ภาวะผู้นำ สำคัญต่ออนาคตไทย
มนุษย์ต้องการผู้นำทุกระดับของชีวิต ทั้งในยามวิกฤตและในยามปกติ ซึ่งจะประกอบด้วย
1.ผู้นำในครอบครัว
บ้านเป็นหน่วยเล็กที่สุดของสังคม สังคมที่ดีจะต้องอาศัยผู้นำในครอบครัว ชีวิตในบ้านจะสมบูรณ์ต้องอาศัยพ่อบ้านและแม่บ้านที่ดี ผู้นำครอบครัวที่ดีต้องสามารถนำมาซึ่งความสุข 4 ประการคือ
1.ความสุขจากการมีทรัพย์ คือความอิ่มเอิบในการสามารถหาทรัพย์มาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียรของตน
2. ความสุขจากการจ่ายทรัพย์ คือความอิ่มเอิบในการใช้จ่ายทรัพย์ของตนโดยชอบในการเลี้ยงตนและครอบครัว และเกื้อกูลผู้ที่ด้อยโอกาส
3. ความสุขจากการไม่เป็นหนี้
4. ความสุขจากการประพฤติดีอยู่ในศิลธรรม
ผู้นำครอบครัวที่ดีต้องมีฆารวาสธรรม 4 คือ
1. สัจจะ ความจริง ความซื่อตรง ซื่อสัตย์
2. การควบคุมตน ปรับตัวและแก้ไขตน
3. การอดทน มีความหมั่นเพียร
4. การเสียสละเพื่อส่วนรวม ลดโลภะ
ผู้นำในครอบครัวต้องสนใจชีวิตที่เกี่ยวข้อง เช่นญาติมิตร ผู้ร่วมงาน ผู้ที่พึ่งพาอาศัยอยู่ในปกครอง ต้องนำครอบครัวไปสู่ความเจริญโดยอาศัยทางเดินแห่งชีวิตตามพุทธศาสนิกชน 8 ประการ คือ มรรค 8 นั่นเอง
2.ผู้นำในวัด
ผู้นำในวัดต้องทำหน้าที่เกื้อกูลชาวบ้านให้สมกับคำว่า “วัดงามเพราะมีชาวบ้านช่วย บ้านสวยเพาระมีวัดดัดนิสัย” ผู้นำในวัดมีหน้าที่ดังนี้คือ
1.สืบศาสนา
2.อนุเคราะห์ชาวบ้านให้มีศิล สมาธิ ปัญญา
3.หมั่นพิจารราตนเอง
3.ผู้นำในโรงเรียน
ผู้นำในโรงเรียนคือครู ซึ่งมาจากคำว่า “คุรุ” ซึ่งแปลว่าหนัก ดังนั้นครูจึงมีหน้าที่หนักมาก ที่จะทำอย่างไรให้ศิษย์นั้นดีกว่าครูให้จงได้
ครูเป็นกัลยาณมิตรต่อศิษย์ 7 ประการคือ 1)น่ารัก 2)น่าเคารพ 3).น่าเจริญใจ 4)สอนให้ได้ผล 5)อดทนไม่ถอย 6)สอนได้ลึกซึ้ง 7)ไม่ชักจูงไปในทางเสื่อม
ครูผู้นำต้องมีลีลาครบ 4 ประการคือ 1)ชี้ให้เห็นชัด 2)ชวนให้ปฏิบัติ 3)ปลุกให้กล้า 4) ปลุกให้ร่าเริง
4.ผู้นำในการงาน
ผู้นำในการงานคือคนที่สามารถนำหมู่ชนเละสังคมให้มีความสันติสุข ความสามัคคี และความรุ่งเรืองในชีวิต เป็นผู้มีคุณธรรมและคุณสมบัติ 7 ประการคือ
1.รู้หลักและรู้จักเหตุ อันประกอบด้วยหลักการและกฎเกณฑ์ของสิ่งทั้งหลาย มีความรับผิดชอบ
2.รู้จักความมุ่งหมายและรู้จักผล รู้ตำแหน่งหน้าที่
3.รู้จักตน มีความรู้ มีคุณธรรม ความสามารถ
4.รู้จักประมาณความพอดีในการบริโภคและการใช้จ่ายในการพูดและการปฏิบัติ
5. รู้จักกาลและเวลาอันเหมาะสม ว่าเวลาไหนควรทำอะไร ควรทำอย่างไร และให้ตรงต่อเวลาและตรงตามแผนที่กำหนดเวลา
6.รู้จักชุมชน การเข้าไปหาชุมชนตามระเบียบประเพณี ระเบียบวินัย วัฒนธรรมและความเชื่อถือของชุมชน
7.รู้จักบุคคล อัธยาศัย อุปนิสัย ความสามารถ และคุณธรรม ของแต่ละบุคคล
ที่มา : ข้อเขียนของ นายแพทย์เสม พริ้งพวงแก้ว ในหนังสือ ผู้นำ พิมพ์ครั้งที่ 7 สำนักพิมพ์ มติชน
จะเห็นว่าสังคมไทยจะเจริญรุ่งเรื่อง อยู่เย็นเป็นสุขหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้นำทั้ง 4 ประเภทนี้ และพวกเรา (บริหารการศึกษา)ส่วนมากในแต่ละบุคคลก็สวมหัวโขนแล้ว 3 ประเภท คือเป็นทั้งผู้นำในครอบครัว ผู้นำในโรงเรียนและผู้นำในการงาน ดังนั้นถ้าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้นำที่ดีก็จะมีส่วนช่วยให้สังคมที่เขาอยู่เป็นสังคมที่ดีได้เช่นกัน
แบบนี้เป็น
ผู้นำในดวงใจเลยนะคะ
น่ารัก
- ไม่ว่าสังแบบคมไหน ๆ ก็ยังคงต้องการผู้นำคะ
- แต่ผู้นำที่จะถูกใจลูกน้องนั้นหายากคะ เพราะว่าคนแต่ละคนนั้นย่อมมีสิ่งที่แตกต่างกันไป ดังนั้น จึงต้องยอมรับนะคะว่าการปฏิบัติงานร่วมกันเราต้องรู้จักถ้อยที ถ้อยอาศัยกันคะ
น่าทบทวนถึงภาวะผู้นำในบ้านเมืองเราเนอะ
สิ่งที่พวกเขาขาดเป็นอย่างยิ่งคือในเรื่องของความ ซื่อสัตย์
ถือว่าเป็นศูนย์รวมหลักทั้งหมดของการทำงาน
ดีจังเลยนะครับเรื่องนี้
แจ๋วจริงๆพี่สาว สำหรับบทความนี้
เป็นหลักการเป็นผูนำที่ควรนำไปปรับใช้ได้ดีในสังคมปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยยำเตือนการเป็นมนุษย์อย่างมีคุณภาพได้ด้วยค่ะ
หาบทความที่เกี่ยวกับภาวะผู้นำที่ดีต่ออนาคตของโรงเรียนประกอบกับด้วยนะครับเพระตอนนี้กำลังประสบเจอกับตัวเองอยู่...ภาวะผู้นำที่ด้องเก็บอารมณ์ รู้จักการอดกลั้นต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่มากระทบต่อตัวเองเพราะงานบ้างอย่างต้องอาศัยผู้ปฏิบัติงาน..........ภาวะผู้นำที่ดี.....คือ......การเห็นครูเป็นผู้ร่วมองค์กรของตัวเองอย่าเห็นว่าครูเป็นลูกน้องการทำงานทำอย่างไรก็ไม่ได้ใจเขาหรอกว่าไหมพี่เอ..............
สุขใจ ที่ได้อ่าน ผู้นำคือผู้ที่ทำให้คนธรรมดาเป็นคนเหนือคน