บุรุษไปรษณีย์ ผู้สื่อข่าว และผู้จัดกระบวนการเรียนรู้


อาจารย์ในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตไม่ใช่ บุรุษไปรษยณีย์
เพราะบุรุษไปรษณีย์มีหน้าที่เพียงนำจดหมาย สิ่งพิมพ์ สื่อ หรือพัสดุต่างๆ
ไปส่งให้ผู้รับแต่ละคนโดยไม่สนใจว่าเนื้อหาในจดหมายนั้นเป็นอย่างไร

อาจารย์ในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตไม่ใช่ ผู้สื่อข่าว
เพราะผู้สื่อข่าวรายงานข่าวในฐานะผู้สังเกตการณ์(บุคคลที่สาม)
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ตนรายงาน

อาจารย์ในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตเป็น ผู้จัดกระบวนการเรียนรู้
ที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยเขาเป็น "ผู้รู้ผู้เล่น"
เป็นผู้มี "ประสบการณ์ตรง" ในเรื่องนั้นมาก่อน
ไม่ใช่แค่ได้อ่านมาหรือฟังมา (แล้วมาสอนให้คนอื่นท่องจำต่อ)
แต่ได้ "ทำ" มาแล้วด้วยตนเอง ทดลองมาแล้ว พิสูจน์มาแล้วด้วยตนเอง
สิ่งที่เขาจัดกระบวนการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนการเรียนรู้กับตัวอาจารย์จึงเป็นอันหนึ่งกันเดียวกัน
ไม่แยกส่วนกันระหว่าง "ผู้ศึกษา" กับ "สิ่งที่ศึกษา"  
ไม่สอนอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง เช่น
ตนดำเนินชีวิตแบบไม่พอเพียง ไปสอนไปเทศน์ให้คนอื่นพอเพียง
ไม่ดูแลเอาใจใส่สุขภาพตนเอง (การกิน การนอน การออกกำลัง)
แต่ไปสอน(เทศน์)ให้คนอื่นทำ ฯลฯ

ด้วยเหตุนี้ อาจารย์มหาวิทยาลัยชีวิตจึงมิใช่บุรุษไปรษณีย์หรือผู้สื่อข่าว
แต่เป็นผู้จัดกระบวนการเรียนรู้ หรือ อาจารย์กระบวนการ (ครูกระบวนการ)

การเป็น "ผู้รู้ผู้เล่น" ในสิ่งที่สอนนั้นสามารถสร้าง แรงบันดาลใจ ให้ผู้เรียนด้วย

ดังที่ท่านปัญญานันทะภิกขุเคยกล่าวว่า "ตัวอย่างนั่นแหละคือคำสอนที่ดีที่สุด".
และอัลเบิร์ต ชไวเนอร์ (แพทย์ผู้อุทิศตน เจ้าของรางวัลโนเบิล) กล่าวว่า
"ตัวอย่างเท่านั้นคือที่มาของแรงบันดาลใจ".

 

หมายเลขบันทึก: 301558เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2009 18:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 12:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

good morning! คะ พี่เชษฐ

สบายดีนะคะ

ขอบพระคุณที่เขียนถ่ายทอดเรื่องราวให้อ่านอีกแล้ว

จบได้ซึ้งมากคะ

***********

ขอบวกพ่วงท้าย เพิ่มว่า ความรัก ความเมตตา ที่ครูมี "สามารถบันดาลใจเราเข้าเสียแล้ว"

-----------------------------------------------------------------------------------------

นึกไปถึงว่า ทำไมตัวเอง ก็ยังแวะเวียนไปไหว้ โทรไปคุย ปรึกษา ท่านครูสม่ำเสมอ เพราะคิดถึง และเคารพ รัก ท่านครู

เพราะท่านครูมีความหมายมากกว่าอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการ

เพราะท่าน"บันดาลใจ" ศิษย์ เข้าเสียแล้ว

ความหมายระหว่างกัน จึงอยู่ที่ "ระดับจิตใจ"

ความรุ้วิชาการ(โลก)+การเดินทางทั้งชีวิตลองผิดถูกด้วยตนเอง (ธรรม) ได้บ่มเพราะประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับพร้อมถ่ายทอด

ความรู้ +เมื่อเจอ โอกาสที่ท่านได้ +เมื่อมาเจอ เมตตา(รัก) ที่ท่านมีเต็มเปี่ยม .......ช่วยให้เกิดพลังศักดิ์สิทธิ์ และ ช่วยบันดาลใจคน

นี้เองแหละที่ บางทีศิษย์ เรียนมากกว่า จบการศึกษาหลากหลายกว่าครู ตำแหน่งหน้าทีหลายหลายกว่า แต่ก็ยังคาราวะคุณครู

นี้ออกมาจากความจริงใจจากศิษฐ์ ถึง ครู

หน้าตาblock เปลี่ยน ดูแอบแบ๋ว จังเลยคะ

ชอบแบบเก่ามากกว่า

 

นำสื่อมาฝากครับ
สื่อเหล่านี้นอกจากจะทำให้รู้ว่าใครทำอะไรแล้ว ยังมีมิติของบุญกุศล และองค์ความรู้หรือวิธีการ กระบวนการที่ทำด้วย
แต่ก็นั่นละครับ ในยุคโมหะภูมิเช่นนี้
สื่อดีๆพวกนี้ไม่มีโอกาสออกช่วง prime time พอที่จะให้คุณครูกับเด็กๆได้ชมหรอก
เป็นเสียงที่ไม่ได้ยิน.....และเป็นแสงที่มองไม่เห็น
น้อยคนที่จะมีบุญได้ชม..
.
สื่อชั่วๆออกฟรี สื่อดีๆ เสียสตางค์..... แถมยังวางอยู่หน้า1
คนในชาติเสพอยู่กับสื่อประโลมโลก มีพวกตลกหยาบคายเป็นผู้ผลิต
กับพวกขายเนื้อหนัง บริโภคนิยม สื่อแดงเหลืองกระตุ้นโทสะ โมหะ โลภะ
สังคมไทย จึงดุจดั่งจมอยู่ในบ่ออุจจาระเน่าเหม็น.. ยากจะสัมผัสกับอะไรสะอาดๆ
ช่างน่าสะอิดสะเอียน เวทนาเป็นอย่างยิ่ง 
น่าสงสาร...ประเทศไทย สังคมไทยเสียจริงๆ...
เรามาช่วยกันปฎิวัติวงการสื่อบ้านเรากันเถอะครับ


 

ขอบคุณ Peung - หน้าตาบล็อกเปลี่ยนโดยทีม admin ของ gotoknow เขา update โปรแกรม พี่ไม่เคยไปตกแต่ง ยังไม่ได้เรียนรู้ว่าจะทำยังไง

ขอบคุณ   P  Man In Flame
ที่แนะนำสื่อดีๆ

ขอส่งเทียบเชิญ ถึงท่านสุรเชษฐ 

ผู้นำเหตุสู่ทิศ มหาลัยแห่งชีวา

ผู้น้อมนำคุณ"มหาชนก"ในคุณค่า 

สู่ขอบฟ้าการศึกษาไทย

 

ขอเชิญร่วมชมนิทรรศการ โครงงานคุณธรรม 

ในงาน"พลังเยาวชน พลังสังคม" ครั้งที่ 1 
"ร่วมสร้างประเทศไทย...ด้วยการให้"

และร่วมเวทีเสวนา


วันเสาร์ที่ 10 ต.ค. : ถอดองค์ความรู้โครงงาน สร้างเป็นบทภาพยนต์โทรทัศน์ 
เวลา10.00-16.30น. ณ หอประชุมชั้น5 หอศิลป์ฯ กทมฯ

วันอาทิตย์ที่ 11ต.ค. : ถอดรหัส ๙ วิธีฟื้นฟูชาติ 
เวลา13.00-18.00น. ณ หอประชุมชั้น5 หอศิลป์ฯ กทมฯ



ผมก็ถือโอกาสใช้เวทีเสวนาที่สยามกัมมาจลเป็นเจ้าภาพงาน จัดระดมความคิด หัวข้อ ถอดรหัส ๙ วิธีฟื้นฟูชาติ ขึ้น

ยังไงก็เรียนเชิญ กัลยาณมิตร ผู้รักแผ่นดินทุกท่าน ร่วม work shop ระดมความคิดในเวทีเสวนาได้นะครับ

 

 

ขอบคุณครับสำหรับเทียบเชิญจากคุณ P Man In Flame เมื่อ พฤ. 01 ต.ค. 2552 @ 23:34 คลิกลิงก์จากภาพโปสเตอร์เข้าไปอ่านและฟังรายละเอียดแล้ว ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของคณะผู้จัดงานนี้ อยากไปร่วมครับ แต่ยังติดภารกิจอยู่ที่อเมริกา ไปจัด workshop สาธิตวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบมหาวิทยาลัยชีวิตของไทยให้บรรดาอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในอเมริกาที่รับผิดชอบด้านการศึกษาผู้ใหญ่ในหัวข้อที่เขาตั้งให้ผมเป็น "อาจารย์กระบวนการ" คือ Mindfulness Learning ผลเป็นอย่างไร จะนำมาเล่าในบล็อกนี้หลังจากกลับมาแล้วครับ

ธัมมะสวัสดีครับคุณอา

  • เห็นประโยชน์ที่มีหน่วยงานด้านเยาวชนกว่า 70 หน่วยงานมาร่วมกันจัดงานโดยมีสยามกัมมาจลเป็นเจ้าภาพ จึงเสนอจัดเวทีเสวนาแบบวงเล็กๆ มีจำนวนผู้เข้าร่วมประมาณ60-70ท่าน สำหรับผู้ที่สนใจด้านการศึกษาโดยเฉพาะครับ
  • ไม่ทราบว่าทางคุณอามีคณะทำงานหรือลูกศิษย์ที่พอจะอธิบายแนวคิดและระบบการจัดการศึกษาของมหาลัยชีวิต ให้คณะครูนักเรียน และNGO ที่ทำงานด้านการศึกษาที่เข้าร่วมงานเสวนาฟัง และร่วมกันระดมความคิดด้านการศึกษาไหมครับ
  • หากมีผมขอเรียนเชิญมาร่วมเสวนาในฐานะวิทยากร  และขอหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อทางอีเมล์ [email protected] กระผมจักได้ส่งเอกสารรายละเอียดที่เกี่ยวข้องนะครับ
ขอบพระคุณคุณอาเป็นอย่างยิ่งครับ

ขอบคุณ คุณ P Man In Flame ที่เชิญครับ

โครงการมหาวิทยาลัยชีวิตจัดการศึกษาเพื่อชีวิต "ผู้ใหญ่" ในท้องถิ่นต่างๆ ที่มีการมีงานแล้วเป็นหลัก ไม่แน่ใจว่าจะเข้ากับงานด้าน "เยาวชน" ครั้งนี้หรือเปล่า

ผมไม่ได้อยู่เมืองไทยในช่วงนี้ หากเชื่อว่าตรงกับงานที่จัดและจะเป็นประโยชน์จริงๆ โปรดติดต่อไปที่มูลนิธิสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน โทร.02-2800180 ต่อ 3316 ขอพูดกับคุณสมพงศ์ หรืออีเมล์ [email protected] 

ขอบพระคุณคุณอาสุรเชษฐ 

เราพบการศึกษาในระดับมหาลัย ว่ามีแต่ทางตัน

เรามักจะล้อเลียน พวกธุรกิจการศึกษา โดยเฉพาะมหาลัยว่า เป็นสถาบันเปลี่ยนนิสัย

คุณครูพ่อแม่เลี้ยงลูกเขามาดีๆ ยอมเสียกันสี่ห้าแสน 

แต่พอเข้ามหาลัย สู่กรงขังแห่งอิสระ วงจรอุบาทท์ก็เริ่มขึ้น  

ปี1 โดนรับน้อง เริ่มกินเหล้า 

ปี2 เริ่มย้ายกันออกไปอยู่เป็นคู่ๆ

 

อาจารย์หมอท่านหนึ่งท่านพูดให้ฟังว่า ไปรับบริจาคเลือด ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าต้องทิ้งไป เสีย 60% เพราะมีเชื้อ ซิฟิลิสและHIV 

โอ้โฮ...นี่ขนาดคนที่กล้าบริจาคเลือดนะ แล้วตัวเลขจริงละจะเป็นเช่นไร?

สุดท้ายแล้ว งบประมาณรายหัว เทคโนโลยีทันสมัยที่ภาครัฐทุ่มไป มันจะสูญเปล่าแม้จะสอบผ่านด้านวิชาการ แต่สอบตกด้านคุณธรรม... เป็นเอดส์ตายไปกว่าครึ่ง  

ที่เหลือจบออกไปได้ ก็จะมีแต่ความรู้ในหัวสมองแต่ไร้หัวใจ

อนาคตของชาติเป็นเช่นนี้ละ..

สิ่งที่คุณอาทำอยู่ แม้ว่าจะไม่ใช่กระแสหลัก...ทั้งๆที่ควรจะเป็น

แต่คือสิ่งที่มาในทิศที่ถูกต้อง มีเข็มทิศหลักที่ชัดแล้ว

และตรงกับสิ่งที่ผมอยากจะทำ... คือเป็นการศึกษาทางเลือก ทำกันเล็กๆเท่ารากหญ้าำจะพอมีกำลัง และหวังว่า..คงพอจะมีกำลังที่จะฝ่าวิกฤติไปได้  

 

ขอบคุณคุณอามากๆครับ จักรีบประสานกับทางคุณสมพงศ์ต่อไป

 

ขอบพระคุณคุณอาสุรเชษฐ 

เราพบการศึกษาในระดับมหาลัย ว่ามีแต่ทางตัน

เรามักจะล้อเลียน พวกธุรกิจการศึกษา โดยเฉพาะมหาลัยว่า เป็นสถาบันเปลี่ยนนิสัย

คุณครูพ่อแม่เลี้ยงลูกเขามาดีๆ ยอมเสียกันสี่ห้าแสน 

แต่พอเข้ามหาลัย สู่กรงขังแห่งอิสระ วงจรอุบาทท์ก็เริ่มขึ้น  

ปี1 โดนรับน้อง เริ่มกินเหล้า 

ปี2 เริ่มย้ายกันออกไปอยู่เป็นคู่ๆ

 

อาจารย์หมอท่านหนึ่งท่านพูดให้ฟังว่า ไปรับบริจาคเลือด ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าต้องทิ้งไป เสีย 60% เพราะมีเชื้อ ซิฟิลิสและHIV 

โอ้โฮ...นี่ขนาดคนที่กล้าบริจาคเลือดนะ แล้วตัวเลขจริงละจะเป็นเช่นไร?

สุดท้ายแล้ว งบประมาณรายหัว เทคโนโลยีทันสมัยที่ภาครัฐทุ่มไป มันจะสูญเปล่าแม้จะสอบผ่านด้านวิชาการ แต่สอบตกด้านคุณธรรม... เป็นเอดส์ตายไปกว่าครึ่ง  

ที่เหลือจบออกไปได้ ก็จะมีแต่ความรู้ในหัวสมองแต่ไร้หัวใจ

อนาคตของชาติเป็นเช่นนี้ละ..

สิ่งที่คุณอาทำอยู่ แม้ว่าจะไม่ใช่กระแสหลัก...ทั้งๆที่ควรจะเป็น

แต่คือสิ่งที่มาในทิศที่ถูกต้อง มีเข็มทิศหลักที่ชัดแล้ว

และตรงกับสิ่งที่ผมอยากจะทำ... คือเป็นการศึกษาทางเลือก ทำกันเล็กๆเท่ารากหญ้าำจะพอมีกำลัง และหวังว่า..คงพอจะมีกำลังที่จะฝ่าวิกฤติไปได้  

 

ขอบคุณคุณอามากๆครับ จักรีบประสานกับทางคุณสมพงศ์ต่อไป

 

ขอบพระคุณคุณอาสุรเชษฐ 

เราพบการศึกษาในระดับมหาลัย ว่ามีแต่ทางตัน

เรามักจะล้อเลียน พวกธุรกิจการศึกษา โดยเฉพาะมหาลัยว่า เป็นสถาบันเปลี่ยนนิสัย

คุณครูพ่อแม่เลี้ยงลูกเขามาดีๆ ยอมเสียกันสี่ห้าแสน 

แต่พอเข้ามหาลัย สู่กรงขังแห่งอิสระ วงจรอุบาทท์ก็เริ่มขึ้น  

ปี1 โดนรับน้อง เริ่มกินเหล้า 

ปี2 เริ่มย้ายกันออกไปอยู่เป็นคู่ๆ

 

อาจารย์หมอท่านหนึ่งท่านพูดให้ฟังว่า ไปรับบริจาคเลือด ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าต้องทิ้งไป เสีย 60% เพราะมีเชื้อ ซิฟิลิสและHIV 

โอ้โฮ...นี่ขนาดคนที่กล้าบริจาคเลือดนะ แล้วตัวเลขจริงละจะเป็นเช่นไร?

สุดท้ายแล้ว งบประมาณรายหัว เทคโนโลยีทันสมัยที่ภาครัฐทุ่มไป มันจะสูญเปล่าแม้จะสอบผ่านด้านวิชาการ แต่สอบตกด้านคุณธรรม... เป็นเอดส์ตายไปกว่าครึ่ง  

ที่เหลือจบออกไปได้ ก็จะมีแต่ความรู้ในหัวสมองแต่ไร้หัวใจ

อนาคตของชาติเป็นเช่นนี้ละ..

สิ่งที่คุณอาทำอยู่ แม้ว่าจะไม่ใช่กระแสหลัก...ทั้งๆที่ควรจะเป็น

แต่คือสิ่งที่มาในทิศที่ถูกต้อง มีเข็มทิศหลักที่ชัดแล้ว

และตรงกับสิ่งที่ผมอยากจะทำ... คือเป็นการศึกษาทางเลือก ทำกันเล็กๆเท่ารากหญ้าำจะพอมีกำลัง และหวังว่า..คงพอจะมีกำลังที่จะฝ่าวิกฤติไปได้  

 

ขอบคุณคุณอามากๆครับ จักรีบประสานกับทางคุณสมพงศ์ต่อไป

 

ทำให้สะท้อนมองกลับมาดูตนเองใช่เลย    มาแม่สะเรียงอีกครั้งครับอาจารย์

ครับดาบ จะไปอีกแน่นอน คราวนี้ไปแล้วจะไปค้างด้วยครับ

สุรเชษฐ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท