กระดาษเงินกระดาษทองไฮเทค
กระดาษเงินกระดาษทองไฮเทค
ทันทีที่ลมหายใจสุดท้ายของบุคคลอันเป็นที่รักสิ้นสุดลง พิธีกรรมหลังความตายของลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนก็เริ่มต้นขึ้นด้วยพิธีบรรจุศพในโลงจำปาเพื่อนำไปทำพิธีศพแบบจีนต่อไป การจัดงานศพแบบจีนนิยมจัดงาน 7 วัน โดยช่วงค่ำของ 5 วันแรก เป็นการสวดพระอภิธรรมศพ ที่ผสมผสานกับงานศพแบบไทยๆจนกระทั่งวันที่ 6 ซึ่งนับว่าเป็นวันสำคัญที่สุด เพราะลูกหลานจะร่วมใจกันทำ “พิธีกงเต็ก” ตามความเชื่อที่ว่าจะช่วยส่งวิญญาณของบรรพบุรุษไปสู่สรวงสวรรค์ พิธีกงเต็กมีรูปแบบแตกต่างหลากหลายตามความเชื่อของลูกหลานชาวจีนหลายเชื้อชาติ แต่ที่ทำกันมากที่สุดในประเทศไทยคือพิธีกงเต็กแบบจีนแต้จิ๋ว พิธีกงเต็กนี้ลูกหลานทุกคนจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียกว่าชุดกระสอบเพื่อเข้าพิธีเปิดด่านซึ่งเป็นการบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์และนำวิญญาณของผู้ตายมาร่วมพิธี จะมีการสวดมนต์ตลอดทั้งเช้าบ่ายเพื่อเป็นการส่งบุญบารมีและขอขมากรรมแด่สรรพสิ่งในโลกให้ผู้ตาย โดยพิธีการที่สำคัญที่สุดของการทำกงเต็กนี้จะอยู่ในช่วงเย็นซึ่งเป็นการทำพิธีข้ามสะพาน ลูกหลานทุกคนจะพาดวงวิญญาณของผู้ตายที่กลับมาร่วมพิธีกงเต็กไปส่งยังอีกภพหนึ่งและมีการการเผาเครื่องกระดาษกงเต็กหรือเครื่องกระดาษซึ่งจำลองข้าวของเครื่องใช้ของผู้เสียชีวิตเพื่อเผาไปให้ผู้เสียชีวิตได้ใช้ในภพใหม่ ที่มีทั้งกระดาษเงินกระดาษทองและสิ่งของจำลองต่างๆ ทั้งบ้านหลังใหญ่ รถ หรือแม้แต่ผู้รับใช้ ซึ่งเชื่อกันว่า ทุกสิ่งที่ถูกเผาไป จะทำให้ผู้ตายอยู่อย่างสุขสบายในชาติภพหน้า
ส่วนประวัติที่มาของการเผา กระดาษเงินกระดาษทอง แท้ที่จริงเริ่มมาจากรัชสมัย พระเจ้าลังไท่จง (พ.ศ. 1170-1193) แห่งราชวงศ์ถัง เนื่องมาจากพระองค์พึ่งขึ้นครองราชย์ใหม่จึงทรงเกรงว่าบ้านเมืองจะไม่สงบเรียบร้อย อัครเสนาบดีเว่ยเจิงจึงถวายอุบายว่า ขอให้พระองค์ทรงทำเป็นว่าป่วยหนักแล้ววิญญาณได้ไปท่องเที่ยวในนรกและได้ถูกพวกผีเปรตมากมายห้อมล้อมและวิงวอนให้พระองค์ทรงโปรดสงเคราะห์ช่วยเหลือ พระองค์ได้รับปากว่ารอให้กลับเมืองมนุษย์ก่อนแล้วจะหาวิธีส่งเงินทองไปให้พวกเขา ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงได้แนะนำส่งเสริมให้ประชาชนเผากระดาษเงินกระดาษทองสงเคราะห์พวกเปรต โดยมีเหตุผลประการที่ 1 คือเป็นการเพิ่มงานอาชีพและรายได้แก่ประชาชน เหตุผลประการที่ 2 ทำให้ประชาชนรู้ว่านรกมีจริง บาปบุญคุณโทษมีจริงเป็นการเตือนสติไม่ให้ประชาชนกระทำผิดกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าว จึงส่งเสริมการเผากระดาษเงินกระดาษทองและประชาชนต่างก็เชื่อคิดว่าเป็นความจริง จึงไม่กล้าทำบาปทำชั่ว บ้านเมืองจึงเกิดความร่มเย็นสงบสุขนับแต่นั้นมา
นอกจากนี้ที่มาอีกประการมาจากการที่ชาวจีนเชื่อกันว่า เมื่อตายไปแล้วจะไปยังอีกภพโลกหนึ่งเรียกว่า "อิมกัง" ดังนั้นลูกหลานจึงต้องส่งเงินทองไปให้ เพื่อแสดงความกตัญญู ด้วยการไหว้เจ้าแล้วเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ และการไหว้เจ้ายังเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลาน ให้มีความสุขความเจริญ ซึ่งกระดาษเงินกระดาษทองบางแบบใช้ไหว้เจ้า บางแบบใช้ไหว้บรรพบุรุษ กระดาษเงินกระดาษทองแบบที่ใช้ไหว้บรรพบุรุษ ได้แก่ กิมเตี๊ยวหรือกิมตุ้ง คือ แท่งทอง ใช้ไหว้บรรพบุรุษ, อิมกังจัวยี่หรือแบงก์กงเต็กเป็นกระดาษพิมพ์เป็นแบงค์ใช้ในภพภูมิซึ่งท้าวยมทูตเป็นผู้รับรองพระอินทร์ (เง็กเซียนฮ่องเต้) เป็นพระคลัง ใช้จ่ายในภพภูมิและไหว้ตามทาง ฉะนั้นบุตรหลานจึงมีการหาซื้อมาไหว้บรรพบุรุษของตนเองเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาพบบุตรหลานญาติมิตรที่เมืองมนุษย์ในเทศกาลจีนต่างๆ, อ่วงแซจิ่วหรือใบเบิกทางใช้เผาเป็นใบเบิกทางไปสวรรค์สำหรับผู้ตาย เป็นกระดาษสีเหลืองมีอักษรจีนสีแดงเป็นวงกลม ชาวจีนเชื่อถือว่าเป็นคัมภีร์ของโมกข์คลาสารีบุตรผู้ท่องแดนภพภูมิ 15 ชั้น เพื่อจะพบมารดาผู้ตกอยู่ในนรกภูมิและได้โปรดสัตว์ในนรกภูมิ 15 ชั้น, ตั่วกิมหรือค้อซี เป็นกระดาษสีส้มและมีสีทองตรงกลาง นำไปไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ส่วนมากจะพับเป็นเงินจีนสมัยโบราณ ดอกบัว หรือจะพับเป็นรูปต่างๆ เพื่อไหว้บรรพบุรุษก็ได้ เช่น พับเป็นกงจักร หรือ ม้วนเป็นทองแท่ง ถ้าพับเป็นเรือจะเรียกว่า "เคี้ยวเท่าซี" เชื่อกันว่าการพับเรือ จะได้มูลค่าสูงกว่าการพับอย่างอื่นใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง รวมทั้งไหว้คนตาย โดยเฉพาะพิธีทำกงเต๊ก ลูกหลานต้องพับค้อซีให้มากที่สุดเป็นกระดาษเงินกระดาษทองที่ญาติสนิทนำไปไหว้ผู้ตาย และโกวอีพิมพ์เป็นชุดไหว้สิ่งของเครื่องใช้ที่จัดเอาไว้สำหรับไหว้ผู้ที่เสียไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายจะมีเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับแยกชายหญิงต่างหาก
ซึ่งปัจจุบันผู้คนนิยมสั่งทำโกวอีพิมพ์ที่ทันสมัยมากขึ้น จากเดิมที่เคยเผาเฉพาะสิ่งของเครื่องใช้ประจำครัวเรือนกลับเปลี่ยนไปเป็นสินค้าหรูหราและของใช้ฟุ่มเฟือยมีราคาแพงต่างๆ ผู้คนเชื้อสายจีนในแถบประเทศเพื่อนบ้านต่างพากันผลิตกระดาษเงินกระดาษทองไฮเทคเพื่อใช้ในพิธีอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับ ด้วยหวังว่าผู้ที่อยู่ในอีกภพหนึ่งจะมีความเป็นอยู่สะดวกสบายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ข้าวของเครื่องใช้ที่แสดงถึงความมีฐานะ เช่น ชุดซุปหูฉลาม ชุดเครื่องประดับทองคำ ชุดสูท นาฬิกาแบรนด์เนม กระเป๋าหลุยส์วิกตอง เสื้อลาคอส รองเท้าแอดด้า กระเป๋าเดินทาง โซฟา ชุดที่นอน 6 ฟุต ตู้เซฟ หรือเครื่องใช้สมัยใหม่อย่าง หม้อหุงข้าว เตาไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า ตู้เย็นรุ่นใหม่แบบเปิด 2 ประตู เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ชุดเครื่องเสียงคาราโอเกะ ชุดโฮมเธียเตอร์ โทรทัศน์จอแอลซีดียี่ห้อโซนี่ เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค เครื่องแฟกซ์และถ่ายเอกสาร โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงรถสกู๊ตเตอร์ รถกระบะโตโยต้า รถเบนซ์ รถสปอร์ต เครื่องบิน กระทั่งคอนโดหรูหรือบ้านแบบวิลล่าหลายชั้นที่ทำด้วยกระดาษเสริมด้วยโครงไม้ไผ่ เป็นต้น เรียกว่ามีให้เลือกกันเป็นแคตาล็อคหรือจะเอาแบบของจริงมาสั่งทำกันเลยก็ได้ ซึ่งในบ้านเรามีสินค้าเหล่านี้ขายอยู่ที่ย่านพลับพลาไชย กรุงเทพฯ เป็นสินค้านำเข้าผลิตจากจีน แต่ก็สามารถสั่งทำได้เป็นกรณีพิเศษ ส่วนเรื่องของราคานั้นนับว่าถูกกว่าของจริงมาก ราคาของสินค้าแต่ละชิ้นจะถูกหรือแพงจะลดหลั่นกันไปตามราคาของสินค้าในโลกจริงบวกกับระยะเวลาในการผลิตชิ้นงานเนื่องจากบางชิ้นต้องใช้ความละเอียดและฝีมือเพื่อทำออกมาให้ใกล้เคียงของจริงมากที่สุดซึ่งต้องใช้เวลาทำนานทำให้มีราคาสูงตามไปด้วย
และกระดาษเงินกระดาษทองที่หรูหราที่สุดในบ้านเราเห็นจะเป็นกระดาษเงินกระดาษทองที่ใช้ในพิธีกงเต็กหลวงครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ซึ่งเป็นพิธีกงเต็กที่คณะสงฆ์นิกายจีนจัดถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยได้สร้างเป็นวังเลอดิสจำลองด้วยกระดาษขนาดกว้างคูณยาว 2x3 เมตร ประกอบด้วยพระตำหนักกลางมีความสูง 2 ชั้นฉาบทาด้วยสีขาวบริสุทธิ์ หลังคาสีฟ้าสะท้อนให้เห็นถึงความร่มเย็น อันเป็นตำหนักที่ใช้ประทับและบรรทม ห้องทรงอักษร ศาลาไทยกลางน้ำลายล้อมไปด้วยดอกบัวสีม่วงคอยเชิดหน้าอยู่เหนือพื้นน้ำเพื่อออกมารับแสงสว่างในยามแรกเช้า
ผลงานวัลเลอดิสจำลองนี้ไม่ได้นำเข้าแต่อย่างใด แต่เป็นผลงานของคุณประพันธ์ เผ่ามานะเจริญ หรือ “เฮียเล็ก” ผู้รับหน้าที่ประกอบเครื่องกระดาษวังเลอดิสจำลอง เฮียเล็กได้เติมรายละเอียดให้เหมือนจริงถึงขนาดรถยนต์พระที่นั่ง ยี่ห้อใดรุ่นไหนสีอะไร และพระตำหนักใดติดแอร์ยี่ห้อใดบ้าง รอบๆ วังเลอดิสยังมีไม้ใหญ่และดอกไม้บานสะพรั่งและที่ขาดไม่ได้คือสุนัขทรงเลี้ยงที่พระองค์ทรงโปรดนั้นจะมีอยู่ตามมุมต่าง ๆ ของวังเลอดิสจำลอง ให้ความรู้สึกเหมือนวังเลอดิสจำลองมีชีวิตชีวาได้ตามเสด็จฯไปเป็นที่ประทับแด่พระองค์ในสวรรคาลัยด้วย
นอกจากนี้ยังได้จำลองเฮลิคอปเตอร์ที่ประทับสำหรับใช้ในการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. ไว้ 1 ลำ และเรือยนต์พระที่นั่งอีก 1 ลำ โดยเฮียเล็กให้เหตุผลว่าทั้งสองอย่างนี้ล้วนเป็นสิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกคนเห็นกันจนชินตา ในการเสด็จออกไปเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. จึงต้องการทำขึ้นมาเพื่อให้พระองค์นำไปทรงใช้ในภพหน้า
ความเห็น (3)
ขออนุญาติติดรูปไว้ก่อนนะค่ะ
อยากทราบที่ขายบ้านกระดาษและรถที่ใช้สำหรับคนเสียว่าซื้อที่ไหนราคาถูกขอบคุณค่ะ
ร้านค้าย่านพลับพลาไชยเป็นแหล่งเลยค่ะ มีร้านขายตลอดทั้งสองฝั่งถนน
มีทั้งที่นั่งทำกันอยู่และชุดสำเร็จรูปที่นำเข้าจากจีนค่ะ ลองไปเลือกหาดูน่ะค่ะ