ภาคสองครอบครัวสีขาว ตอน เยี่ยนเพื่อนที่ตรัง


“ครอบครัวคือตัวสำคัญในการดึงลูกออกมาจากสิ่งเลวร้ายเหล่านั้น” เป็นคำยืนยันของแม่ของกาบีสที่กำลังได้รับลูกคืนมาแม้ยังไม่เต็มร้อยก็ตาม

..เยี่ยมเพื่อนที่ตรัง 

 

เมื่อวันที่ ๑๑-๑๒ กรกฎาคม ๕๒ พวกเราได้จัดโครงการครอบครัวสีขาว วันนั้นเราได้พบเพื่อนมากมาย เพื่อนต่างวัยที่หลายคนหลงทางไปอีกทิศหนึ่งของชีวิต คือ เส้นทางของยาเสพติด ที่ทำให้พวกเขาไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมสักเท่าไร แต่พวกเรามูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย ภาคใต้ตอนล่าง อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขากลลับมาอยู่ในสังคมได้อีกครั้งอย่างเต็มภาคภูมิใจในความเป็นตัวเขา ในความเป็นคนหนึ่งคนที่พึ่งอยู่ในสังคมได้อย่างสง่าผ่าเผย เขาทั้งหลายรอการให้โอกาสของคนในสังคมที่มองเขาแค่ ผู้ป่วย หรือ คนติดยา เรียกให้หนักกว่านี้คือ ไอ้ขี้ยา เราอยากให้ท่านเข้าใจเพื่อนเรา

 

              

 

หลังจากวันนั้น ถึง วันนี้กว่าสองเดือนที่เราได้รู้จักเขา วันนี้เรายกทีมมาเยี่ยมเพื่อนเราที่จังหวัดตรัง ก่อนออกจากสงขลาเราวาดไว้ต่าง ๆ นานา ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร เขาจะกล้าเปิดตัวในที่สาธารณะชนหรือเปล่า เพราะว่าเรานัดประธานชุมชน แกนนำภาคประชาชนมาด้วย เพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้น เพราะเราเชื่อว่าหากเรื่องนี้เป็นที่ยอมรับและเข้าใจของผู้นำในชุมชน คนในชุมชน สำคัญสุดคนในครอบครัวเขาเปิดใจยอมรับ เพื่อนเราจะออกมายืนในที่สว่างได้อย่างที่เราคิดและอยากให้เป็น เขาจะ อายหรือไม่ เขาจะกลัวหรือเปล่า พ่อเพื่อนเราจะยอมรับไหม ต่าง ๆ นานา ที่คิดไป แต่ต้องหยุดลงตรงที่อะไรจะเกิดก็เกิดเราคิดว่ามาเยี่ยมเพื่อนแล้วกัน

 

       

 

รถทีมเลี้ยวเข้าไปในมัสยิดมาดีนะตุลอิสลาม ชุมชนบ้านหนองยวน พี่น้องที่เข้าร่วมกับโครงการครอบครัวสีขาวนั่งอยู่ และพี่น้องในชุมชนบ้านหนองยวนด้วยว่าวันนี้เป็นวันศุกร์พี่น้องมุสลิมเราที่เป็นผู้ชายต้องทำศาสนกิจร่วมกันในมัสยิด แม้เวลาล่วงเลยมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังคงมีพี่น้องคงนั่งพูดคุยกันอยู่ภายในมัสยิด

 

      

 

“สวัสดีค่ะพี่สาว” พวกเราทักทายกับพี่สุพัฒตรา แน้มน้อย แกนนำเทศบาลนครตรังที่เป็นคนประสานคนในพื้นที่ให้มาพูดคุยกัน “พอดีนัดไว้บ่ายสองรอนิดนะ” พี่สาวบอกหลังจากรถจอดสนิท “ไม่เป็นไรค่ะ นั่งคุยกันเล่น ๆ ก่อนก็ได้ค่ะ” พลางสายตาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนเราเดินเข้ามา “สวัสดีครับ” กาบีสยกมือไหว้ทีมงานทุกคน ถามสารทุกข์สุกดิบกันพอก้อมแกล้มก็มีแกนนำเข้ามาร่วมพูดคุยประมาณ ๑๕ คน

 

          

 

เชื่อไหมค่ะ ว่าสิ่งที่เราคิดก่อนหน้าที่จะออกจากสงขลาไม่เป็นไปอย่างที่คิดเลย เป็นการล้อมวงพูดคุยที่ได้ความรู้สึกของเพื่อนเราจริง ๆ ครอบครัว โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อของเพื่อนเรา เขาบอกว่าเขาเข้าใจและรู้สึกดีมากกับการลงมาเยี่ยมเยือนลูกเขาและครอบครัว อยากให้หน่วยงานที่จัดอบรม หรืออะไรก็แล้วแต่ลงมาทำอย่างนี้บ้าง ไม่ใช้จัดแล้วก็หายไป (เป็นปลื้มเลยเรายิ้มแก้มปริ) สิ่งที่คิดลืมหมดแล้ว เราพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจให้ทั้งแกนนำในชุมชน พ่อ แม่ ได้เกิดการยอมรับและกล้าที่จะเปิดใจอย่างที่ครอบครัวเพื่อนเราเป็น เพราะวันนั้นที่เห็นเพื่อนเรา กับวันนี้เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น หน้าตาแจ่มใส อ้วนท้วนขึ้น ถามกาบีส น้องอานนท์ และวิทย์ว่าเป็นอย่างไรบ้างน้อง ๆ ตอบว่ารู้สึกดีที่มาเยี่ยม อยากให้มาบ่อย ๆ กาบีสบอกว่า หยุดแล้วทุกอย่าง ข้าพเจ้าหันไปถามแม่ ก็ยืนยันว่าดีขึ้นไม่ค่อยได้กลิ่นสิ่งไม่ดีจากตัวลูกอีก สายตาของผู้เป็นแม่ขณะที่พูด ข้าพเจ้าสัมผัสได้ว่ามีความสุขมากกับสิ่งที่สื่อออกมา

 

        

 

อยากให้สังคม ครอบครัว และคนรอบข้างได้ให้โอกาสอย่าง ๓ ครอบครัวนี้ ที่กล้ายอมรับความจริง กล้าออกมายืนที่สว่างด้วยว่าต้องการให้ลูกตัวเองออกจากวงจรที่เลวร้าย และนี่ข้าพเจ้าถือว่านี่คือ ความรักที่แท้จริง ไม่ใช้มัวแต่อาย ไม่ยอมรับ สุดท้ายคนที่รับเคราะห์คือลูกตัวเองที่บอกว่ารักนักรักหนา แต่การกระทำกลับเป็นการทำร้ายลูก เพียงแค่ความอายและศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถแลกกันได้กับชีวิตของลูก ข้าพเจ้าขอยกย่องความกล้าของ ๓ ครอบครัวนี้ด้วยใจ และอีกหลายครอบครัวที่กล้า

 

“ครอบครัวคือตัวสำคัญในการดึงลูกออกมาจากสิ่งเลวร้ายเหล่านั้น” เป็นคำยืนยันของแม่ของกาบีสที่กำลังได้รับลูกคืนมาแม้ยังไม่เต็มร้อยก็ตาม แต่เชื่อเหลือเกินว่า อัลเล๊าะ(ซบ.)จะเปิดใจให้เขาและเราในที่สุด

 

หมายเลขบันทึก: 302753เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2009 18:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

วันนนี้ข้าพเจ้ารู้สึกดีมากกับเพื่อนของข้าพเจ้าที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งมีคนที่พร้อมจะเข้าใจเขามากขึ้น ขอให้กำลังใจทุกครอบครัวที่กล้ายอมรับความจริง

สวัสดีครับน้อง ดีมากเลย บันทึกได้เหมือน ได้นั่งร่วมวง ยิ่งวงมุสลิมด้วยแล้ว เราทุนทางศาสนาในการพูดคุย เหนือส่งอื่นได คือพระเจ้า คอยเหลือในกิจกรรมของเรา ทำให้ต่องเนื่องอย่างถาวรครับน้อง(หวางนี้ ยุ่งจังเสีย ตอเช้าสอบภาวะผู้นำน้องเหอ)

มันรู้สึกดีจริง ๆ ค่ะบังหีม อยากให้คนอื่นได้เข้าใจน้อง ๆ เขาให้มากขึ้น องค์กรที่น้องทำมันเล็กมากแต่ความต้องการมันใหญ่โต

แต่ก็ไม่ถอยค่ะ จะทำอย่างนี้ตลอดแม้มันจะเป็นเพียงแค่แสงหิ่งห้อยก็ตาม สักวัน ต้องมีสักวัน ที่ความต้องการเราจะเป็นจริง

เป็นกำลังใจให้สอบผ่าน good นะค่ะ

ชื่นชมครับ....เป็นนักเล่าเรื่องจากเหตุการณ์จริงที่ดีมากเลยครับ

.......ได้ความรู้เเละบรรยากาศ

  • ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะอาจารย์
  • ยังพร้อมจะปรับปรุงหากมีคำแนะนำและคำติ

ได้รับแล้วครับผม

เอก ส่วนกลาง

สวัสดีค่ะคุณน้อง ตรังเราก้ออย่างนี้แหละ เต็มที่กันทุกคน และเราจะเต็มที่กว่านี้อีก เข้าใจไช่ไม๊จ๊ะ

เข้าใจจ๊ะน้องชู

ยินดีค่ะหากมีงานอะไรก็บอกมาเลยจะลงไปช่วยและนำมาบอกเล่าอย่างนี้แหละ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท