sha-รพ.หนองจิก
โรงพยาบาลหนองจิก จังหวัดปัตตานี

มีใจ...ให้ใจ...เข้าใจ...ด้วยใจ


ถ้าเรามีเจตนารมณ์ที่ดี มีความบริสุทธิ์ใจที่จะทำจริงๆ สักวันพระเจ้าคงจะให้โอกาสเรา

มีใจ...ให้ใจ...เข้าใจ...ด้วยใจ                         

                                 ปัทมาวาตี มะอิง .... นักจิตวิทยา

                                                                                                                                                                                                                            โรงพยาบาลหนองจิก  ปัตตานี

          ดิฉันเป็นนักจิตวิทยา โรงพยาบาลหนองจิก ซึ่งรับผิดชอบงานเยียวยาฟื้นฟูจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ จังหวัดชายแดนภาคใต้และงานสุขภาพจิต ทั้งงานประเมินสุขภาพจิต งานให้คำปรึกษา สุขภาพจิตศึกษา การช่วยเหลือคนไข้ด้วยเทคนิควิธีการต่างๆที่ได้รับการอบรมจากกรมสุขภาพจิต ดิฉันเรียนจบคณะศึกษาศาสตร์ เอกจิตวิทยาการแนะแนว มหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งดิฉันไม่ได้เรียนจบทางด้านจิตวิทยาคลินิก ตอนที่ดิฉันเรียนอยู่ ดิฉันคิดอยู่ตลอดเวลาว่า จะทำอย่างไรดีน่ะดิฉันถึงจะได้มีโอกาสทำงานในโรงพยาบาล เพราะดิฉันเป็นคนที่ขี้สงสารและชอบช่วยเหลือผู้อื่นและทุกครั้งที่ดิฉันได้มีโอกาสเข้าโรงพยาบาล ได้เจอแพทย์ พยาบาลที่พูดจาไพเราะ ใจดี ดิฉันก็รู้สึกประทับใจและมีความสุขและคิดว่าคงเป็นเรื่องที่ดีมากถ้าดิฉันจะทำให้ผู้อื่นมีความสุขบ้าง บุคลิกของดิฉันจะเป็นคนชอบฟัง ชอบแนะนำ ให้คำปรึกษาผู้อื่นมากกว่าที่จะพูด บรรยาย หรือสอนให้ผู้อื่นฟัง ชอบความเป็นส่วนตัวที่มีการพูดคุยกันสองคน มากกว่าที่จะพูดให้คนเยอะๆฟัง จึงคิดว่า เอ๊ะ...จะทำอย่างไรดีน่ะ มันต้องมีหนทางซิ จนดิฉันมีโอกาสได้เจอนักจิตวิทยาท่านหนึ่งซึ่งเป็นรุ่นพี่โรงเรียนของดิฉันซึ่งเขาทำงานอยู่ที่ศูนย์สุขภาพจิตที่ 15 และตอนนั้นหน่วยงานนี้ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์  ดิฉันได้ระบายให้พี่เขาฟังว่า ดิฉันอยากเรียนรู้งานในโรงพยาบาล อยากทำงานช่วยเหลือคนไข้ พี่เขาจึงช่วยประสานไปที่กลุ่มงานจิตวิทยา โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับ ตอนที่ดิฉันรู้ดิฉันรู้สึกดีใจมาก ดีใจอย่างบอกไม่ถูก เฝ้าคอยนับวันที่จะถึงวันหยุดภาคเรียน เพื่อจะได้ไปฝึกงาน และคิดว่าแม้จะเป็นช่วงเวลาแค่เพียง 1 เดือน แต่มันก็น่าจะทำให้ความฝันของดิฉันเป็นจริงบ้าง

 และแล้ว...พรุ่งนี้แล้วซิน่ะ คืนนั้นดิฉันนอนหลับฝันดี แต่แล้วเวลา 2.00 น. พัดลมห้องพักของดิฉันไฟไหม้ ดิฉันรีบวิ่งออกไปหาน้ำมาดับไฟ ไฟได้ลุกไหม้โดนเสื้อผ้าที่ดิฉันแขวนอยู่ และผนังห้องดิฉันไหม้ลุกเป็นไฟและไหม้ตรงที่ประตู     ดิฉันพยายามวิ่งออกมาเรียกน้องสองคนที่นอนอยู่มุมรับแขก ซึ่งอยู่ถัดไปอีกห้องหนึ่ง พวกเราช่วยกันดับไฟ เมื่อดับได้ก็ออกมาที่ถนนหน้าบ้านซึ่งมีไฟสาธารณะอยู่ เสื้อผ้าของพวกเรามอมแมม และทุกคนหันมามองหน้ากัน ทันใดนั้น ก๊าก....ก๊าก... หัวเราะกันสุดเสียง ต่างคนต่างหน้าดำปิ๊ดปี๊เห็นแต่ฟัน แม้ตอนนั้นดิฉันจะรู้สึกขำแต่ในใจของดิฉันกลับคิดว่า

เฮ้อ...พรุ่งนี้ดิฉันอดไปฝึกงาน เพราะไม่มีอะไรติดตัว ทั้งเงิน กระเป๋า เสื้อผ้า จนผ่านไป 2 วันดิฉันได้ไปที่กลุ่มงานจิตวิทยาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆปนความสำนึกผิด  ขอโทษนะคะที่ไม่ได้มาวันรายงานตัว พอดีบ้านเช่าที่หนูอาศัยอยู่ไฟไหม้ค่ะ  แต่แล้วพี่ๆก็ยิ้มและบอกว่าไม่เป็นไรจ๊ะ ไปจัดการธุระของหนูให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาก็ได้ พี่ๆใจดีกับดิฉันมาก และได้ให้โอกาสดิฉัน ให้ความเป็นมิตร ความอบอุ่น จนดิฉันได้ฝึกงาน ได้เรียนรู้งานแม้อาจจะเป็นความรู้ที่ไม่ลึกเท่ากับนักจิตวิทยาคลินิก แต่การที่ได้เข้าไปช่วยพี่ๆประเมินสุขภาพจิต การได้เข้าไปช่วยพี่ๆพูดคุย ให้คำปรึกษาคนไข้ที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งดิฉันมีหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษามลายู ดิฉันก็รู้สึกมีความสุข  ซึ่งคนไข้จิตเวชที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ การที่ดิฉันได้เข้าไปพูดคุยกับเขา เขาก็รู้สึกดีใจมาก ซึ่งคนไข้คนหนึ่งได้บอกว่าลุงดีใจมากที่ได้เจอคนบ้านเดียวกัน (หมายถึงมาจาก 3 จังหวัดเหมือนกัน )มีคนคอยพูดคุยและเข้าใจลุง   และเขาได้เล่าเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา และถามดิฉันว่าเคยไปเที่ยวแถวบ้านเขาหรือเปล่า ที่ 3 จังหวัดเป็นอย่างไรบ้าง เขาคิดถึงภรรยาและลูก และบ่นน้อยใจอยากให้ญาติมาเยี่ยมเขาบ้าง ซึ่งบางคนญาติพามาส่งแค่เพียงวันแรกเท่านั้นหลังจากนั้นก็ไม่มาดูดำดูดีอีกเลย ดิฉันได้พูดคุย ปลอบใจ ให้กำลังใจ โดยคิดว่าเขาเปรียบเสมือนญาติพี่น้อง คนหนึ่ง ของดิฉัน เวลาที่เขารับฟังด้วยท่าทีเป็นมิตร และเขาสามารถยิ้มกับคำพูดของดิฉัน ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจเหลือเกิน   การที่ดิฉันได้ผ่านการฝึกงานตรงนั้นแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นแต่มันก็ทำให้ดิฉันรู้สึกภูมิใจมาก เป็นประสบการณ์ที่นึกถึงทีไรก็ทำให้ดิฉันยิ้ม และคิดว่าถ้าเรามีเจตนารมณ์ที่ดี มีความบริสุทธิ์ใจที่จะทำจริงๆ สักวันพระเจ้าคงจะให้โอกาสเรา จนดิฉันได้เรียนจบ ได้แต่งงานและอยู่เป็นแม่บ้านของสามีเพราะหลังจากที่ดิฉันแต่งงานไปไม่กี่เดือน ดิฉันได้ตั้งครรภ์และเกิดอาการแพ้ท้องอย่างมาก จึงถือโอกาสพักผ่อน หลังจากที่ผ่านชีวิตเล่าเรียนและชีวิตแต่งงานมา จนพี่นักจิตวิทยาคนเดิมนั่นแหละเจอดิฉันด้วยความบังเอิญและได้บอกว่ามีการรับสมัครนักจิตวิทยา ประจำโรงพยาบาลต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ดิฉันได้ผ่านการสอบแข่งขัน 1 ใน 74 ราย และได้บรรจุเป็นพนักงานราชการของกรมสุขภาพจิตและดิฉันได้เลือกลงที่โรงพยาบาลหนองจิก เพราะคิดว่าอยู่ใกล้บ้านมากที่สุด โดยที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นแม้กระทั่งป้ายโรงพยาบาล  จนดิฉันได้เข้าไปทำงานจากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมา 2 ปี แล้วที่นี่ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น แต่สิ่งที่ดิฉันรู้สึกประทับใจมาก คือการที่ดิฉันได้มีโอกาสเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ตอนที่ดิฉันได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านใหม่ๆ ผู้ได้รับผลกระทบมีสีหน้าที่เป็นทุกข์เศร้าหมองและได้เล่าเหตุการณ์ความสูญเสีย พร้อมทั้งระบายความรู้สึกต่างๆ ที่ทนทุกข์ทั้งการที่ต้องอยู่โดยปราศจากผู้นำครอบครัว การที่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง การที่ต้องรับผิดชอบดูแลปากท้องของครอบครัวด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อเทียบกับดิฉันที่มีสามี มีรายได้ มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ดิฉันรู้สึกสงสารมาก แม้ว่าตัวดิฉันเองต้องสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุ 15 ปี แม่ต้องเลี้ยงลูก 4 คน ตามลำพัง แต่การจากไปของพ่อของดิฉันคือการจากไปเพราะโรคเบาหวาน ครอบครัวของดิฉันทำใจยอมรับกับการจากไปของพ่อมาก่อน แต่พวกเขาต้องสูญเสียสามี สูญเสียพ่อโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว โดยที่ไม่มีโอกาสได้ทำใจล่วงหน้าเหมือนอย่างดิฉัน ดิฉันรู้สึกเห็นอกเห็นใจ และคิดว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ไม่ใช่การที่เอาของไปให้เขา หรือ บอกเขาว่าเราเข้าใจเขา แต่เป็นการที่เราจะต้องรับฟังเขาอย่างเต็มใจและคอยเป็นกำลังใจให้เขา ในฐานะที่ดิฉันก็ผ่านการสูญเสียมาแม้อาจจะเป็นเสี้ยวหนึ่งของเขา ผ่านความลำบากมาจากที่เราเป็นคนที่เคยมีมากพอ ต้องเปลี่ยนเป็นไม่มีเพราะขาดเสาหลักครอบครัว การแสดงออกถึงความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจที่มาจากความบริสุทธิ์ใจ เป็นสิ่งที่จะทำให้เขารู้สึกดี แม้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดจะต้องมาจากตัวของเขาเอง แต่เราขอเป็นเพียงผู้ที่จะร่วมช่วยเหลือเขาให้ผ่านจุดนี้ไปได้ ดิฉันโชคดีมากที่มีโอกาสได้ทำงานกับพี่เลี้ยงที่เป็นคนมีความตั้งใจ มุมานะ และมีความคิดที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอย่างแท้จริงซึ่งในจิตใจของเขามีความคิดที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบอยู่ตลอดเวลา และทุกครั้งที่เขาทำเขาจะทำด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ โดยยอมที่จะเสียสละเวลา สละแรงกายแรงใจ โดยไม่หวังผลตอบแทน เขาเป็นแบบอย่างของดิฉัน เวลาที่มีเคสผู้ได้รับผลกระทบ ทีมสหวิชาชีพประกอบด้วย พยาบาล นักจิตวิทยา อสม. เจ้าหน้าที่อนามัย เราจะลงไปเยี่ยมบ้าน แม้ว่าที่แห่งนั้นจะเป็นพื้นที่สีแดงแค่ไหน แม้ว่าถนนหนทางจะลำบากเท่าไหร่ ดิฉันเป็นคนชอบเมารถ บางครั้งดิฉันก็เวียนศรีษะ อาเจียนเพราะถนนหนทางบางพื้นที่ไม่ต่างจากการขี่ม้าเลย ทำให้ร่างกายของดิฉันรู้สึกเหนื่อยแต่แปลกที่เมื่อถึงบ้านผู้ได้รับผลกระทบทีไร ความรู้สึกเหนื่อย เวียนหัว ของดิฉันจะดีขึ้นหรือบางทีดิฉันลืมไปเลยว่าดิฉันกำลังเมารถอยู่ อาจเป็นเพราะใจของดิฉันเป็นห่วงผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า และอยากแสดงสีหน้าที่มีความสุขและเต็มใจที่ได้มาเยี่ยมเขา และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเยี่ยมบ้าน ดิฉันกับทีมก็มีความรู้สึกอยากจะไป โดยที่ไม่ได้คำนึงว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อนึกถึงการเยี่ยมบ้าน จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเป็นวันแห่งการเยี่ยมบ้านผู้ได้รับผลกระทบที่ดิฉันจะไม่มีวันลืมเลย วันนั้นดิฉันมีเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว  ซึ่งดิฉันมาทำงาน ภายนอกดิฉันแสดงออกต่อหน้าคนอื่นว่าไม่เป็นอะไร แต่ภายในดิฉันกลับทุกข์ทนใจและคิดอยู่ตลอดเวลา จนเพื่อนร่วมงานของดิฉันได้บอกว่าวันนี้จะต้องไปเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดมัสยิด ที่โรงพยาบาลปัตตานี ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ออกเดินทางจนถึงหน้าห้องพิเศษห้องหนึ่ง ลึกๆใจของดิฉันก็ยังคิดเรื่องไม่สบายใจนั้นอยู่ จนวินาทีที่ดิฉันได้ก้าวเข้าห้องพิเศษห้องนั้น เห็นภาพผู้ชายวัยกลางคนท่านหนึ่ง ขาของเขาขาดทั้งสองข้างและถูกพันด้วยผ้าพันแผล ในใจของดิฉันคิดว่า โอ้โห...ถึงขนาดขาขาดทั้งสองข้างเลยหรอ แต่เมื่อดิฉันมองใบหน้าของเขา เขากลับมีใบหน้าที่สดชื่นและมีรอยยิ้มให้ดิฉันและทีมงาน ดิฉันได้เข้าไปประเมินสุขภาพจิตของเขา ผลการประเมินปรากฏว่าอยู่ในระดับปกติ ทั้งๆที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญมาเพียงไม่กี่วัน ดิฉันมองหน้าเขาด้วยสีหน้าแห่งความแปลกใจปนกับความรู้สึกชื่นชมเขา เขาบอกดิฉันว่ามันเป็นบททดสอบของพระเจ้า เราต้องยอมรับความจริงและอดทน ดิฉันรู้สึกซึ้งและชื่นชมเขามากเมื่อหันมามองตัวดิฉันเอง แค่เรื่องเล็กน้อยบางครั้งดิฉันก็เก็บมาคิด จนทำให้ไม่สบายใจ ดิฉันซึ้งแต่พยายามยิ้มและกลั้นน้ำตาเอาไว้ กลับไปวันนั้นดิฉันต้องขอบคุณคุณลุงท่านนั้นเป็นอย่างมาก ที่ทำให้ดิฉันคิดได้ว่าขนาดคนที่เขาพบเจอเรื่องเลวร้ายและสูญเสียมากกว่าเรา เขายังอดทนและยอมรับได้ด้วยจิตใจที่สงบ ทุกวันนี้เวลาที่ดิฉันมีปัญหาดิฉันจะนึกถึงคุณลุงผู้ได้รับผลกระทบท่านนั้นและมักจะเล่าความซึ้งใจ ความประทับใจและบทเรียนเรื่องนี้ให้ผู้อื่นเสมอ ซึ่งการที่มีโอกาสได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบไม่ใช่ว่าเราจะเป็นผู้ให้และเขาจะเป็นผู้รับเพียงอย่างเดียว แต่เราและเขาเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ  ให้ใจ ให้ความรัก ให้ความสุขและความดี

เมื่อผู้ได้รับผลกระทบได้รับการเยียวยาจิตใจ จากการประเมินสุขภาพจิต การเยี่ยมบ้าน การดูแลจิตใจจนมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น สำหรับผู้สูญเสียสามีอันเป็นที่รักจากสถานการณ์ฯ จะมีการรวมกลุ่มเข้าชมรมสตรีสายสัมพันธ์  ซึ่งก่อนหน้าที่ดิฉันจะมาทำงานที่นี่ ทางศูนย์เยียวยาฟื้นฟูสุขภาพจิต โรงพยาบาลหนองจิกได้มีการก่อตั้งชมรมสตรีสายสัมพันธ์ ซึ่งเป็นชมรมที่มีการรวมตัวของสตรีที่สูญเสียสามีจากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ ในอำเภอหนองจิก ซึ่งดิฉันรู้สึกชื่นชมพี่ๆที่ได้ก่อตั้งขึ้นมา เพราะชมรมนี้ได้ให้โอกาสสตรีผู้สูญเสีย ทั้งได้รับการประเมินสุขภาพจิต  การทำกลุ่มบำบัด การผ่อนคลายความเครียดด้วยเทคนิคต่างๆเช่นการทำสมาธิ การฝึกหายใจ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ PSYCHO SUPPORT ได้รับความรู้ สุขภาพจิตศึกษา และ ได้ฝึกอาชีพ รวมทั้งมีการทัศนศึกษา และการทำกิจกรรมร่วมกับลูก และปัจจุบันก็ได้ก่อตั้งชมรมต้นกล้า พาแม่ สู่ฝัน ซึ่งเป็นชมรมเด็กกำพร้า ที่มีการดูแลสุขภาพจิต การทำกิจกรรมต่างๆ เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์รวมทั้งเด็กๆได้มีรายได้ด้วย เช่น การสกรีนเสื้อ การทำเข็มกลัด  ซึ่งเวลาที่เด็กทำกิจกรรม เด็กๆดูมีความสุขมากเพราะได้เจอเพื่อนๆ ที่มีหัวอกเดียวกัน เข้าใจกัน ซึ่งเป็นการผ่อนคลายความเครียดของเด็กๆ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ รอยยิ้มของผู้ป่วย ผู้ได้รับผลกระทบ และญาติมิตร ดิฉันรู้สึกมีความสุขมาก

มีความสุขที่ดิฉันได้มีโอกาสทำงานที่ดิฉันมีใจ

ใจที่รักการช่วยเหลือและทำงานด้วยการให้ใจ

คอยรับฟัง พูดคุย อยู่เป็นเพื่อนด้วยความเข้าใจ

ไม่หวั่นต่ออุปสรรคอันตราย เข้าถึงผู้ป่วยด้วยใจ

ใจที่นึกถึงศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์

คำสำคัญ (Tags): #sha
หมายเลขบันทึก: 297420เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2009 12:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2012 16:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • สวัสดีค่ะ ทีมงานส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลหนองจิก
  • ขอชื่มชมในงานที่ดี ๆ ที่มาเล่าให้สังคมได้รับรู้
  • เราในฐานะผู้ให้บริการ เราต้องคิดในสิ่งที่นอกเหนือหน้าที่อยู่เสมอ ความรัก ความเอื้ออาทร ต่อเพื่อนมนุษย์ยังเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือความห่วงใย ....

พี่จะคอยเป็นกำลังใจให้น้องเด๊ะนะจ๊ะ...รักพี่ป๊ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท