ผู้เขียน ออกเยี่ยมเครือข่ายปศุสัตว์อินทรีย์บ้านประชาร่วมใจ ที่ฟาร์มสาธิตของลุงหมั้น ป้าบาง ถาคำ แนะนำสาธิตการทำปุ๋ยหมักโดยคนหมักและสัตว์หมัก นำเอาน้ำหมัก ๗ ชนิด (น้ำหมักพืชสีเขียวสด น้ำหมักผลไม้ น้ำหมักพืชสมุนไพร น้ำหมักนมเปรียวแลกติก น้ำหมักฟอสฟอรัส น้ำหมักแคลเชี่ยม น้ำหมักโปรตีน ) เชื้อราขาวท้องถิ่น น้ำตาลทรายแดง มาละลายน้ำราด และหัวเชื้อราขาวท้องถิ่นที่ขยายแล้ว มาเป็นวัสดุเริ่มต้น นอกนั้นเป็นวัสดุที่มีในท้องถิ่นจากการเกษตร
ที่ใช้ได้แก่ แกลบ ๓๐ ก.ก., มูลสัตว์แห้ง ๓๐ ก.ก.,ดินแดง ๗๐ ก.ก.,เชื้อราท้องถิ่นขยาย ๑ กระสอบ,วัสดุแห้งทางการเกษตร เช่นฟาง ใบฉำฉา ขี้แกลบ ขี้เห็ดฯลฯ ๓๐ ก.ก. เอามาคลุกกัน ราดด้วยน้ำหมัก ๘๐ ลิตร ให้ชุ่มไม่แฉะ แล้วคลุมด้วยพลาสติกทิ้งไว้ ๑๐ วันก็นำไปไช้เป็นปุ๋ยใส่พืชได้หรือเก็บใส่กระสอบไว้ได้นานๆก็ได้
ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพ แบบคนทำ คนหมักเอง
ผสมน้ำหมัก๗ชนิด จากพืช ผลไม้ สมุนไพร นมเปรี้ยว ฟอสฟอรัส แคลเชี่ยม จากหอยเชอรี่ เชื้อราท้องถิ่นและน้ำตาลทรายแดง อย่างละ๒ ช้อนกับน้ำ ๒๐ ลิตร
บรรดาหมูหลุมที่อยู่ในคอกไม่รู้ตัวว่าเป็นผู้ช่วยทำปุ๋ยหมักในหลุมที่ได้เตรียมไว้ หลุมหมักที่ขุดไว้ขนาดลึก ๙๐ เซนติเมตร ใส่ส่วนผสมของหัวเชื้อราท้องถิ่น ๒ กระสอบ ถ่านละเอียด ๔ กระสอบ เกลือ ๒ กิโลกรัม ดินแดง ๔ กระสอบ น้ำหมักจุลินทรีย์ ๗ ชนิดละลายน้ำกับเชื้อราท้องถิ่น ๘๐ ลิตร โดยแบ่งใส่เป็นสองชั้น
ล้างอ่างเล่นน้ำที่มีทั้ง มูลและปัสสาวะหมู ล้างลงบ่อหมักก๊าซชีวภาพแบบถุงพีวีชี ไปใช้ในการหุงต้มประโยน์ที่ได้อีกทางหนึ่ง
อุปสรรคที่ขวางอยู่คือความขยันหมั่นเพียร ความอดทน และการแบ่งเวลาเพราะต้องหาวัสดุต่างๆจากการเกษตรมาทำอาหารเอง เกษตรกรต้องมีการวางแผนการทำงานที่เหมาะสม เผื่อเวลาที่ต้องไปทำงานที่ฉุกเฉินงานส่วนตัวต่างๆ ความรู้ก็มีบ้างแต่เจ้าหน้าที่พร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาตลอด
คาดว่า
ไม่มีความเห็น