การเข้มงวด... การถือปฏิบัติ ....ตามกาลเทศะและสถานการณ์


สัปดาห์แห่งการสอบปลายภาค !

วันนี้เป็นวันแรกของการจัดสอบ
ในระดับช่วงชั้นที่ ๓ ( ม ๑-๓)
ของสัปดาห์แห่งการสอบปลายภาคเรียนที่ ๑/ ๒๕๕๒ 
โดยจะจัดสลับวันกับช่วงชั้นที่ ๔ ( ม.๔-๖) เพื่อให้นักเรียนมีเวลาทบทวนความรู้
และสับหลีกเวลาให้กับกิจกรรมของ สพท.กพ. ในการสอบ LAS

                                      

ด้วยหน้าใสๆ แม้จะจัดอยู่ใน Wise Generation แต่ถูกกำหนดให้ไปคุมสอบอยู่ชั้น ๔
ของอาคาร ๖  เพราะไร้ซึ่งข้ออ้างสารพัดพาดพิงที่ยกมาเป็นเหตุผลประกอบ อาทิเช่น
ไขข้อเสื่อม  เข่าไม่ดี  น้ำในหูไม่เท่ากัน  นิ้วล็อก(เกี่ยวไหมเนี่ยย)  ภูมิแพ้...(แพ้ภูมิ
ตนเอง5555) 
                     
                       
           
    หลังพิธีเคารพธงชาติและสวดมนต์  มีการแจ้งข่าวนัดหมายและฝ่ายปกครอง
ถือโอกาสนี้ตรวจสอบเรื่องทรงผม...เนื่องจากนักเรียนมากันครบไม่สามารถหลบลี้กาย
ไปแอบซ่อนที่อื่นได้  เพิ่มบรรยากาศแห่งความเครียดให้กับเด็กๆ ครูก็เครียดด้วยเพราะ
บางครั้งอาจมีการกักตัวตรวจสอบนานไปนิด...  เช้านี้ก็ล่าช้าไปเกือบ ๑๐ นาที   ผู้เขียน
จึงต้องทดแทนเวลาตามจำนวนนาทีที่เสียไปให้กับเด็กๆ เพื่อประโยชน์ของพวกเขา
นั่นเอง ......
                                      
    แจกกระดาษคำตอบให้นักเรียนเขียนชื่อ-สกุล  ชั้น  เลขที่  กันก่อนแล้วค่อย
แจกกระดาษคำถาม  วิธีนี้เป็นการ Warm Up ที่ดีเพื่อลดปัญหาการพุดคุย-สอบถาม
เนื้อหาจากคำถามที่ได้อ่านผ่านสายตาอันฉับไว

    อาจารย์ขา....หนูยังไม่ได้ตัวคำถามเลยค่ะ

    อ้าว.... ระดับหนูนี่  ต้องใช้คำถามด้วยเหรอจ๊ะ
                         
                              
                            

   นี่หนูจ๋า  ครูว่า  ควรขีดเส้นใต้หรือทำเครื่องหมายไว้ที่คำตอบข้อสุดท้าย
ของกระดาษคำตอบก่อนดีไหม  จะได้ไม่กากบาทเกินไง  คำถามมีแค่
๔๐ ข้อนะ  บางคนกาไปตั้ง ๖๐ ข้อแน่ะ...แป่วววววว

     ในภาคเช้า  ต้องสอบ ๓ รายวิชา
     ๘.๓๐-๙.๓๐ น.   คณิตศาสตร์
     ๙.๓๕-๑๐.๐๕ น.  สุขศึกษา
     ๑๐.๑๐-๑๑.๑๐ น.   ภาษาไทย
 
    เวลา ๙.๓๐ น. รีบไปรับข้อสอบจากกรรมการกลาง  ชั้น ๒ แต่วิชาแรกยังไม่ได้ส่งให้
กรรมการกลางเพราะต้องรอพี่ที่คุมสอบด้วยกันเย็บกระดาษคำตอบให้เสร็จก่อน
เนื่องจากต้องทดเวลา-ขยายเวลาเพิ่มให้นักเรียนที่เสียเวลากับการตรวจเข้มจาก
ฝ่ายปกครอง จึงทำให้ล่าช้าไปกว่าห้องอื่นๆ
    ต่อรองฯกับหัวหน้าคณะกรรมการกลางประจำอาคาร  ขอนำข้อสอบรายวิชาที่ ๓
ขึ้นไปรอด้วยเลย  เพราะระยะห่างของวิชาที่ ๒กับวิชาที่ ๓ แค่ ๓๐ นาที เสียเวลาเดิน
ขึ้น-เดินลงบันได  และเสียเวลาให้เด็กๆ รอด้วย แถมเมื่อยอีกต่างหาก  ( หากเดินแบบ
ก็ว่าไปอย่าง
) แต่เขาปฏิเสธ แม้จะรับฟังเหตุผลพร้อมคำมั่นสัญญาของเนตรนารีว่า
จะไม่แจกข้อสอบให้นักเรียนทำก่อนเวลา / ก่อนห้องอื่นๆ โอ้โฮ....ไม่มีเครดิตจริงๆเลย
แต่ยอมอ่อนข้อว่า  หากนำรายวิชาที่ ๑ มาส่งจะยอมให้นำข้อสอบรายวิชาที่ ๓ ขึ้นไป
ด้วยได้  เอ้า...หยวน  ! รีบกลับมาบอกพี่ที่คุมสอบด้วยกันรับทราบ  แต่พอพี่เขาตะกาย
บันไดลงไปส่งวิชาแรก....กลับมาด้วยมือเปล่าเช่นเดิม ทั้งๆ ที่เวลาที่จะสอบวิชาที่ ๓
เหลือระยะห่างแค่ ๑๕ นาที    ....กว่านักเรียนจะทำข้อสอบวิชาที่ ๒ แล้วเสร็จ  เวลาก็
เกินเลยไป ๑๐  นาที  ห้องอื่นๆ เขาปรับตามเวลาได้ทัน  ยกเว้นห้องที่ผู้เขียนคุมสอบที่
มีปัญหาล่าช้ามาตั้งแต่ต้น  จึงกระทบชิ่งเป็นลูกโซ่ไปเรื่อยๆ
   
              ปล่อยเถอะ....ไม่ได้รีบร้อนไปต้อนควายเข้าเล้าที่ไหนเล่า !

                                           

    อาจารย์ขา  หนูง่วงนอนจังเลย  เมื่อคืนนอนเกือบตี ๓ เพราะไปช่วยแม่ขายของ
ในงานประเพณีสาร์ทไทยกล้วยไข่
    ทำไมไม่บอกแม่ล่ะ  ว่าจะสอบ  นอนดึกขนาดนั้น  มันไม่ไหวหรอกนะ  ช่วงสอบนี่
หยุดช่วยแม่  ดูหนังสืออยู่บ้านดีกว่ามั้ง
    ไม่เป็นไรค่ะ... ก็แม่หนูไม่มีคนช่วย  ต้องขายของคนเดียว
                              
                    

   อาจารย์ขา  หนูก็นอนดึก  เพราะเมื่อคืนไปดูคอนเสริต์มาค่ะ
   อ. แหวว    อย่างนี้เขาเรียก ๑๑  ร.ด. รู้เรื่องละเปล่า  เข้าใจไหม
   หนูรับได้ค่ะ  เข้าใจค่ะ
  
                 

      ความกตัญญูรู้คุณ  ....การเข้มงวด...การรักษากฎ-กติกา  มารยาท และกฎระเบียบ เป็นเรื่องที่ดี  แต่จะดีกว่านี้...หากรู้จักที่จะคิด  วิเคราะห์และปฏิบัติให้ถูกต้อง  เหมาะสมกับกาลเวลาและสถานการณ์
                        
                                              

หมายเลขบันทึก: 299687เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2009 00:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 21:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

แวะมาเยี่ยมครับ

เพิ่งขับรถผ่านกำแพงแต่มิได้แวะเมื่อวานนี้เองครับ

* ทำแบบนี้...ได้ไงล่ะคะ  โอกาสหน้าแก้ตัวใหม่เน้อ ! (ล้อเล่น)
* คงได้มีโอกาสต้อนรับคุณหนานเกียรติ  สักวัน.... ยินดีนะคะ
* ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
         
                                      ภาพเคลื่อนไหว

ผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง

การปฏิบัติงานบางครั้งถ้าจะให้ถูกใจครูทุกคนก็คงเป็นไปไม่ได้ ถูกใจผู้ขอแต่ไม่ถูกต้องตามกฏกติกาจะให้ทำอย่างไร ถ้าจะอ้างเรื่องการปวดข้อเข่า แข้งขาเดินขึ้นลงไม่ไหว ก็น่าจะเกิดจากการเดินทางไปประชุมที่โน่นที่นี่บ่อยๆโดยทิ้งเด็กไว้ ไม่ได้สอนมากกว่า เพราะการเดินขึ้นลงเพียง3 ครั้ง/วัน ไม่ทำให้เข่าเสื่อมมากลงไปแต่อย่างใด เป็นการบริหารเข่ามากกว่า ถ้าจะให้ครูเพียงห้องเดียว เดี๋ยวห้องอื่นลงมาขออีกเพื่อบอกว่าเอาเก็บไว้ จะยังไม่สอบ แล้วกรรมการจะมีบรรทัดฐานอย่างไรในการทำงาน จะกลายเป็นการทำแบบ 2 มาตรฐานใช่หรือไม่ ใครสนิทใครก็ให้ไปก่อน ใครไม่สนิทก็ไม่ให้ จะเอาแบบนั้นหรือ กรรมการกลางจะต้องยึดมั่นตามกฏเกณฑ์ เวลาที่ตั้งไว้ ไม่เช่นนั้นต่อไปก็จะบอกฝ่ายวิชาการว่าไม่ต้องกำหนดเวลา ใครสอบเสร็จก่อนก็เอาข้อสอบใหม่ไปสอบเลย อย่างนั้นจะดีมั้ย

คุณผู้ปฏิบัติตามคำสั่งคะ
    ขอให้กลับไปอ่านอีกรอบหนึ่งนะคะ....  ว่าทำไมจึงต้องมีการ  ขอนำข้อสอบในรายวิชาที่ ๓  ขึ้นไปก่อน  ตั้งแต่....หลังพิธีเคารพธงชาติและสวดมนต์...... ..........................................................................................................
..........(กรุณาอ่านให้จบและคิดวิเคราะห์ตามนะคะ )
  ปกติไม่เคยขอข้อสอบไปก่อนนะคะ ..........ยกเว้นวิชาที่มีสอบเพียงห้องเดียวในภาคบ่าย...แล้วนักเรียนขอสอบก่อน..เพราะไม่อยากรอคอย...เพื่อต้องการกลับไปอ่าน-ทบทวนความรู้รายวิชาในวันต่อไป  แต่ครั้งนี้...เป็นผลประโยชน์ของเด็กๆค่ะ   เหตุผลคือ....
  
1.  นักเรียนเข้าสอบช้ากว่าห้องอื่นๆ.... ส่งผลให้เกิดความกดดันในการเร่งรีบทำข้อสอบ
   2.  นักเรียนต้องทำข้อสอบไล่หลังห้องอื่นๆ ทุกรายวิชาในภาคเช้า...หากจะดำเนินการลดขั้นตอนเพื่อให้ทันในรายวิชาที่ ๓ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักเรียนและภาพรวมของกรรมการกลาง
  * การไปร่วมประชุมและสัมมนาเป็นการพัฒนาครูโดยตรง...สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาถ่ายทอดให้กับนักเรียนและพัฒนาองค์กรค่ะ  ผลประโยชน์ที่บังเกิดต่อเยาวชนถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน .... อาชีพครูควรได้รับการพัฒนาส่งเสริมทั้งด้านวิชาความรู้และวิชาชีวิต.....คล้ายๆกับการศึกษาตลอดชีวิต...  มิเช่นนั้นจะไม่สามารถจะนำพาเยาวชนให้มีความรู้-ความสามารถและพัฒนาตนเองอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข  
ครูส่วนมากล้วนรับผิดชอบต่อบทบาทและหน้าที่ของตน...หากต้องเสียเวลาไปสัมมนา-ประชุม-อบรม ก็ต้องกลับมาสอนทดแทนในส่วนของเนื้อหาที่ขาดหายไปค่ะ
  * ขอบคุณ... คุณผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง นะคะ.... ที่กรุณาเขียนมาอรรถาธิบาย ...จึงได้แลกเปลี่ยนมุมที่มองต่างกันไปค่ะ 

                                                      

  • อาทิเช่น
    ไขข้อเสื่อม  เข่าไม่ดี  น้ำในหูไม่เท่ากัน  นิ้วล็อก(เกี่ยวไหมเนี่ยย)  ภูมิแพ้
  • ฮาเลยครับ เจอข้ออ้างนี้ไป
  • นานมาแล้วผมก็เคยเจอแบบนี้ เราถือว่าเรายังหนุ่มแน่น ทำได้ทุกๆๆอย่างครับ
  • มองในแง่ดีถือว่า ช่วย สว
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

มาชม

ช่วงเทศกาลสอบปลายภาคมาถึงแล้วนะครับ...

อาจารย์ขจิตคะ
 * อาจารย์วัยเบญจรงค์ที่นี่มีอยู่ประมาณ 47.95 % ค่ะ...กลัวถูกค่อนแคะว่า...เดี๋ยวเธอก็ไล่ตามทันแล้ว... ยังไม่อยากยอมรับความจริง 55555 (ล้อเล่น...!)
 * บางสิ่ง-บางอย่าง... พูดลำบากเหมือนกันนะคะ  ถ้ารับฟังกันบ้างแล้วนำมาปรับปรุง...หรือพัฒนางานให้ดีขึ้น   องค์กรก็สามารถดำเนินไปได้ด้วยดี...Pually เองก็บกพร่องหลายเรื่อง...และพยายามปรับปรุงตนเองอยู่เหมือนกันค่ะ  การได้มีโอกาสไปเข้าร่วมประชุม- สัมมนา และแลกเปลี่ยนประสบการณ์  รวมทั้งได้ทำงานร่วมกับองค์กรอื่นๆ ช่วยให้เรารู้จักมองตนเอง  ฝึกความอดทน-อดกลั้น ลดฐิทิและความเห็นแก่ได้ลงไป  หันไปให้ความสำคัญกับประโยชน์ของส่วนรวมมากขึ้น   แม้แต่สังคม G2K ก็ให้ข้อคิดดีๆและมุมมองที่น่าประทับใจเช่นกันค่ะ
* ขอบคุณ อาจารย์ขจิต มากนะคะ  อาจารย์เป็นบุคคลแรกที่เข้ามาให้กำลังใจ Pually ตั้งแต่เขียนบล็อกแรก..ซึ่งยังไม่ค่อยเข้าใจสังคมและมารยาทในการปฏิบัติเท่าที่ควร  หากมีสิ่งใดบกพร่องไปบ้าง ..ต้องขออภัย... และขอเป็นลูกศิษย์นาทีนี้แล้วกัน  หากมีสิ่งใดจะอบรม-สั่งสอนหรือชี้แนะ    ช่วยกรุณาด้วยนะคะ~!
                                              
 

 

อาจารย์ UMI คะ
   * เย้.....ดีใจจัง  ...อาจารย์อารมณ์ดีของ Pually มาแล้ว
   * นับถือ...การมองโลกในเชิงบวก...และข้อคิดดีๆที่แฝงอารมณ์ขัน  ของอาจารย์ มากๆเลยค่ะ
                                      
         

 

  • โห! เพิ่งเห็นอ.K.Puallyเอาจริงครับ การเข้มงวด การรักษากฎ-กติกา มารยาท และกฎระเบียบ เป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีกว่านี้ หากรู้จักที่จะคิด วิเคราะห์ และปฏิบัติให้ถูกต้อง เหมาะสมกับกาลเวลา และสถานการณ์ ทิ้งท้ายอย่างนี้ ภาษามวยเรียก ทิ้งหมัดเข้ามุม หมัดหนักครับ โป้งเดียวจอด(ฮา)
  • ขอบคุณประสบการณ์ดีๆครับ

* อย่าจุดประเด็นซิคะ..เดี๋ยวก็หลบหมัดหนักๆ ไม่ทันหรอก
* อาจารย์ธนิตย์นี่... นอกจากจะถ่ายภาพได้งดงามเกินบรรยายแล้ว  ยังจัดกิจกรรมการเรียน-การสอนได้เยี่ยม  แถมพกอารมฌ์ขันมาเพียบ...ว่างๆ จะไปศึกษา.. มุก.. ดูบ้าง
*** ข้อความต่อไปนี้..ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาด้านบนนะคะ ***
    คุยฟุ้งให้น้องร่วมงานคนหนึ่งฟังว่า  ตนเองมีพระไพรีพินาศ... ดังนั้นไพรีพินาศกันหมด  น้องแซวกลับว่า  ใครกันแน่ที่พินาศ...  เอ๊ะ...กลับมาทบทวนหลายๆ เหตุการณ์ชักไม่มั่นใจนะ  ว่าใครกันแน่ที่...เป็นฝ่าย(ไม่) พินาศ  แป่ววววว  ! 
                                      

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท