"วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคน ทั้งในการดำรงชีวิตประจำวันและในงานอาชีพต่างๆ เครื่องมือเครื่องใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตและในการทำงาน ล้วนเป็นผลของความรู้วิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่น ๆ ความรู้วิทยาศาสตร์ช่วยให้เกิดองค์ความรู้และความเข้าใจในปรากฏการณ์ธรรมชาติมากมายมีผลให้เกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างมาก ในทางกลับกันเทคโนโลยีก็มีส่วนสำคัญมากที่จะให้มีการศึกษาค้นคว้าความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง" ข้อความที่มักนำมากล่าวอ้างถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เมื่อวิทยษสาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน หลักสูตรที่จัดของสถานศึกษาก็มุ่งหวังให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันเช่นกัน หลักการทางวิทยาศาสตร์ไม่ว่าสถานศึกษาใด ก็ล้วนแต่ใช้หลักเดียวกัน จึงทำให้การประเมินผลที่จะแสดงได้ว่าผลการใช้หลักสูตร เป็นอย่างไร
ดังตัวอย่างการวิเคราะห์ผลที่นำมาแสดงได้
จากตารางผลการประเมินโรงเรียนอนุบาลรัตนบุรีมีผลการทดสอบระดับชาติวิชาวิทยาศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่๖ มีค่าเฉลี่ย(46.74) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระดับประเทศ เมื่อมาพิจารณาเป็นรายมาตรฐาน
พบว่าวสระวิทยาศาสตร์
สาระที่ 4 : แรงและการเคลื่อนที่
มาตรฐาน ว 4.1 : เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง และแรงนิวเคลียร์
มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์อย่างถูกต้องและมีคุณธรรม
มาตรฐาน ว 4.2 : เข้าใจลักษณะการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุในธรรมชาติ มีกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์
แบบทดที่เน้นกระบวนการทดลองที่สัมพันธ์กับสถานการณ์จริง นักเรียนก็ยังยากที่จะทำความเข้าใจในส่วนของนามปธรรม ซึ่งไม่เพียงแต่ระดับดรงเรียนเท่านั้น ระดับประเทศก้ได้ผลที่ต่ำกว่าที่คาดไว้
วิชาการโรงเรียนจึงได้วางแผนที่จะพัฒนาผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว โดยให้มีผลในเชิงบวก มากขึ้นร้อยละ 2
หากมองไปยังผลในปีที่ผ่านมาคือ 2550 และ 2549 พบว่า ก็มีผลในเชิงบวกเพียงร้อยละ 1.25 และ 0.75 ตามลำดับ แต่ก็อย่างน้อย ๆ การมีผลเป็นบวกทำให้เป้าหมายที่กำหนด มีแนวโน้มเป็นไปได้
โรงเรียนจึงได้กำหนดแนวทางการยกผลสัมฤทธิ์วิทยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑ ดังนี้
ปรับปรุงรายละเอียดและกิจกรรมของหลักสูตร พัฒนาครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ เสริมงบประมาณพัฒนาวิทยาศาสตร์มากขึ้นร้อยละ ๕ ของงบพัฒนาวิชาการ
(ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ หมายถึง ครูที่มีวุฒิสาขาวิชาอื่นที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนสาระวิทยาศาสตร์)
จากแนวทางดังกล่าวจึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น
แผนงานโครงการประจำปี ๒๕๕๑
สยามบรมราชกุมารี
จากผลการติดตามในระยะที่ ๑ พบข้อสังเกตในเบื้องต้นว่า กิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มีแนวโน้มทำให้นักเรียนรักและชอบวิชาวิทยาศาสตร์มากขึ้น คะแนนสะสมรายมาตรฐานมีค่าสูงขึ้น(แบบทดสอบที่ครูผู้สอนวิทยศาสตร์สร้างขึ้นเอง)
ภาพที่มองได้เองภายในว่าดีขึ้นแล้วภาพที่ถูกมองจากภายนอกโดยสำนักทดสอบต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร ผลระยะที่ ๒ และ ๓ ก่อนสิ้นปีจะรายงานเป็นระยะ เพื่อการพัฒนาปรับปรุง
ขอสมาชิกร่วมกันเสนอแนะ เผื่อจะได้แนวทางในการยกผลสัมฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
หัวหน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสตร์
อ่านบทความแล้ว ดูภาคภูมิใจกับผลงานครูวิทย์จังเลย