หากต้องใช้ประสบการณ์ในการเขียน ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนหรือจบในเอกภาษาไทย
การเขียนโครงการนั้นทีแรกผมยังไม่ทราบวีธีการเขียน เรียกว่าตอนนั้นมืดแปดด้านแต่หลังจากที่ผมได้เข้าอบรมกับ อ.อนุชา นิลประพันธ์ (ที่ปรึกษาชมรมเศรษฐกิจพอเพียง ม.ขอนแก่น ซึ่งเป็นชมรมที่ผมสังกัดอยู่) ทำให้ผมได้เรียนรู้การเขียนโครงการมากขึ้น จากประสบการณ์ที่ผมได้เรียนรู้พบว่า ในช่วงแรกๆของการเขียนโครงการนั้นค่อนข้างจะยาก แต่เมื่อเขียนเรื่อยๆหลายๆโครงการแล้วมันจะง่ายขึ้นมาก
การเขียนโครงการส่วนใหญ่จะประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้
ชื่อโครงการ ต้องใช้คำที่กระชับ ชัดเจน สื่อให้เห็นภาพกิจกรรมที่จะทำ
ชื่อองค์กรหรือผู้รับผิดชอบโครงการ เช่นชมรมเศรษฐกิจพอเพียง มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หลักการและเหตุผล มีเทคนิคเขียนจากใหญ่มาหาเล็ก แบ่งเป็น ๔ ส่วน
เช่น โครงการเลิกเหล้าออกพรรษา มหาวิทยาลัยปลดเหล้า
ส่วนที่ ๑ กล่าวถึงปัญหาสุราในระดับชาติ ทั่วไป
ส่วนที่ ๒ กล่าวถึงปัญหาสุราในระดับ เยาวชน
ส่วนที่ ๓ กล่าวถึงปัญหาสุราในมหาวิทยาลัย
ส่วนที่ ๔ กล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายที่เราจะไปทำกิจกรรมกับเขา
โดยทั้ง ๔ ส่วนจะต้องสัมพันธ์กัน อ่านแล้วไม่รู้สึกสะดุด (เขียนให้เสร็จแล้ว อีก ๑ ชั่วโมงมาอ่านใหม่ จะเห็นส่วนที่ควรแก้ไข
***ส่วนใหญ่โครงการที่ผ่านจะขึ้นอยู่กับการเขียนหลักการและเหตุผล ค่อนข้างมาก
วัตถุประสงค์ คือสิ่งที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับระหว่างการทำกิจกรรม
เช่น ๑.เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการตระหนักรู้ถึงโทษของสุรา
๒.เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ
***การเขียนวัตถุประสงค์ต้องเขียนชัดเจนวัดได้ และไม่ควรเกิน ๓ ข้อ
กลุ่มเป้าหมาย คือผู้เข้าร่วมกิจกรรมว่ามีกี่คน
ระยะเวลาการดำเนินโครงการ วันเวลาเริ่มและสิ้นสุดการจัดกิจกรรม
สถานที่จัดกิจกรรม บอกรายละเอียนที่อยู่การจัดกิจกรรม เช่น ม.ขอนแก่น จ.ขอนเเก่น
แผนการดำเนินกิจกรรม รูปแบบการจัดกิจกรรม/กระบวนการ/กลวิธี/วันเวลา/สถานที่
งบประมาณโครงการ งบที่ใช้ในโครงการ
(ต้องเขียนละเอียดงบที่ใช้ และเผื่อไว้เล็กน้อย)
ผลที่คาดว่าจะได้รับ ***ไม่เหมือนกับวัตุประสงค์ คือสิ่งที่ได้รับหลังจากโครงการเสร็จแล้ว เช่น ๑.นักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการขยายผลต่อคนใกล้เคียง
ประสบการณ์ทิ้งท้าย
๑.เขียนให้ตรงจุดตามที่ผู้ให้งบกำหนด เช่น ผู้ให้งบต้องการให้จัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัย ก็ต้องจัดในมหาวิทยาลัย ให้จัดตามระยะเวลาใดก็ต้องทำตาม
๒.ต้องเก็บใบเสร็จให้ดี และรายละเอียดใบเสร็จที่สมบูรณ์ ต้องประกอบด้วยชื่อร้านค้า เลขประจำตัวผู้เสียภาษี,วันที่ซื้อ,รายการที่ซื้อ,จำนวนเงิน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆก็ให้ยืดตามอัตราการจ่ายขอผู้ให้งบ
๓.ต้องส่งสรุปโครงการตามที่ผู้ให้งบกำหนด(ประมาณ ๒๐-๓๐ วันหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ) ***ถ้าส่งไปตรงกำหนดอาจมีผลต่อการพิจารณางบในครั้งต่อไป บางหน่วยงานที่ให้งบอาจตัดสิทธิ์ถึง ๒ ปีหากไม่ส่งตามกำหนด
๔.บางหน่วยงานที่ให้งบจะแบ่งงบให้เป็นงวดๆเราต้องบริหารเงินให้ดี
และนี่คือประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้โดยที่ไต้องลงทะเบียน และหาได้ยากในห้องเรียน
ปล. การทำกิจกรรมที่ดีต้องทำด้วยความเต็มใจ และควบคู่ไปกับการเรียน ไม่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน
*ที่ไปเยี่ยมและเห็นประโยชน์ของเยาวชนนี้ต่อสังคมค่ะ
*มาเรียนรู้การเขียนโครงการค่ะ..หากประสานกับผู้มีส่วนร่วมในโครงการอย่างดี งบประมาณจะไม่ใช่ข้อจำกัดในการทำโครงการค่ะ..คิดใหญ่ๆ..เริ่มทำเล็กๆให้สำเร็จย่อมได้นะคะ..ขอให้กำลังใจค่ะ..
มาชม
เป็นโครงร่างโครงการที่น่าสนใจเวลาจะเขียนโครงการแบบนี้นะครับ
นายแน่มาก..ชื่นชมที่เริ่มเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง
ขอเป็นกำลังจให้คนดีครับ
อนุชา
มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
มาเรียนรู้ การเขียนโครงการด้วยคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ สู้ ค ะ