มาหัวเราะกัน..เถิดโยม..!!!


การหัวเราะหนึ่งครั้งจะทำให้อายุยืนไปอีกหนึ่ง หัวเราะสองครั้งอายุยืนสองวัน สามครั้ง..สามวัน..สี่ครั้งสี่วัน..ห้าครั้ง..ห้าวัน..แต่ถ้าหัวเราะทั้งวัน..อันนี้อาตมาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

          เนื่องจากสถานการณ์การบ้านการเมืองตอนนี้กำลังร้อนแรง ว้าวุ่น..ทำให้คนในสังคมไทยเต็มไปด้วยอารมณ์ตรึงเครียด..หน้าบูดหน้าบึ้งใส่กันและกัน  ดังนั้น  วันนี้อาตมภาพเองอยากจะนำเสนอธรรมะข้อหนึ่งที่ช่วยให้คุณโยมทั้งหลายได้ผ่อนคลายกันบ้าง  นั่นคือ การหัวเราะ  นั่นเอง  

          การหัวเราะนั้น ถือว่าเป็นหลักการข้อหนึ่งในบรรดาหลักของการเทศนา  4 ข้อ  คือ 1. สันทัสสนา  เทศน์ให้แจ่มแจ้ง  2. สมาทปนา  เทศน์ให้จูงใจ  3. สมุตเตชนา เทศน์ให้แกล้วกล้า และ 4. สัมปหังสนา  เทศน์ให้ร่าเริง หรือการทำให้โยมผ่อนคลายร่าเริง หัวเราะ  เหมือนกับการเทศนาของท่านพระมหาสมปอง ตาลปุตโต ที่ใช้วิธีการสร้างอารมณ์ขันในการเทศน์เป็นส่วนใหญ่แล้วจึงสรุปจบด้วยธรรมะ

          การหัวเราะมีคุณประโยชน์มากมายซึ่งโยมทั้งหลายอาจมองข้ามไปก็มี  ท่านบอกว่า  การหัวเราะหนึ่งครั้งจะทำให้อายุยืนไปอีกหนึ่ง  หัวเราะสองครั้งอายุยืนสองวัน  สามครั้ง..สามวัน..สี่ครั้งสี่วัน..ห้าครั้ง..ห้าวัน..แต่ถ้าหัวเราะทั้งวัน..อันนี้อาตมาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า  จะอายุยืนตลอดไปหรือกลายเป็นคนบ้าไปแล้ว  ฮ่า ฮ่า ฮ่า   จริงแล้วประโยชน์ของการหัวเราะนั้น  มีการศึกษาพบว่า

          1. สีหน้าเบิกบาน ขณะหัวเราะ กล้ามเนื้อขนาดเล็ก 15 มัดบนใบหน้าจะหดตัวเพื่อให้เกิดรอยยิ้ม มีเลือดไหลเวียนบริเวณใบหน้าเพิ่มขึ้น ทำให้ใบหน้ามีเลือดฝาดและเกิดประกายของความสุข

          2. น้ำตาไหล การหัวเราะอย่างเต็มที่จะกระตุ้นต่อมน้ำตาให้มีน้ำตาไหลออกมา บางครั้งความปลื้มปีติที่มีอยู่มากมาย อาจทำให้เราถึงกับร้องไห้ด้วยเนื่องจากความสุขใจ มีข้อมูลจากงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการหลั่งน้ำตาไม่ว่าเกิดจากความสุขหรือความเศร้า สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้

          3. ปากอ้ากว้าง ขณะที่เราหัวเราะและเปล่งเสียง "ฮ่า ฮ่า" เราย่อมต้องอ้าปากกว้าง มีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโลมาลินดา ที่ทำการศึกษาน้ำลายของผู้ที่เพิ่งหัวเราะ พบว่า หลังการหัวเราะ น้ำลายจะมีปริมาณสารภูมิคุ้มกันที่เรียก อิมมูโนโกลบูลิน ที่เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคเพิ่มขึ้น การศึกษาอีกการศึกษาหนึ่งพบว่า มีระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียก ทีเซลล์ (T cell) ในเลือดสูงขึ้น ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการหัวเราะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานดีขึ้น

          4. ผลต่อหัวใจและหลอดเลือด ในขณะหัวเราะ อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตจะสูงขึ้นเป็นช่วงสั้นๆ เช่น การหัวเราะเล็กน้อยระหว่างนั่งดูภาพยนตร์ตลก เมื่อไม่นานมานี้ แพทย์โรคหัวใจจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ศึกษาผลของการหัวเราะต่อเยื่อบุผนังหลอดเลือด โดยการให้อาสาสมัครสวมปลอกแขนของเครื่องวัดความดันโลหิต และบีบลูกยางไว้เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงแขนลดลงประมาณ 2-3 นาที ในขณะเดียวกัน ก็ให้อาสาสมัครชมฉากจากภาพยนตร์สงครามวันหนึ่ง ส่วนวันถัดมาให้ชมฉากจากภาพยนตร์ตลก ผลปรากฏชัดเจนว่า หลอดเลือดขยายตัวหลังชมฉากตลก แต่หดตัวหลังชมฉากสงคราม ภาวะหลอดเลือดขยายตัว เปรียบได้กับหลอดเลือดที่ได้รับสารเคมีที่ช่วยลดการเกิดการอุดตัน และการอักเสบของหลอดเลือด ในขณะที่ภาวะหดตัวของหลอดเลือดเปรียบได้กับการได้รับฮอร์โมนเครียด เช่น อะดรีนาลีน ซึ่งทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดและทำให้เป็นโรคหัวใจในที่สุด นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการหัวเราะยังช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลได้ง่ายขึ้น

          5. บรรเทาความเจ็บปวด เสียงหัวเราะสามารถบรรเทาอาการปวดได้ ตั้งแต่อาการปวดตามแขนขาไปจนถึงปวดศีรษะหรือสมอง มีการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 โดย โรสแมรี โคเกน นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเทกซัส ได้ใช้การวัดแขนด้วยเครื่องวัดความดันโลหิตทำให้เกิดอาการปวดแขน เธอพบว่าอาสาสมัครกลุ่มที่ดูรายการตลกในโทรทัศน์ขณะถูกรัดแขนนาน 20 นาที ทนแรงบีบรัดได้มากกว่ากลุ่มที่ดูรายการข่าวหรือไม่ดูอะไรเลย

          6. ช่วยบริหารกล่องเสียงและปอด ในขณะหัวเราะกล่องเสียงของคนเราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดเสียงหัวเราะเสียงแหลม กระบังลมซึ่งเป็นกล้ามเนื้อช่วยหายใจที่แข็งแรงจะหดตัว และคลายตัวสลับกันเพื่อให้มีอากาศเข้าและออกจากปอดอย่างแรง จนดันอากาศพุ่งผ่านกล่องเสียงจนเกิดเป็นเสียงหัวเราะ การจะได้การหัวเราะอย่างเต็มที่ ร่างกายต้องใช้แรงมากเท่ากับการตะโกน การหัวเราะจึงเป็นการบริหารระบบหายใจที่ดีวิธีหนึ่ง นอกจากนี้อากาศที่ไหลผ่านเข้ามาในปอดมากขึ้นทำให้ร่างกายได้ออกซิเจนที่แลกเปลี่ยนเข้าไปในเลือดเพิ่มขึ้นอีกด้วย


         นี่คือคุณประโยชน์ของการหัวเราะ..ซึ่งเป็นธรรมะง่าย ๆ สำหรับการผ่อนคลายจากความเครียด ความวุ่นวายทั้งหลาย  ไม่ต้องไปซื้อด้วยเงินหรือด้วยวิธีการอื่นใด  เพียงแค่ทำใจคิดให้เป็นเรื่องขำ ๆ แล้วหัวเราะดังๆ ก็พอแล้ว  ถ้าอย่างนั้น..ขอเจริญพรเชิญโยม ๆ ทั้งหลายสร้างความสุขด้วยการหัวเราะไปพร้อมกันเถิดโยม..ขอเจริญพร.. 

อ้างอิง

http://www.ranthong.com/smf/index.php?action=printpage;topic=16411.0

 

หมายเลขบันทึก: 299095เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2009 23:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท