หน้าแรก
สมาชิก
นู๋ผึ้ง
สมุด
ทักษะการวิเคราะห์...
สภาวะการขาดแคลนคร...
นู๋ผึ้ง
Pannee นู๋ผึ้ง Sukprasert
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
สภาวะการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สภาวะการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สภาวะการขาดแคลนครูใน
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
จากการศึกษาเรื่อง สภาวะการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สรุปได้ว่า การขาดแคลนครูเป็นสภาวะวิกฤตไม่เฉพาะอย่างยิ่งครูสาขาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ในโรงเรียน ปัญหาการขาดแคลนครูประกอบด้วยการขาดแคลนเชิงปริมาณและคุณภาพ
การขาดแคลนครูในเชิงปริมาณ มีอยู่อย่างน้อย 2 ลักษณะ คือ
1. การบรรจุครูใหม่ไม่เพียงพอกับความต้องการของนักเรียน
2. การขาดแคลนครูใหม่ที่จะมาทดแทนครูที่เกษียณอายุ ลาออกหรือโอนย้าย
สำหรับสาเหตุของปัญหานั้นเกิดจาก นโยบายการจัดกำลังคนของภาครัฐ และคืนอัตราทดแทนผู้เกษียณอายุตามโครงการเปลี่ยนเส้นทางชีวิต ทำให้ครูลาออกเป็นจำนวนมาก การปฏิรูปหลักสูตรส่งผลให้เกิดรายวิชาใหม่ๆ ทำให้คลาดแคลนครูผู้สอน รวมถึงสาเหตุเนื่องจากความไม่สัมพันธ์กันระหว่างการผลิตและการใช้ครูปัญหาวิกฤติศรัทธาวิชาชีพครู และภาพลักษณ์ของวิชาชีพครูที่มีค่าตอบแทนน้อย มีสวัสดิการไม่เพียงพอทำให้ครูขาดกำลังใจ
การขาดแคลนในเชิงคุณภาพ
1.ครูไม่ตรงตามวุฒิปฏิบัติการสอน เช่น เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ครูผู้สอนต้องจบสาขาดังกล่าวโดยเฉพาะ จึงจะมีคุณภาพจากการระบุของสำนักงานคณะกรรมการพื้นฐานการศึกษา ได้เปรียบเทียบคะเนนนักเรียนอยู่ที่ Percentile ที่ 50 โอกาสที่จะขยับไปที่ 85- 87 น่าจะเป็นไปได้ ซึ่งหากได้ครูที่ดี หากครูไม่ดีจากที่อยู่ในมาตรฐานที่ค่า 50 อาจจะตกลงไปที่ระดับ 30 – 20
2.คนเก่งไปประกอบวิชาชีพอื่น จากการศึกษาผลการประเมินของ ร.ศ.ดร.มนตรี แย้มกสิกร ประธานที่ประชุมคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ 16 สถาบัน และรองคณบดีครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ได้กล่าวถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตครูและการพัฒนาครูอย่างชัดเจนสาเหตุหนึ่งเกิดจากรัฐบาลขาดการเหลียวแลเพื่อพัฒนาบุคลากรครูเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลทุ่มไปพัฒนาบุคลากรในสาขาที่ขาดแคลนสาขาอื่นๆทำให้ขาดช่วงในการสนับสนุนจากรัฐบาลจึงส่งผลในการพัฒนาของคณะศึกษาศาสตร์ คุรุศาสตร์ หยุดนิ่งลง “ สถานการณ์ในขณะนี้คณะศึกษาศาสตร์ คุรุศาสตร์หลายแห่งกำลังจะตายเพราะไม่มีคนอยากเรียนและไม่มีการพัฒนาหลักสูตร” ซึ่งหากในระยะ 5 ปี จากนี้รัฐบาลยังไม่ใส่ใจ และหันกลับมาเอาใจใส่ในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังจะเกิดวิกฤติอย่างรุนแรง
3.ครูต้องปฏิบัติงานอื่น ที่นอกเหนือจากการสอนตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูทำให้ครูมีภาระที่ต้องแบ่งรับมากขึ้น การทุมเทการสอนจะน้อยลง ทำให้เกิดคุณภาพและประสิทธิภาพในการสอนลดลงด้วย
จากการกล่าวของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวไว้เช่นกันว่า สำหรับครูที่จะต้องปฏิบัติงานหลายด้านแทนการสอนนักเรียน เช่น การเป็นผู้บริหาร การพัฒนาตนเอง การทำเอกสารเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ รัฐบาลจึงมีนโยบายที่เป็นโครงการ “คืนครูให้นักเรียน” ให้ครูมีเวลาสอนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับนักเรียน แต่ถ้าครูไม่ทำงานด้านอื่นๆก็จะไม่เกิดความก้าวหน้า จึงต้องกำหนดน้ำหนักกันใหม่ เช่น 80: 20 แทน 50: 50 ต้องมีเกณฑ์ประเมินมาตรฐานที่ยอมรับโดยสำนักงานรับรองมาตรฐานที่ยอมรับโดยสำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา ( สมศ) และจะวัดเฉพาะครูแต่จะเป็นการวัดการประเมินทั้งระบบ
ภายหลังจากการศึกษาปัญหาเรื่องสภาวะการขาดแคลนครู รศ. ดร ขนิดา รักษ์พลเมือง และคณะได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาการขาดแคลนครูโดยสรุปดังนี้
1.โครงการคุรุทายาท จากการที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินโครงการคุรุทายาทมาตั้งนานมาตั้งแต่ปี 2530 เพื่อการแก้ปัญหาการขาดแคลนครูทั้งในระดับการศึกษา การศึกษาเฉพาะพื้นที่และเฉพาะสาขาวิชาโดยเลือกคนเก่ง คนดี เป็นครู
2.โครงการพิเศษเพื่อการบริหารจัดการปฏิรูปการฝึกหัดครู พัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา(สปค.)เช่น โครงการสำหรับครูประจำการ การผลิตครูใหม่ และโครงการสำหรับผู้ใช้ครู โดยจัดคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐบาลและเอกชน ใน 4 สาขาวิชาหลักคือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และอังกฤษ
3.นโยบายและมาตรการผลิตและพัฒนาครูไทยในสตวรรษที่ 21 โดยการสร้าง ความเชื่อมั่นในวิชาชีพครูประกันคุณภาพครู และมาตรการสร้างความยั่งยืนในการปฏิรูปวิชาชีพครู
4.แผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปครูและบุคลากรทางการศึกษา ครอบคลุมตั้งแต่การฟื้นฟูศรัทธาต่อวิชาชีพครูพัฒนาศักยภาพครู และมาตรการสร้างความยั่งยืนในปฏิรูปวิชาชีพครู
5.การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูของ สพฐ. โดยการเรียกบรรจุครูจากบัญชีการสอนที่มีอยู่ บรรจุครูอัตราจ้างที่ทำงานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปและบรรจุครูที่มีคุณวุฒิอื่นและให้เรียนวิชาทางการศึกษาเพิ่มเติม
จากการกล่าวของ รศ.ดร.มนตรี แย้มกสิกรได้แสดงการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้ว่า จะต้องเน้นการพัฒนาครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) หรือจะพัฒนาทั้งระบบก็จะเป็นเรื่องดี โดยหลักสำคัญจะต้องเปลี่ยนแปลงการผลิต ครูให้มีความรู้ในเนื้อหาสาระที่เข้มข้นทางวิทยาการที่จะสอนนักเรียน ขณะเดียวกันต้องมีเทคนิคการเรียนการสอนที่ดี และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย อย่างไรก็ตาม การพัฒนาก็ต้องควบคู่ไปกับการพิจารณา เพิ่มผลตอบแทนให้กับวิชาชีพครูด้วย และต้องย้อนกลับไปถามสังคมว่าพร้อมจะยกวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูงเช่นเดียวกับวิชาแพทย์หรือผู้พิพากษาด้วยหรือไม่ รศ.ดร. มนตรี แย้มกสิกร ได้กล่าวต่อว่า สำหรับทางแก้ไขปัญหาทางหนึ่งคือการให้ทุนการศึกษาแก่ผู้ที่จะมาเรียนรู้ พร้อมจัดหาอัตราการทำงานรับรองเพราะเมื่อปี 2547 ได้มีโครงการผลิตครูโดยใช้แนวทางดังกล่าวทำให้ได้ผู้ที่มีความรู้และความสามารถมาเป็นครูและส่งผลให้วิชาชีพครูดีขึ้นแต่ไม่ได้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
สภาวะการขาดแคลนครูเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลต้องดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพราะครูคือผู้นำนโยบายการปฏิรูปการศึกษาไปสู่การปฏิบัติ และยกระดับคุณภาพเยาวชนสู่การเป็นทรัพยากรมนุษย์อย่างจริงจัง
จากการศึกษาข้อมูลการวิจัย เรื่องสภาวะการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยรศ.ดร. ชนิดา รักษ์พลเมือง ภาควิชานโยบายการจัดการเป็นผู้นำทางการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ จุฬาฯ พร้อมด้วย รศ.ดร. จรูญศรี มาดิลกโกวิท , ศ.ดร. อุบลวรรณ หงส์วิทยากร และนายชิตชยางค์ ยมาภัย ได้ศึกษาวิจัยเพื่อสังเคราะห์สภาพปัญหาการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูทั่วประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมสอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปการศึกษา
จากการศึกษาปัญหาภาวการณ์ขาดแคลนครู สรุปได้ว่าภาวการณ์ขาดแคลนครูแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ การขาดแคลนเชิงปริมาณ ได้แก่ การบรรจุครูไม่เพียงพอกับความต้องการ และ การขาดแคลนครูที่จะมาทดแทนครูที่เกษียณอายุ ลาออกหรือโยกย้าย ซึ่งเป็นสาเหตุเกิดจากนโยบายการกำจัดกลังคนของรัฐบาลและการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปหลักสูตร และการขาดแคลนเชิงคุณภาพได้แก่ ครูไม่ตรงวุฒิปฏิบัติการสอน คนเก่งไปประกอบวิชาชีพอื่น และภาระงานของครุที่มากเกินไป จนทำให้คุณภาพการเรียนการสอนแย่ลง
การศึกษาปัญหาดังกล่าว สามารถสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาตามแนวทางโครงการ และนโยบายมาตรการแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปพัฒนาศักยภาพครู เน้นแนวทางการแก้ไขหลักสำคัญในการผลิตครูให้มีความรู้ความสามารถ การเพิ่มแรงจูใจและยกวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงให้ความสำคัญทัดเทียมกับสาขาวิชาอื่นๆ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาและเร่งพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อให้การศึกษาเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
อ้างอิง
เรืองรัตน์ วงศ์ปราโมทย์. (2548). สภาวะการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : ชุดรายงาน
การวิจัย. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.
สุทธศรี วงษ์สมาน. (2551). สภาวะการขาดแคลน ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาและข้อเสนอ
แนวทางแก้ไข. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา. (2548). สภาวะการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของ
ประเทศไทย. กรุงเทพฯ : พริกหวานกราฟิก.
กลุ่มจุดตะเกียง. (2552). ปัญหาการขาดแคลนครู. วันที่สืบค้นข้อมูล 11กันยายน 2552, เข้าถึงได้จาก
http://onknow.blogspot.com/2009/08/5_25.html
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าครูเป็นสาขาอาชีพที่ขาดแคลน และยังเป็นที่ต้องการอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน(ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา) นอกจากนี้ในบ้านเรายังประสบปัญหา เรื่องการกระจายตัว
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นู๋ผึ้ง
ใน
ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล
คำสำคัญ (Tags):
#สภาวะการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
หมายเลขบันทึก: 302230
เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2009 21:32 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:48 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นู๋ผึ้ง
สมุด
ทักษะการวิเคราะห์...
สภาวะการขาดแคลนคร...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท