กลับบ้านเมื่อมีเวลา....


บรรยากาศบ้านเก่าหลังเดิมของเราที่แสนอบอุ่นยังคงอยู่ ต้นไม้ที่คุณตาปลูกไว้ก็ยังมีให้เห็น...รวมทั้งบันทึกช่วยจำของคุณตาบนฝาเรือน แม้จะเลือนไปบ้างแต่ก็เป็นลายมือที่เราคุ้นตาและอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อ่าน

ชีวิตเมื่อวัยเด็กที่ประทับอยู่ในใจ นึกถึงทีไรก็อดยิ้มไม่ได้.....ป้าอ้นโตมาจากบ้านสวน เราจึงมีที่ทางให้วิ่งเล่น เด็ก ๆ วิ่งลัดเลาะตัดสวนไปบ้านคุณทวด ปีนต้นไม้ถือเป็นเรื่องปกติแม้สำหรับเด็กผู้หญิง เราหักกิ่งไม้มาสร้างบ้านหลังเล็กมุงหลังคาด้วยใบตอง เล่นขายของด้วยดอกไม้ใบไม้กันอย่างสนุกสนุกสนานและเมื่อคุณตาคุณยายมีเวลา ก็จะชวนพวกเราปลูกต้นไม้...เป็นกิจกรรมที่แสนสนุกและน่าตื่นเต้นสำหรับเด็ก ๆ เมื่อเห็นผล...

 

เมื่อครั้งที่คุณตาจำเป็นต้องจัดสรรที่ดินเพื่อแบ่งขาย บ้านเราจึงมีถนนตัดผ่าน ที่ดินผืนใหญ่ของคุณทวดกว่า 11ไร่ ถูกถนนตัดแบ่งเป็นสี่แปลงใหญ่ บ้านคุณลุง(คุณตาใหญ่) บ้านคุณทวด และบ้านคุณตาซึ่งเคยตั้งอยู่บนที่ดินแปลงเดียวถูกแยกออกจากกันโดยถนนตัดใหม่...คุณตาเป็นนายช่างตัดถนนเองในคราวนั้น คุณตาตัดถนนกว้างถึง 10  เมตร เป็นถนนหลักของที่ดินทั้งสี่แปลง และต้องใช้เป็นทางสัญจรหลักของลูกค้าเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ และที่สำคัญคุณตาบอกว่าวันข้างหน้าที่ดินจะได้มีราคา...ด้วยเหตุนี้ต่อมาบ้านของเราจึงถูกปรับภูมิทัศน์ปรับด้านข้างตัวบ้านเป็นด้านหน้า แทนส่วนหน้าเดิมที่เด็ก ๆ เคยชิน...ส่วนถนนซอยซึ่งติดด้านหลังบ้านของเรา (ซึ่งกลับกลายเป็นด้านข้างตัวบ้านในเวลาต่อมา) ย่อขนาดหน่อย ความกว้างเพียง 8 เมตร เนื่องจากเป็นซอยตันสุดเขตก็เพียงบ้านของเราเท่านั้น แต่คุณตาก็คิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องให้ความกว้างพอรถวิ่งสวนกันได้ คนที่มาซื้อที่ดินจะได้สะดวก  ที่ดินสามแปลงยังคงเป็นของครอบครัวเราในตอนนั้น แต่จำเป็นต้องจัดสรรขายไป 1 แปลง  โดยคุณตาได้ตัดถนนอีกเส้นในที่ดินแปลงนั้น  เด็ก ๆ สนุกสนานและรู้สึกตื่นเต้นมาก มีรถสีเหลืองคันใหญ่รูปร่างไม่เหมือนรถธรรมดามีล้อใหญ่เข้ามาทำงานอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราหลายวัน ไม้ใหญ่ในสวนคุณทวดถูกโค่นลงหลายต้น รวมทั้งต้นจันทน์ซึ่งเป็นไม้หลักในสวนที่คุณทวดมักพาพวกเราไปเก็บลูกเก็บดอก... ป้าคิดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นเป็นเรื่องตื่นเต้นมากสำหรับเด็ก ๆ แต่คงเป็นความเศร้าอยู่ในใจลึก ๆ ของคุณตาที่บ้านต้องเปลี่ยนแปลง...คุณยายเล่าให้ฟังต่อมาว่าเราจำเป็นเลือเกินที่ต้องจัดสรร...

 

เมื่องานจัดสรรเสร็จสรรพ คุณตาจึงมีเวลากลับมาดูแลรายละเอียดบริเวณบ้านเราเอง สภาพบ้านสวนไม่เหลือร่องรอย ดูโล่งตาไปหมดโดยเฉพาะด้านที่มีถนนตัดผ่าน  ป้าอ้นยังเล็กมากในขณะนั้นแต่ยังจำภาพความเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี บรรยากาศใหม่ที่ไม่คุ้นชิน หากมีใครบอกว่าช่างเหอะเด็ก ๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรละก็ ผิดถนัดทีเดียว เด็ก ๆ นี่หละช่างจดช่างจำนัก...ตุณตาปรับปรุงพื้นที่ส่วนด้านหน้าเป็นสนามหญ้ากว้าง แล้วก็มอบหมายให้พี่โต ๆ ของป้า ปลูกมะพร้าวน้ำหอมที่ขอบสนามติดถนนคนละ 1 ต้น รวม 4 ต้น เป็นต้นไม้ที่เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างป้า แอบสังเกตุการเติบโตอยู่เนือง ๆ  เรายังพอมีที่ทางเหลืออยู่บ้างและกิจกรรมการปลูกต้นไม้เป็นกิจกรรมประจำบ้านที่ยังคงอยู่  ป้าจำได้ว่าคุณตาเกาะกระแสการเลี้ยงกล้วยไม้อยู่พักใหญ่โดยมีคุณยายเป็นแนวร่วม คุณตาเลือกสร้างเรือนกล้วยไม้ทางด้านตะวันตกติดกับตัวบ้านและได้ร่มจากเงาะต้นใหญ่  กล้วยไม้ที่เด็ก ๆ ชอบมากขณะนั้นเห็นจะเป็นแหม่มเริงระบำ เป็นกล้วยไม้ช่อ ดอกสีเหลืองสดใสกลีบดอกส่วนล่างลักษณะเป็นกลีบกว้างกว่าด้านบนดูเหมือนตุ๊กตานุ่งกระโปรงบาน  เราจึงเรียกว่าแหม่มเริงระบำ....ป้ามักจะช่วยคุณตานำกระถางกล้วยไม้แช่น้ำอยู่เป็นประจำ เป็นงานที่สนุก และได้เล่นน้ำ แต่คุณตานำกระถางขึ้นแขวนเอง เพราะเกรงเด็กๆ จะพลาดมือกระถางแตกได้

 

การปลูกต้นไม้ที่พวกเราเด็ก ๆ ตั้งตารอผลเห็นจะเป็นแปลงข้าวโพดของคุณยาย  คุณตาและคุณยายลงมือเตรียมแปลงดินด้วยตัวเองโดยมีพี่โต ๆ ของป้าเป็นผู้ช่วย ส่วนตัวป้าขณะนั้นยังเล็กนักไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรจึงได้แต่เฝ้าคอยมองว่าเขาทำอะไรกัน....เท่าที่พอจำได้...ต้นข้าวโพดโตเร็วมาก ไม่เพียงแต่เด็ก ๆ คุณยายเองก็ตื่นเต้นมากเมื่อฝักข้าวโพดเริ่มปรากฏให้เห็น เมื่อโตได้ที่ข้าวโพดในแปลงก็กลายเป็นอาหารยามบ่ายของเรา...แสนอร่อยเหลือเกิน

 

มาวันนี้..วันที่ป้ามีครอบครัวและมีสมาชิกตัวเล็ก ๆ ที่ต้องคอยดูแล...รูปแบบชีวิตแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ป้ายังคงเลือกที่จะชวนสมาชิกตัวน้อยขับรถทางไกลเมื่อมีโอกาสเพื่อไปบ้านคุณยาย ความเหน็ดเหนื่อยที่สั่งสมจากการงานรวมทั้งความเมื่อยล้าจากการเดินทางร่วม 2  ชั่วโมงในวันสุดสัปดาห์แทบหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อถึงจุดหมาย....แม้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวจะผันไปตามกาลเวลา ไม่มีต้นไม้พอให้หักกิ่งมาเล่นสร้างบ้านสำหรับเด็ก ๆ...แต่มวลหมู่สมาชิกน้อย ๆ ของป้าก็ได้วิ่งเล่นในสนามแทนนั่งหน้าจอทีวี ....สำหรับป้า..บรรยากาศบ้านเก่าหลังเดิมของเราที่แสนอบอุ่นยังคงอยู่  ต้นไม้ที่คุณตาปลูกไว้ก็ยังมีให้เห็น...รวมทั้งบันทึกช่วยจำของคุณตาบนฝาเรือน แม้จะเลือนไปบ้างแต่ก็เป็นลายมือที่เราคุ้นตาและอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อ่าน .. ที่สำคัญที่สุด...คุณยายดีใจทุก ๆ ครั้งที่พบหลาน ๆ  แม้วันนี้คุณยายจะลงมือทำครัวแทบไม่ไหว แต่ก็อดไม่ได้ทุกครั้งที่จะหาข้าวปลาไว้รอหลาน ๆ....ความคิดอยากกลับบ้านผุดขึ้นเสมอเมื่อมีเวลา  และป้าเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ไกลบ้านก็คงคิดเช่นเดียวกัน........

คำสำคัญ (Tags): #ครอบครัว
หมายเลขบันทึก: 306221เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2009 22:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 21:50 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เยี่ยมจริงๆครับ ป้าอ้น

ไม่รู้ว่าสมาชิก g2k ได้เคยอ่านหนังสืออ่านนอกเวลาเรื่อง "เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก" บ้างหรือเปล่า

ผมชอบหนังสือเรื่องนี้มากๆ เมื่อได้อ่านบันทึกนี้ของป้าอ้น คงต้องกลับไปหาอ่านใหม่ แต่ที่แน่ๆ มีความคิดที่จะเสนอไว้ ณ.ที่นี้โดยให้ gotoknow เป็นที่รวบรวมก็คือ น่าจะมีการทำบันทึกเรื่องราวสมัยเด็กๆ ของสมาชิก มาแลกเปลี่ยนกันเพื่อศึกษาสภาพสังคมในอดีตว่าเป็นอย่างไร และจะได้เก็บไว้เป็นงานให้ลูกๆหลานๆได้ศึกษาเมื่อยามเค้าโตขึ้น เพราะเราน่าจะได้ข้อมูลของสภาพสังคมในอดีตที่หลากหลายจากหลายรุ่นของพวกเราชาว gotoknow

เราอ่านจะตั้งชื่อบันทึกนี้ว่า "เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก version ปี 2552"

ใครเห็นด้วยยกมือขวาขึ้นเลยครับ แล้วเรามาร่วมมือกันทำเพื่ออนาคตกัน

ขอบคุณค่ะคุณหนึ่ง...ป้าเชื่อว่าทุกคนมีความทรงจำที่งดงามในวัยเด็ก เชื่อว่าหากได้ถ่ายทอดสิ่งเล่านั้นเป็นเรื่องเล่าแก่เด็ก ๆ น่าจะเป็นสื่อสัมพันธ์ที่มีค่า เชื่อมต่อจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง...ยกมือขวาสนับสนุนค่ะ...ว่าแล้วคงต้องไปหาหนังสือ "เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก" มาอ่านบ้างแล้ว..

ใช่ๆๆๆ ในเบื้องต้นนี้ขอยืมลุงหนึ่งก่อนได้ไหมครับ

ผมนอนคิดอยู่หลายเพลาแล้ว ว่าจะรวบรวมเรื่องราวตอนเด็กๆมานั่งเขียน แต่นั่นแหละ ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดีครับ มันละเอียดยิบเลยเชียว

อยากเขียนก่อนที่จะลืมครับ

สวัสดีค่ะคุณหมอ...รีบเขียนนะคะแล้วป้าอ้นจะรออ่านค่ะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท