ในคู่มือ การให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (พิมพ์ครั้งที่ 1 กย.52) นำกรณีตัวอย่างของ ชมรมผู้สูงอายุอำเภอแจ้ห่ม ลำปาง มาแสดงไว้ให้ได้เรียนรู้ ผลการทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปาก ในชมรมผู้สูงอายุ ที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างเป็นรูปธรรมค่ะ
ชมรมผู้สูงอายุอำเภอแจ้ห่ม เป็นชมรมผู้สูงอายุเข้มแข็ง ที่มีการทำกิจกรรมต่างๆ สม่ำเสมอ ได้แก่ กิจกรรมการออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 3 วัน คือ จันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 16.00 น. กิจกรรมจิตอาสาทำดีเพื่อพ่อ ร่วมกับ รพ.แจ้ห่ม โดย ผู้สูงอายุทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และไปเยี่ยมผู้ป่วยที่นอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และกิจกรรมการทำสมุนไพร ยาหม่องน้ำ ยากันยุง จากสมุนไพร
และเมื่อแกนนำชมรมฯ ได้รับการถ่ายทอดความรู้เรื่องการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก โดยทีมบุคลากรสาธารณสุข ของโรงพยาบาลแจ้ห่มเมื่อปี 2549 โดยการอบรมแกนนำ และจัดกลุ่มให้ผู้สูงอายุช่วยกันคิดว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพช่องปากที่ดี และทำอย่างไรจะให้คนอื่นมีสุขภาพช่องปากที่ดีด้วย กิจกรรมที่ผู้สูงอายุคิดก็คือ
ชมรมผู้สูงอายุฯ จึงได้มีการจัดกิจกรรมการดูแลตัวเองด้วยการจัดบอร์ดให้ความรู้ที่วัดศรีหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของชมรมฯ สาธิตการแปรงฟันและฝึกปฏิบัติแปรงฟัน การจับคู่ตรวจฟัน การประกวดฟันสวย และตรวจฟันโดยทันตบุคลากร
ในปีต่อมา (2550) ผู้สูงอายุได้ร่วมกันคิดที่จะไปดูแลสุขภาพช่องปากให้กับคนอื่นๆ จึงได้จัดกิจกรรมเข้าไปเยี่ยมผู้สูงอายุในชุมชน มีการจัดอบรมความรู้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ในเรื่องการดูสุขภาพช่องปากในผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคทางระบบ และคิดค้นแบบตรวจสุขภาพช่องปากให้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งจะมีใบส่งต่อผู้สูงอายุที่ต้องการรักษาทางทันตกรรม มารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาล จนในปี 2551 ผู้สูงอายุได้คิดค้นสมุดนับฟัน เพื่อเป็นสมุดประจำตัวผู้สูงอายุด้านสุขภาพช่องปาก ซึ่งจะมีข้อมูลในเรื่องสุขภาพช่องปาก และความสะอาดของช่องปาก โดยมีผลการวัดคราบจุลินทรีย์ในผู้สูงอายุ และปัจจุบันผู้สูงอายุอำเภอแจ้ห่ม จะเป็นต้นแบบของการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปาก ที่ไปช่วยส่งเสริม สนับสนุนชมรมผู้สูงอายุข้างเคียง หรืออื่นๆ ในพื้นที่ได้เรียนรู้เรื่องการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก และทำกิจกรรมกันต่อๆ ไป
การทำกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุอำเภอแจ้ห่ม ดำเนินการภายใต้การขับเคลื่อนของแกนนำในชมรม ซึ่งมีคุณพ่อกมล เนตรรัศมี ประธานชมรมฯ เป็นผู้นำ ท่านมีทัศนคติว่า
"เราถือว่าชมรมผู้สูงอายุเป็นวัยที่เปลี่ยน มีสุขภาพถดถอย อวัยวะในช่องปากจะมีการเปลี่ยนไป เรายึดหลักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า "เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง" เป็นหลักในการดำเนินงาน ภายใต้การสนับสนุนของกรรมการ และแกนนำในชมรมผู้สูงอายุ ซึ่งบางท่านเป็นข้าราชการเกษียณ บางท่านเป็นผู้นำชุมชน ที่ช่วยกันคิดทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพไปด้วยกัน"
ตอนนี้ชมรมผู้สูงอายุอำเภอแจ้ห่มได้เปลี่ยนชื่อเป็น ชมรมสานรักผู้สูงวัยอำเภอแจ้ห่ม มีบทบาทในการดูแลชมรมผู้สูงอายุระดับตำบลของทั้งอำเภอ และชมรมฯ มีคติในการทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพเพื่อ "การดูแลตนเอง ภายในกลุ่ม"