“อยากมีศีลให้ฆ่าพ่อตีแม่...อยากมีคนมาแวะให้ฆ่าหมู่เดียวกัน..อยากขึ้นสวรรค์ให้ไปแก้ผ้าในวัด”


“อยากกินข้าวให้ปลูกใส่พะลานหิน อยากมีศีลให้ฆ่าพ่อตีแม่ อยากมีคนมาแวะให้ฆ่าหมูเดียวกัน อยากขึ้นสวรรค์ให้ไปแก้ผ้าในวัด”

                หัวข้อที่ยกมานี้..อ่านดูแล้วอาจรู้สึกแปลก ๆ หน่อย..เพราะเป็นปริศนาธรรมข้อหนึ่งของคนอิสานที่ใช้สอนลูกหลานกันในเรื่องของธรรมะ  คนอิสานบางท่านอาจจะเคยได้ยินและเข้าใจความหมายได้  แต่โยมบางคนอาจยังไม่เคยได้ยินและยังไม่เข้าใจ  ดังนั้น วันนี้อาตมภาพ..จึงอยากจะนำเสนอและอธิบายให้ญาติโยมได้เข้าใจในปริศนาธรรมข้อนี้  ว่ามีความหมายอย่างไร..?

                “อยากกินข้าวให้ปลูกใส่พะลานหิน อยากมีศีลให้ฆ่าพ่อตีแม่ อยากมีคนมาแวะให้ฆ่าหมูเดียวกัน อยากขึ้นสวรรค์ให้ไปแก้ผ้าในวัด” ปริศนาธรรมข้อนี้เป็นผญาที่คนโบราณชาวอิสานได้ประพันธ์สรรค์สร้างไว้เพื่อใช้ในการบอกสอนคนให้รู้จักธรรมและนำไปประพฤติปฏิบัติกัน  ซึ่งเป็นปริศนาที่ฟังดูแปลก ๆ หน่อย  ทั้งนี้เพื่อให้คนได้จดจำได้ง่าย  และนำไปใช้ได้ดี

                อยากกินข้าวให้ปลูกใส่พะลานหิน  หมายถึง  ถ้าอยากได้บุญให้หมั่นทำบุญในบวรพระพุทธศาสนา การปลุกข้าวบนลานหิน ก็คือ การทำบุญตักบาตร ข้าวก็เป็นเหมือนบุญ หินก็เป็นเหมือนบาตรหรือนาบุญ  การที่โยมปลูกข้าวคือบุญลงในนาบุญคือบาตรของพระ  ก็เป็นการบำเพ็ญบุญเอาไว้เป็นเสบียงเพื่อจะได้กินข้าวคือบุญนั้นทั้งในชาตินี้และในชาติหน้า 

                อยากมีศีลให้ฆ่าพ่อตีแม่  หมายถึง  ถ้าอยากเป็นคนมีศีลมีธรรม ก็ให้กำจัดตัดกิเลสอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ และโมหะ อันเป็นดุจพ่อแม่ที่ครอบครองจิตใจเรามาตั้งแต่กำเนิด  ถ้าโยมฆ่ามันออกไปจากจิตจากใจโยมได้แล้ว  ไม่เป็นผู้ข้องเกี่ยวด้วยโลภ โกรธ หลง  ไม่เป็นผู้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสที่ถือว่าเป็นพ่อแม่เหล่านั้นแล้ว โยมก็จะเป็นผู้มีศีลมีธรรม นั่นเอง

                อยากมีคนมาแวะให้ฆ่าหมูเดียวกัน  หมายถึง  ถ้าอยากมีเพื่อนฝูง อยากมีคนรักมักคุ้น  นอกจากจะเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว  โยมจะต้องฆ่าหมู่เดียวกัน ซึ่งก็คือฆ่ามัจฉริยะ ความตระหนี่ถี่เหนียวต่าง ๆ  ต้องเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อเพื่อนฝูง  การที่โยมฆ่าหรือกำจัดความตระหนี่ไปได้  แล้วเป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ  แก่คนอื่น  โยมก็ย่อมจะมีคนมาแวะมาหาอยู่ประจำ  เพราะผู้ให้ย่อมเป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย  

                อยากขึ้นสวรรค์ให้ไปแก้ผ้าในวัด  หมายถึง  ถ้าอยากจะขึ้นสวรรค์ก็ให้โยมหมั่นเข้าวัดฟังธรรมบ่อย ๆ  การไปแก้ผ้าในที่นี้  มิได้หมายถึงไปแก้ผ้าของโยมนะ  แต่เป็นการไปแก้ผ้าซิ่นที่ห่อหุ้มพระคัมภีร์ใบลานไว้ออก  เพื่อนิมนต์ให้พระท่านได้เทศน์สอนธรรมะในคัมภีร์ใบลานนั้นให้ฟัง  แล้วโยมก็นำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง  อานิสงส์ผลบุญจากการฟังธรรมและปฏิบัติธรรมนั้นก็จะพาโยมให้ขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าได้  สวรรค์ที่เห็นในชาตินี้ก็คือ ความสุขกายสบายใจ  ส่วนสวรรค์ในชาติหน้าก็มีชั้นจาตุมมหาราชเป็นต้น  โยมอยากขึ้นสวรรค์ก็ไปการแก้ผ้าที่ห่อพระธรรมได้  แต่อย่าเข้าใจผิดไปแก้ผ้าอย่างอื่นนะโยม..เดียวจะตกนรกเอา 

                สรุปก็คือ..ปริศนาธรรมข้อนี้สอนให้โยมทั้งหลายได้รู้จักบำเพ็ญบุญกุศล กำจัดหรือฆ่าอกุศลคือความโลภ โกรธ หลง ฆ่าความตระหนี่ และให้หมั่นฟังธรรมและปฏิบัติธรรมบ่อย ๆ  เพื่อจะได้เป็นบุญเป็นกุศล  นำพาญาติโยมทั้งหลายได้เข้าสู่สวรรค์  หรือความสุขความเจริญทั้งในชาตินี้และในชาติหน้า  ตลอดถึงได้บรรลุอมฤตธรรมคือพระนิพพานก็เป็นได้  ขอเจริญพร..

หมายเลขบันทึก: 301958เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2009 22:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

นมัสการพระอาจารย์ครับ

เป็นคำสอนที่ลึกซึ้งมากนะครับ

ผมคิดว่าศาสนาพุทธที่อิงแอบกับวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น ล้ำลึกมาก

แต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อนสนใจ

ขอบพระคุณครับ

นมัสการ มหาน้อย

มักหลายผญาบทนี้

“อยากกินข้าวให้ปลูกใส่พะลานหิน อยากมีศีลให้ฆ่าพ่อตีแม่ อยากมีคนมาแวะให้ฆ่าหมูเดียวกัน อยากขึ้นสวรรค์ให้ไปแก้ผ้าในวัด”

ขออนุญาตินำไปสะสมใน คำคม คารมปราชญ์ นะครับ

ผมได้อ่านแล้วรู้สึกภูมิใจและมีบุญเป็นอย่างยิ้ง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท