The Beatles Remastered


bealte เพลง

The beatles Remastered

วันอาฑิตย์ที่แล้ว ได้มีได้รับเงินค่าตอบแทนมามากพอสมควร เลยฉลองด้วยการออกไปซื้อ CD ได้ข่าว CD remastered ของ beatles มานานแล้ว  เคยซื้อ Sgt. Peper Lonely’s heart club band เมื่อหลายปีก่อน ออกเป็น edition พิเศษ และซื้อ Let it be (naked) มา ความจริงก็ไม่ค่อยรู้ความแตกต่างหรอก เคยมีเครื่อง Turntable Sure และ มีเครื่องเสียง McIntosh ชนิดหลอด ก็นานมาแล้วอีกเหมือนกันสมัยก่อนเล่นแผ่นเสียง (คงไม่ใช่เล่นหรอกครับ เพราะหมดไปหลาย) มีแผ่นเสียงเกือบ1000 แผ่น (เป็น library of Classic ซึ่งเป็นแผ่นเพลง Classic หลายร้อยแผ่น)  ปัจจุบันทิ้งไปหมดแล้ว เนื่องจากปลวกกินหมดเลย เครื่องก็ไม่ด็เปิดเป็นปี เครื่องเล่นแผ่นเลียงก็เสีย สมัย compact disc มาใหม่ ก็ซื้อเครื่องเล่น หลาย bit มา ยางเสียเกือบหมด ปัจจุบันเลยใช้ Sony ก็พอ แต่ซื้อหูฟังดีๆมาฟัง  ก็ใช้ได้นะครับเหมือนซื้อลำโพงดีๆ และใช้เครื่องเสียงดีๆ เหมือนกัน พอยุคนี้มี iPod touch อยู่กับเขาตัวหนึ่ง เลยอัดเพลงเข้าไป และใช้ฟังก็สะดวกดี กลับมาที่แผ่น beatles บ้าง เริ่มเล่นใหม่ๆ ก็จะซื้อ แผ่นรวม hit สีฟ้า และสีแดง ซึ่งมีอย่างละสองแผ่นครอบคลุมเพลงที่น่าฟังเกือบทั้งหมด เลยคิดว่ารู้จัก beatles หมดแล้ว แต่พอมีแผ่นรวม love song ออกมา โอ้โฮ ดีมากเลย ไม่เคยฟังรวมที่ใหนเพราะอย่างนี้เลย มีหลายเพลงที่ไม่มีในแผ่นฟ้าและแดง เลยศึกษา beatles อย่างละเอียด  ช่วงที่เริ่มฟัง beatles คงคล้ายกับคนอื่นๆ เพลงที่รู้จักเพลงแรกคือ Yesterday  ได้หนังสือดีๆหลายเล่ม ยุคหลัง beatles แยกวง ก็รู้จัก Paul McCartney จาก Band on the run และ แผ่น wing over America   สำหรับ John Lennon แน่นอน ต้อง Imagine และ number nine dream และชุดสุดท้าย Woman (?) แต่ไม่ชอบ Yoki Ono เลยในสมัยโน้น สำหรับ George คือ My sweet Lord และ Concert for Banghaldesh และ ตำนาน Layla (ของ Eric Clapton) เลยมาถึง Travelling Willberry แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ While my guitar gently weeps ฟังแล้วสะเทือนจริงๆ  Ringo แน่นอนคือ Oh my my จริงๆแล้ว Ringo และ all star band ของเขาก็มีเพลงดีๆมากนะครับ แต่ทิศทางค่อนข้างหลากหลายไปหน่อย

ย้อนกลับมา The beatles ตอนนั้นเป็นเทป ซื้อเทปผี Peacock ฟัง ม้วนละ 25 กลายเป็น 35 และเมื่อมี ลิขสิทธ์ ก็เป็น 50-60 บาท ตอนนั้น EMI เคยออกเทป beatles ครบชุด จะชื้อฟังก็แพงมาก (สมัยโน้น) เลยเลือกซื้อ แน่นอนที่ต้องซื้อคือ Let it be, Abbey Road, Revolver, Rubber Soul ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเพลงในชุดฟ้าและชุดแดงอยู่  ต่อมาในยุคซีดี ฝากเพื่อนไปซื้อที่สิงคโปร์ ได้ White album มา ตอนแรกก็ไม่รู้จัก ยังคิดว่าแหม ทำไมไม่ซื้อชุดที่ popular หน่อย พอมาฟังก็โดนเลย ต่อมาในยุค MP3 เลยซื้อ แผ่นรวมมา แต่แผ่นนี้แปลก มีเนื้อเพลงให้ด้วย เวลาฟังเพลงไปก็สามารถดูเนื้อเพลงจาก computer แต่เสียงไม่เอาอ่าวเลย ฟังแล้วรำคาญหูมากกว่าเพราะ ในช่วงหลังๆ พัฒนาการฟังเพลงไปมาก อย่างที่เคยเล่าให้เพื่อนๆฟังแล้ว เพลงใหนยาวไม่ถึง 5 นาทีจะไม่ฟัง เลยไปไกลสุดกู่ไปหน่อย ไปถึงเพลงคลาสสิก ซื้อจนได้มากกว่า 1000 CD แล้ว (ล่าซื้อตาม Penguin guide และ Grammophone guide) แล้วย้อนกลับมาเป็น Progressive metal ตอนนี้ก็ยังบ้านะครับ ปีนี้เก็บ Rush ได้ 2112, Farewell to King, Moving Picture, Exit Stage live แต่ Rush มีดีที่การแสดงสดครับ ซื้อ DVD แสดงสดมาดู จุใจมาก และสนุกมาก ช่วงสองเดือนนี้ฟังแต่ Dream Theater ไล่มาตั้งแต่ชุด  Image and Words, Season, Metropolis II, Octavium, Systematic chaos และ Dark cloud and silver lining จุใจดีมาก ซื้อ DVD แสดงสดมา เพิ่งอัด Score ลงใน iPod  เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเห็น Beatle Remastered เลยอดใจไม่ใหวครับ เหมือน coming of age ย้อนยุคเลยกลับไปซื้อ มาฟัง Lot แรกได้ Let it be, Magical Mystery tours, HELP,  A hard day’s night, White album (ของเก่าราขึ้น CD เล่นไม่ได้เลย) และ Past master ซึ่งแผ่นที่แยกขายจะเป็น Stereo mixed ที่จริงมีบางแผ่นอยู่แล้ว เลยไม่ซื้อ แต่ว่าจะซื้อ Mono Mixed ครับชุด เนื่องจากไม่เคยมีแผ่น mono เลย เขาว่าเสียงดีมาก บางคนอาจคิดว่าสิ้นเปลือง แต่สำหรับผมมันเป็นความสุขเล็กน้อยครับซึ่งค่าของมันคงมากกว่าเงินที่เสียไปสำหรับผมแน่นอน (แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Beatles หรือไม่มีความหลังกับพวกเขาคงเป็นการสิ้นเปลืองมากแน่)

ขอพูดเกิน Beatles ไปหน่อย ชอบมีการเปรียบเทียบศิลปินในยุคต่างๆ ว่าเทียบเท่าคนนั้น คนนี้ ความจริงคงเทียบไม่ได้หรอกครับ คนฟังก็คนละยุค เพลงก็คนละแบบ ความนึกคิดก็ต่างกัน ความต้องการในการฟังก็ต่างกัน มีคนเปรียบ Michael Jackson ว่าเทียบเท่าโมซาร์ท ผมไม่รู้หรอกครับว่าเทียบได้หรือไม่ Michael เกิดมาในครอบครัวที่ต้องทำอะไรซักอย่างเกี่ยวกับดนตรี มีเสียงดนตรีตลอด (เหมือนในหนังสือ outlier ที่ว่าไว้ว่าไม่มีพรสวรรค์ครับ มีแต่สิ่งแวดล้อมเอื้อหรือบังคับให้ต้องทำ ต้องเป็น) มีการส่งเสริม การรักดีของเด็กเข้ามา ทำให้เขาเก่งขึ้น ประสบการณ์ดนตรีตั้งแต่แรกเกิดทำให้เขากล้า มีความคิดสร้างสรรค์ ผมชอบอัลบั้ม Off the Wall มากกว่า Thriller จำได้ว่าซื้อตั้งแต่ออกครั้งแรกเป็นเทปของ Peacock  สำหรับ CD ของ MJ ชุดแรกที่ซื้อคือ Dangerous ชุดสุดท้ายคือ Thriller แผ่นครบรอบกี่ปีก็จำไม่ได้แล้วครับ พอ MJ ตายก็ไม่ได้ซื้ออะไร เพราะรู้สึกว่าตอนเขาอยู่ก็ซ้ำเติมมากมาย ทำไมตายแล้วต้องหาประโยชน์จากเขามากขนาดนี้ก็ไม่รู้

พูดถึง DVD ช่วงที่ไปประชุม ICOH ทั้งสองครั้ง (ที่ Milan และที่ Cape town ) ได้ DVD เกี่ยวกับความปลอดภัยมา ซึ่งค่อนข้างดี เป็น DVD เรื่อง chemical safety และ อันตรายจากเสียงดัง เคยนำไปเปิดหลายที่ มีคนสนใจเยอะ จะลองหาทาง upload ดู ไม่รู้จะทำเป็นหรือไม่ เนื่องจากเป็นคนนิสัยเสีย ทำอะไรทำเองหมด ไม่เคยให้ใครสอน (ที่ทำ computer ได้มากมาย ก็จากความสามารถส่วนตัวครับ เลยทำได้ครึ่งๆ กลางๆ) ลองหาวิธีดู  ขอบคุณที่อ่านครับ

คำสำคัญ (Tags): #beatles#เพลง
หมายเลขบันทึก: 299508เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2009 15:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 17:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท