รัฐบาลปลดล็อกอีออคชั่น "ไทยเข้มแข็ง" วงเงิน 2-5 ล้าน


คลังผ่อนปรนระเบียบอีออคชั่น เอื้อประมูลโครงการไทยเข้มงจัดซื้อวงเงิน 2-5 ล้านบาท และ ไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้อ านาจหัวหน้าหน่วยงานเต็มที่ หวังเพิ่มประสิทธิภาพจัดซื้อจัดจ้างและเบิกจ่ายงบปี 2553 "นายกฯ" ลั่นรัฐบาลจริงจังสอบข้อเท็จจริงข่าวทุจริตไทยเข้มแข็ง
          นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.วานนี้ (6 ต.ค.) อนุมัติขยายเวลาผ่อนคลายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 (อีออคชั่น) ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2552 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ และสอดคล้องนโยบายเร่งเบิกจ่ายของหน่วยงานรัฐ ทั้งนี้ ระเบียบอีออคชั่นเดิม กำหนดให้การจัดหาพัสดุของหน่วยงานรัฐ ที่กิจกรรม โครงการ หรือก่อสร้าง มูลค่าตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปดำเนินการตามระเบียบ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอีออคชั่น ให้จัดหาด้วยวิธีอื่นได้ และมีมาตรการผ่อนผันตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2551 ถึง 30 ก.ย. 2552 ซึ่งการเสนอ ครม.ครั้งนี้ผ่อนผันต่อเนื่องจากมติ ครม.เดิมที่เคยผ่อนคลายไว้
          นายพฤฒิชัย กล่าวอีกว่า สาระที่ผ่อนคลาย ได้แก่ 1. การจัดหาพัสดุ ส่วนราชการ วงเงิน 2-5 ล้านบาท ส าหรับรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นรัฐ วงเงินบาทไม่เกิน 10 ล้าน กรณีมีเหตุผลจ าเป็น หรือมีปัญหาอุปสรรค ให้หัวหน้าหน่วยงานใช้ดุลยพินิจ ไม่ต้องด าเนินการตามระเบียบอีออคชั่น 2549 แต่ต้องชี้แจงเหตุผล ความจ าเป็น หรือปัญหาไว้ในรายงานขอซื้อหรือขอจ้าง 2. การแต่งตั้งคณะกรรมการร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์) และร่างเอกสารประกวดราคาก่อนเริ่มจัดหาพัสดุตามระเบียบ ข้อ 8 (1) เห็นควรผ่อนผันให้จัดหาพัสดุ วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท หรืองานก่อสร้างโครงการที่มีแบบและข้อก าหนดก่อสร้างที่เป็นมาตรฐานไว้แล้ว ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าหน่วยงานจะตั้งคณะกรรมการทีโออาร์ และร่างเอกสารประกวดราคาหรือไม่ก็ได้ 3. การแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคา คัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลาง และก าหนดวัน เวลา สถานที่เสนอราคา ผ่อนผัน ให้เป็นอ านาจของหัวหน้าหน่วยงาน 4. การคัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลาง และก าหนดวัน เวลา สถานที่เสนอราคา เดิมให้อธิบดีกรมบัญชีกลางแต่งตั้ง โดยจัดหาพัสดุวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้มีคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 7 คน และวงเงินเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป ให้มีคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 7 คน และต้องมีกรรมการภายนอกอย่างน้อยหนึ่งคน 5. การคัดเลือกเบื้องต้นเพื่อหาผู้มีสิทธิเสนอราคากรณีมีผู้มีสิทธิเสนอราคารายเดียว ปกติให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานยกเลิก แต่ถ้าคณะกรรมการประกวดราคาเห็นว่ามีเหตุผลที่จะด าเนินการต่อไป โดยไม่ต้องยกเลิกประกวดราคา ก็ให้คณะกรรมการต่อรองราคากับผู้มีสิทธิเสนอราคาเสนอหัวหน้าหน่วยงานพิจารณา และ 6. กรณีการจัดหาพัสดุในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท กรณีไม่มีผู้เข้าเสนอราคา หรือมีผู้มีสิทธิเสนอราคาเพียงรายเดียวเมื่อถึงเวลาเริ่มการเสนอราคา และคณะกรรมการประกวดราคาได้ด าเนินการต่อรองราคากับผู้มีสิทธิเสนอราคารายนั้นแล้วไม่ได้ผล ให้หน่วยงานด าเนินการจัดหาด้วยวิธีการอื่น
          "การผ่อนผันครั้งนี้เป็นการผ่อนปรนการปฏิบัติตามระเบียบเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง คล่องตัว แต่ยังยึดหลักความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ มี 3 เรื่องส าคัญ คือ 1. ให้อ านาจหัวหน้าหน่วยงานยกเว้นการประมูลระบบ E-AUCTION 2. ให้หัวหน้าหน่วยงานสามารถใช้ดุลยพินิจส าหรับโครงการที่มีมูลค่าต่ ากว่า 10 ล้านบาท ไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการร่างขอบเขตของงาน และสามารถแต่งตั้งกรรมการประกวดราคา โดยไม่ต้องส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลางอนุมัติ และ 3. ในกรณีที่มีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว ก็ให้เป็นอ านาจของหัวหน้าหน่วยงานด าเนินการต่อได้ จากเดิม ที่ต้องยกเลิกการประกวดราคา ส าหรับการผ่อนคลายกฎระเบียบครั้งนี้ใช้ได้ทั้งการจัดหาพัสดุที่ใช้เงินงบประมาณปี 2553 และเงินกู้ภายใต้โครงการแผนการปฏิบัติงานไทยเข้มแข็ง"
          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ข่าวการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง ว่า ได้เน้นย้ าตลอดและหากมีข้อสงสัยให้ด าเนินการอย่างรวดเร็ว อาทิเช่น กรณีกล่าวหาว่าทุจริตในกระทรวงสาธารณสุข ก็ตั้งกรรมการสอบแล้ว และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ลาออกเพื่อเปิดทางให้สอบเต็มที่ แต่คงไม่ตั้งกรรมการตรวจสอบในส่วนของพรรค เพราะไม่มีคนของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีการทุจริตจริง และมีหลักฐานชัดเจนก็ต้องด าเนินการทางกฎหมาย "ยืนยันว่า รัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการตรวจสอบทุจริตโครงการต่าง ๆ โดยรัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ส่วนจะท าอย่างไรไม่ให้เกิดเรื่องนั้น ผมเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องตอบให้ได้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร อาทิเช่น กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ประสานกลุ่มแพทย์ชนบท เพื่อให้ข้อมูลผมแล้ว ซึ่งขณะนี้ก าลังสอบสวนอยู่ แต่ที่ผ่านมา กระทรวงนี้ก็มีปัญหาลักษณะนี้อยู่เป็นระยะ ๆ ไม่เฉพาะยุคนี้ แต่ยุคนี้เมื่อมีข่าวเราก็ตรวจสอบจริงจัง"
          นายชลิต ด ารงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึง การกรณีมีนักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็งของกรมชลประทาน ว่า ก าหนดเงื่อนไขเอื้อต่อผู้ประกอบการรายใหญ่ ว่า เรื่องนี้จากการตรวจสอบพบนักวิชาการอิสระที่ร้องไม่ใช่ผู้รับเหมาและไม่ใช่ผู้พึงได้ หรือเสียประโยชน์ต่อการประกวดราคาครั้งนี้ ท าให้กรมไม่สามารถตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ แต่เมื่อมีข้อร้องเรียนก็ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส โดยทุกโครงการของกรม ขณะนี้ ประกวดราคาไปแล้ว 2 ส่วน คือ 1. โครงการที่ใช้งบเกิน 300 ล้านบาท มี 10 โครงการ ให้ประกวดราคาแบบเปิดกว้าง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมารายเล็กยื่นข้อเสนอด้วย และ 2. โครงการวงเงินไม่ถึง 300 ล้านบาท ใช้วิธีประกวดราคาแบบใช้ชั้น หรือเฉพาะผู้รับเหมาที่ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้น จะมีสิทธิยื่นข้อเสนอได้ "กรมประกวดราคาไปนานแล้ว ไม่พบมีผู้รับเหมารายใดร้องเรียน เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า เงื่อนไขประกวดราคา ไม่ล็อกสเปค และผมต้องถามกลับว่าผู้ที่เข้ามาร้องเรียนนี้ท าอาชีพอะไร และมาร้องเพื่อวัตถุประสงค์ใด" อย่างไรก็ตาม ข้อร้องเรียนดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรค ก่อการด าเนินโครงการครั้งนี้ และยังเดินหน้าต่อไป คาดว่าภายในเดือน ต.ค. นี้ จะได้รับผู้รับเหมาทุกโครงการ หลังจากนั้น จะเริ่มท าสัญญาและเบิกจ่ายเงินได้ทันที
                                              กรุงเทพธุรกิจ โพสต์ทูเดย์ แนวหน้า คม ชัด ลึก  วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
คำสำคัญ (Tags): #อีออคชั่น
หมายเลขบันทึก: 303912เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2009 15:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม 2012 18:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท