ชื่อวิจัย การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านในถุ้ง ปีการศึกษา 2551
ผู้วิจัย นางวนิดา บุญมั่น
สายงาน บริหารสถานศึกษา
ปีการศึกษา 2551
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านในถุ้ง ปีการศึกษา 2551 ในด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิต โดยศึกษาจากผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่เป็นหัวหน้างาน ครูที่ปรึกษา ผู้ปกครองเครือข่าย นักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปีการศึกษา 2551 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 542 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่าและแบบสอบถามปลายเปิด ใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการประเมินโครงการในภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ทั้ง 4 ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ ด้านผลผลิต ด้านกระบวนการ ด้านปัจจัยนำเข้าและด้านสภาพแวดล้อม
1. ด้านสภาพแวดล้อม ในภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ตอบ พบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่เป็นหัวหน้างานอยู่ในระดับมากที่สุดเท่ากัน เมื่อพิจารณาความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่เป็นหัวหน้างานเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่อยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับความต้องการของครูและนักเรียน และวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รองลงมาคือวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสถานศึกษา และวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และข้อที่อยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับ ดังนี้ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 และโครงการมีความสำคัญในการสนับสนุนการจัดการศึกษา รองลงมาคือ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของท้องถิ่น และจัดสถานที่ได้เหมาะสมกับการดำเนินโครงการ และจัดบรรยากาศในสถานศึกษาให้เอื้อต่อการดำเนินโครงการ
2. ด้านปัจจัยนำเข้า ในภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ตอบ พบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่ปรึกษาและผู้ปกครองเครือข่ายอยู่ในระดับมากที่สุดเท่ากัน เมื่อพิจารณาความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่ปรึกษาและผู้ปกครองเครือข่ายเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่อยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ ความพร้อมของผู้รับผิดชอบโครงการ และความพร้อมของผู้เข้าร่วมโครงการ รองลงมาคือ ความพร้อมของคณะกรรมการสถานศึกษา และความพร้อมในด้านวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำเนินโครงการ ยกเว้นความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนโครงการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 และความพร้อมขององค์การบริหาร
ส่วนท้องถิ่นในการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนโครงการอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ
3. ด้านกระบวนการ ในภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ตอบ พบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่ปรึกษาและผู้ปกครองเครือข่ายอยู่ในระดับมากที่สุดเท่ากัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการวางแผน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่อยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับดังนี้ บุคลากรมีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินงานโครงการ รองลงมา คือ มีการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและการจัดทำระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนสอดคล้องกับสภาพของสถานศึกษา ยกเว้น การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศที่ใช้ในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนถูกต้องเป็นปัจจุบันและสะดวกต่อการนำไปใช้วางแผนการดำเนินงานโครงการ ความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ด้านการดำเนินการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ การจัดทำแผนประเมินผลโครงการควบคู่กับการวางแผนกำหนดกิจกรรมของโครงการ บุคลากรมีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการ จัดกิจกรรมโครงการแต่ละกิจกรรมตามขั้นตอนที่กำหนด และการดำเนินการประเมินเป็นไปตามแผนและปฏิทินที่กำหนด รองลงมา คือ แต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบโครงการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและเข้าใจโครงการอย่างชัดเจน และจัดทำเครื่องมือ ติดตามประเมินผลให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่กำหนดไว้ ด้านการติดตามและประเมินผล ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ มีการติดตาม ประเมินผลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ มีการประเมินโครงการระหว่างปีและสิ้นสุดโครงการ และบุคลากรมีส่วนร่วมในการติดตามประเมินผลกิจกรรมแต่ละกิจกรรมตามโครงการ ด้านการนำผลการประเมินมาใช้ ปรับปรุงพัฒนา ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ มีการสรุปผลและรายงานผลการประเมินโครงการให้บุคลากรในสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและบุคลากรมีส่วนร่วมในการนำผลการประเมินมาใช้ปรับปรุงพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง
4. ด้านผลผลิต ในภาพรวม พบว่า ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ตอบ พบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่ปรึกษา ผู้ปกครองเครือข่าย นักเรียนและผู้ปกครองอยู่ในระดับมากที่สุดเท่ากัน เรียงตามลำดับดังนี้ นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้ปกครองเครือข่าย ครูที่ปรึกษาและผู้บริหารสถานศึกษา เมื่อพิจารณาความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่ปรึกษา ผู้ปกครองเครือข่าย นักเรียนและผู้ปกครองเป็นรายข้อ พบว่าทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้ ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง รองลงมาคือผู้บริหารสถานศึกษามีวิสัยทัศน์บริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ และมีข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคล
คำสำคัญ ประเมินโครงการ ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ไม่มีความเห็น