให้สมองโล่ง ๆ อยากให้ใจเบา ๆ ตอนแรกว่าจะลบ ทิ้งเลย
แต่พอมีท่าน ครูนก noktalay เมตตามาตอบ (เหมือนมาช่วยเหลือหนูให้ยอมรับความจริง) ใจมันกระหยิ่มขึ้นมา ฉันเขียนได้ ครูฉันดี
แล้วก็มีคำถาม ถ้าครูดีแล้วทำไม ใจแกยังต่อต้าน ใจหนักขึ้นมาอีก
แล้วก็มีเสียงว่า กล้าทำต้อง กล้ารับ ถ้าลบมันก็คือ ลบร่องรอยของตนเอง
สิ่งที่ทำไปเอาคืนไม่ได้ กล้าทำ ต้องกล้ารับ ต้องหัดเผชิญมันให้ได้ ต้ององอาจ
กราบขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตามาแลกเปลี่ยนเจ้าค่ะ
กราบขอบพระคุณครูที่เมตตาไม่มีประมาณ
การสอนแบบไม่สอน ไม่ได้ใช้ได้กับนักเรียนทุกคนหรอกนะคะ
ที่ครูของหนูใช้วิธีนี้เพราะท่านทราบว่าหนูมีศักยภาพที่จะเรียนได้โดยที่ไม่ต้องสอนค่ะ
ขอให้พยายามต่อไปนะคะ