การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.๒๕๕๒-๒๕๖๑คนไทยได้เรียนรู้..ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ คือ ความหวัง ปี ๒๕๖๑)พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและการเรียนรู้ของคนไทย....๒)โอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้...๓) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคมในการบริหารและจัดการศึกษา คือประเด็นหลักการปฏิรูปการศึกษาและเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
ประเด็นหลัก สามประการ จะส่งผลให้คนไทยยุคใหม่ สู่ คุณภาพ....ต่อไปนี้ จริงหรือ ?
๑) สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง รักการอ่าน และมีนิสัยใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต
๒) มีความสามารถในการสื่อสาร สามารถคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหาและความริเริ่มสร้างสรรค์
๓) มีจิตสาธารณะ มีระเบียบวินัย เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม สามารถทำงานเป็นกลุ่ม
๔) มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม จิตสำนึกและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รังเกียจการทุจริต และต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง
คำถาม..จึงเกิดว่า เราควรเร่งดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้อย่างไร? เราจะผลิตและพัฒฯกำลังคนที่มีสมรรถนะและความรู้ ความสามารถอย่างไร?
- ระบบการศึกษาเรียนรู้และการวัดประเมินผลการเรียนรู้ที่เป็นมาตรฐาน และเทียบเคียงกันได้ และการนำผลการวัดมาใช้ในการพัฒนาปรับปรุงการเรียนการสอน คือ สิ่งที่ต้องจริงจัง
- การแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาขนาดเล็กและสถานศึกษาที่ด้อยคุณภาพ สู่มาตรฐาน คือ สิ่งที่ต้องเร่งรัด
- การสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ในการดูแลและพัฒนาการเรียนรู้ของบุตรหลายในทุกระดับ คือ สิ่งที่ต้องกระทำทุกภาคส่วน
พัฒนาที่เด็กก่อน ให้มีคุณธรรม จริยธรรมที่สูงขึ้น ปลูกจิตสำนึกอุปนิสัยที่ดีก่อน เป็นงานหนักสำหรับครูในยุคนี้จริงๆ
เด็กมีจิตสำนึกที่ดี การเรียนก็จะดีตาม การใฝ่รู้ใฝ่เรียนก็ตามมาเอง
ถ้ามองเห็นนักเรียน เป็นลูกของเรา ได้เมื่อไร ครูผู้นั้นก็จะสมเป็นพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ที่ดี ได้เมื่อนั้น
ให้สมกับสังคมไทยยกย่องครูไทยให้เป็นพ่อแม่
"ผู้ใดเทิดทูลครูบาร์อาจารย์ เปรียบเสมือนผู้นั้นเคารพตนเอง"
พัฒนาที่ครูก่อน แล้วตามด้วยผู้เรียน รับรองได้ผล แต่ที่สำคุัญการพัฒนาครูได้ผลหรือไม่..