ธปท. หวั่นการลงทุนสะดุดปัญหางบปี 50


การลงทุน

       “ทักษิณ” เรียกถกรมต.เศรษฐกิจ เร่งเบิกจ่ายงบฯ ปี 49 เพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจในภาพรวม พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบปี 50 สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน-กระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมดันเข้า ครม. ช่วยออกมาตรการเร่งรัด ด้านแบงก์ชาติเตือนหากเบิกจ่ายงบฯ ปี 50 ไม่ทัน ต.ค.นี้ อาจกระทบงบฯ ลงทุนใหม่
       ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 พ.ค. 49  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี  ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เพื่อเข้าหารือและรับทราบสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพิจารณาเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 49 ที่มีความล่าช้า และการจัดสรรงบประมาณปี 50
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่เข้าประชุมประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์   นายทนง พิทยะ รักษาการรมว.คลัง   นายวราเทพ รัตนากร รักษาการรมช.คลัง   นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการรมต.ประจำสำนักนายกฯ   ผอ.สำนักงบประมาณ  และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็น
       นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้หารือถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 49 และการจัดสรรงบประมาณปี 50 โดยงบประมาณปี 49 ที่เป็นงบฯ ผูกพันยังคงมีอยู่ประมาณ 1-2 แสนล้านบาท มั่นใจว่าสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 49 ได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้     แม้ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง ทำให้ส่งผลกระทบถึงการการพิจารณางบประมาณปี 50 ให้เกิดความล่าช้า “ในที่ประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เร่งการเบิกจ่ายงบประมาณปี 49 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะถ้ารัฐบาลสร้างความชัดเจนและความเชื่อมั่นว่าจะดำเนินโครงการตามแผนงาน และงวดการเบิกจ่ายอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นสัญญาณที่ดีที่จะให้เอกชนเชื่อมั่นในการลงทุน เพราะเศรษฐกิจของไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ถ้ามีความแน่นอนทางการเมืองเกิดขึ้น ความมั่นใจก็จะกลับฟื้นคืนมา”
นายสุรนันทน์ กล่าวด้วยว่า นายสมคิดได้มอบหมายให้ตน และนายวราเทพเป็นผู้ดูแลการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการตามโครงการที่รัฐบาลได้อนุมัติไปแล้ว โดยในวันที่ 23 พ.ค.จะนำเรื่องการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 49 เข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะมีมาตรการออกมา ซึ่งจะเน้นประสิทธิภาพและทำให้การใช้จ่ายงบฯเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
       ด้าน นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผอ.สำนักงบประมาณ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวที่ว่างบประมาณอยู่ในสภาพติดขัดว่า เกิดจากความไม่เข้าใจและพูดกันไปเอง ขณะนี้หน่วยงานราชการทุกแห่งมีงบประมาณเพียงพอ ส่วนการจัดสรรงบประมาณปี 50 ที่มีความล่าช้านั้น เรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วง สามารถให้งบประมาณปี 49 เป็นงบผูกพันไปก่อนได้ โดยในเรื่องนี้มีกฎหมายรองรับไว้อยู่แล้ว       
       ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีการเบิกจ่ายงบประมาณปี 50 จะล่าช้า เนื่องจากยังไม่มีการเลือกตั้งว่า งบประมาณถือเป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง แต่หากในเดือน ต.ค.49 ยังไม่เบิกจ่ายงบประมาณปี 50 ได้ ผลที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจคงเกิดขึ้นหลังเดือน ต.ค.ไปแล้ว
โดยเฉพาะผลกระทบต่องบลงทุนใหม่ แต่งบประจำตามปกติและงบลงทุนผูกพันยังสามารถเบิกจ่ายได้  เมื่อถามว่า
       ธปท. จะมีมาตรการใด ๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่  ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี   ไม่มีจุดใดที่น่าวิตก โดยในวันที่ 23 พ.ค.จะรายงานต่อ ครม. เกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยให้ที่ประชุมได้รับทราบ ซึ่งจากการติดตามในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงพบว่าการลงทุนเอกชนเติบโตร้อยละ 8 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี   การส่งออกยังขยายตัวในเกณฑ์สูง การบริโภคภาคเอกชนเติบโตร้อยละ 4 โดยสาเหตุที่ทำให้ความเชื่อมั่นเอกชนลดลงมาจากปัญหาราคาน้ำมันที่มีความผันผวน

สยามรัฐ  23  พ.ค.  49

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 30332เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2006 12:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท