เมื่อวาน เจ้าตัวโตคุยเล่าเรื่องเพื่อนๆว่า มีเพื่อนที่ไปเรียนต่างประเทศด้วยทุน AFS กันมาคนละปี หลายคน มีบางคนถึงกับพูดไทยไม่ค่อยชัด ส่วนตัวเขานั้นมีคนทักว่าไปอยู่ออสเตรเลียมาตั้ง 6 ปีทำไมพูดไทยชัดอยู่เลย ดูเขาเล่าแบบภูมิใจแล้วต้องรีบเสริมด้วยความชื่นชม
คุยกันแล้วทำให้ตัวเองเก็บมาคิดว่า เราทำได้เช่นนี้เพราะเรารักความเป็นคนไทยของเรามากตลอดเวลาและเราคงสื่อสิ่งนี้ให้ลูกๆรับรู้เสมอ เรารักษาความเป็นไทยและพยายามสอนลูกให้รับรู้ว่าคนไทย มารยาทไทยเป็นอย่างไร ระยะแรกๆที่เราอยู่ไม่ได้พบคนไทยมากนัก เด็กๆก็จะได้พูดไทยกับเราพ่อแม่เท่านั้น แต่เราก็จะย้ำกับเจ้าตัวโตทั้งคู่เสมอว่า เราจะกลับบ้านและเราจะต้องใช้ภาษาไทยแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจะต้องยังคงรักษาสิ่งที่เขามีมาแล้วคือการอ่านและเขียนไทยให้ได้ หากจะต้องมีการเขียนโน้ตถึงกันเราก็จะเขียนเป็นภาษาไทย ยกเว้นแต่สำหรับน้องฟุงที่ต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วย
เคยได้รับคำชมจากน้องคนไทยเมื่อสมัยที่อยู่ปีแรกๆ เมื่อเขาเห็นเจ้าตัวโตค่อยๆค้อมตัวคลานเข่าตอนที่ต้องผ่านด้านหลังของพวกเราที่นั่งคุยกันอยู่ว่าพี่สอนลูกดีจัง อยู่ที่นี่ยังรู้จักทำอย่างนี้ แต่ระยะหลังเมื่อลูกติดฝรั่งมากขึ้น เขาก็จะละเลยบ้าง แต่พอเราได้พบเจอกลุ่มคนไทยใหญ่ๆอีกครั้ง เราก็ได้มีโอกาสสอนมารยาทให้พวกเขาได้อีก ต้องขอบคุณน้องๆพี่ๆคนไทยในต่างแดนด้วยที่มีส่วนในการช่วยสอนลูกๆให้รักษ์ความเป็นไทย
เรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งอีกเรื่องคือ เมื่อกลับมาใหม่ๆทั้งสองคนโตได้รับคำชมจากคุณครูว่าเขียนภาษาไทยได้สวยกว่าเด็กที่เรียนที่เมืองไทยอีก ทั้งคู่เอามาเล่าอย่างภาคภูมิใจ (พวกเรารู้กันว่าเขียนสวย แต่เข้าใจได้ไม่หมดหรอกค่ะ) เราก็รีบยืนยันว่า แม่ก็ว่าลูกเขียนภาษาไทยสวย ส่วนเจ้าตัวเล็กก็รีบถามเหมือนกัน อยากให้ชมว่าเขียนภาษาไทยสวยเหมือนกัน ทั้งที่ยังเขียนไม่คล่องนัก
โดยส่วนตัวก็ภูมิใจในความเป็นไทย จะรู้สึกดีใจทุกครั้งที่โดนฝรั่งถามว่า ยูเป็นคนชาติอะไรทำไมพูดภาษาอังกฤษได้ดีจัง เพราะคำชมนี้ในประเทศออสเตรเลียหมายถึงว่าเขารู้ว่าเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ เพราะประเทศนี้จะมีคนเอเชียมากมายที่เกิดและโตที่นั่น พูดได้ภาษาเดียวคือภาษาอังกฤษ ดังนั้นคนทั่วไปจะไม่ค่อยคิดว่าเราเป็นคนต่างชาติเวลารู้ว่าเราเป็นนักเรียน PhD แต่ถ้าโดนชมว่าใช้ภาษาอังกฤษดีแสดงว่า ไม่เหมือนเจ้าของภาษาแน่นอน ที่ดีใจก็เพราะเราทำให้เขารู้ว่า เราพูดแบบของเรานี่แหละ (แบบไทยๆ) แต่สื่อสารกับเขาได้ ตัวเองมั่นใจว่าได้แสดงให้ชาวต่างชาติรู้เสมอว่าเป็นคนไทย และรักเมืองไทย จะกลับเมืองไทยแน่นอน ที่ที่ดีที่สุดสำหรับเราคือเมืองไทย จะเผยแพร่สิ่งดีๆของไทยทุกครั้งที่มีโอกาส
เขียนบันทึกนี้ เพราะรู้สึกดีใจที่ลูกๆรับรู้และซึมซับสิ่งที่เราต้องการ และอยากให้คนไทยทุกคนช่วยกันแสดงความรักความชื่นชมที่เรามีต่อความเป็นไทยให้คนรอบข้างได้รู้ได้เห็น เพราะพลังนี้แหละที่จะทำให้เราทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมืองของเรา ทำโดยไม่รู้ตัว ทำจนเป็นจิตวิญญาณ ช่วยกันนะคะ ได้ผลแน่นอน
ใช่เลยค่ะ เราต้องมีเหตุมีผลในการอนุรักษ์ด้วย ของที่ดีก็ช่วยกันส่งเสริม สิ่งที่เราคิดว่าไม่ดีนัก ก็ต้องคิดถึงเหตุผลว่าทำไมจึงมีคนทำ ถ้าเราไม่ทำ ไม่อยากรักษาไว้ ก็ยังคงต้องฟังคนอื่นอยู่ดีค่ะ แต่เราก็สามารถเผยแพร่เหตุผลของเราได้ ถ้ามีคนเห็นด้วยเยอะๆเพราะคิดเหมือนเรา ก็จะเป็นการยืนยันว่า สิ่งนั้นๆน่าจะดีเหมาะสมกับคนไทยอย่างเราๆ
ขอชื่นชมจากใจจริงคะ...ครั้งหนึ่งมีเพื่อนไปเรียนที่อเมริกาไปได้ 6 เดือนกลับมาเยี่ยมบ้าน...บอกว่าพูดภาษาไทยไม่ถนัด...(แหม! ตอนนั้นน่ะ..บอกความรู้สึกไม่ถูกว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี)..ครอบครัวคุณโอ๋-อโณ เป็นตัวอย่างที่ดีของคนไทยหลายคนที่เคยไปอยู่ต่างแดน...เราได้สิ่งใหม่เพิ่มมาแต่เราก็ไม่เคยทิ้ง..สิ่งเก่าๆ...ที่หวงแหน
ขอยืนยันด้วยอีกคนที่ ลูกๆ ของโอ๋ มีมรรยาทน่ารัก เคยพาไปวัดก็นั่งพับเพียบเรียบร้อย คุกเข่ากราบพระและประเคนของถวายพระได้สวยงาม พระเองยังออกปากชมเลยคะ
อ่านแล้วรู้สึกดีจังนะคะ คนสมัยใหม่ส่วนใหญ่ยิ่งเรียนมาก ยิ่งคิดมาก ยิ่งไม่อยากมีลูก (รวมทั้งตัวเองด้วย) ตอนนี้เริ่มรู้สึกขึ้นมาแล้วว่า ถ้าไม่คิดสร้างบุคลากรคุณภาพให้ประเทศชาติ แล้วประชากรที่เพิ่มขึ้นมาจะพาอนาคตของชาติไปอย่างไร คุณโอ๋มีแนวทางสอนลูกๆ ได้น่าประทับใจมากค่ะ