Seek & Advice :: 5 ความเชื่อผิดๆ ริดรอนประสิทธิภาพการทำงาน



บทความนี้แปลและเรียบเรียงจาก
5 beliefs that limit productivity—and how to overcome them,Sally McGhee,

นี่คือความเชื่อที่หลายท่านอาจประสบอยู่ทั้งกับตัวเองและเพื่อนร่วมงานของท่านเอง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านพบแนวทางการแก้ปัญหานี้ได้ต่อไป

 

ปัญหา


1. มีข้อมูลมากมายส่งมาถึงเมล์บ๊อกของฉัน

ความเชื่อ :
อีเมล์เยอะเหลือเกิน เกินจนจะรับไหว ประมาณว่าคุณจะถูกอีเมล์ค้างปีเขมือบหายไปได้ทั้งตัว

ความจริง :
คุณขาดความคิด และระบบการจัดการเมล์ที่ดี ทั้งนี้คุณอาจตอบรับเป็นสมาชิกจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือเว็บไซท์อื่นๆที่เคยทิ้งอีเมล์ให้ การจัดการที่ดีจะอยู่ในหัวข้อ
4 วิธีการจัดการกล่องขาเข้า ซึ่งจะเขียนให้อ่านอีกครั้ง(ถ้าไม่ลืมหรือขี้เกียจนะคับ)เชื่อว่าหากทำตามแล้วจะลดจำนวนเมล์ที่เข้ามาอย่างท่วมท้นได้กว่า 80%

==============================================

ปัญหา:

2.ผู้ใช้เครื่องคอมเก็บข้อมูลเยอะมาก

ความเชื่อ :
เก็บๆไว้ก่อนเถอะน่าข้อมูลน่ะ เผื่อจะเอามาใช้สักวันนึง

ความจริง :
เราๆ ท่านๆเองก็กังวลกันว่าข้อมูลที่เก็บอยู่นี้ อาจถูกเรียกใช้เข้าสักวัน
จึงไม่กล้าที่จะลบทิ้ง และโดยมากมักจะเรียกให้ดูดีด้วยคำว่า
"นี่ฉันไม่ได้เก็บข้อมูลอย่างไร้ค่านะ ฉันกำลังสำรองข้อมูลอยู่ต่างหาก"

และบางท่านอาจคิดว่ามันดูดีที่ท่าน "มี" ข้อมูลในสิ่งที่คนอื่นๆ "ไม่มี"
ข้อนี้ผมยอมรับ ใครบ้างอยากเป็นไอ้งั่ง ไม่เอาไหนไปตลอดชีวิต
ขอเพียงเป็นฮีโร่ในแวดวงที่ทำงานสัก 5 นาที 10 นาทีก็ยังดี

แต่ทั้งนี้ปัญหานี้มีสาเหตุหลักอย่างหนึ่งคือ...
ไม่แน่ใจว่าจะกำจัดข้อมูลขยะอันไหนดี และที่ร้ายยิ่งกว่าคือ
ไม่รู้ว่าข้อมูลอันไหนที่เป็นขยะ

หากท่านยังมีพฤติกรรมเช่นนี้ผมขอเรียกว่า บ้าหอบฟาง เอ้ยไม่ใช่ๆ บ้าหอบไฟล์ครับ
จากบทความอ้างว่า เพียง 15 % เท่านั้นที่ข้อมูลเราใช้งานเป็นประจำ
นั้นหมายถึงอีก 85% ไม่ได้ใช้งานให้เกิดประโยชน์อะไรเลย
แล้วจะให้ทำอย่างไรน่ะเหรอ ง่ายมากครับ


มี แฟ้มข้อมูลอย่างพอเพียงไง 5555555


แต่ตลกหรือไม่ ที่สิ่งที่เราต้องการมักไม่อยู่ (ลบไปก่อนห้นานั้นแล้ว)
ผมตลกคับ หากเป็นเรื่องของคุณนะ

การลดจำนวนข้อมูลของคุณจะช่วยให้การเข้าถึงและค้นหาข้อมูลที่ต้องการสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ภาษาบ้านๆเรียกว่าไม่หนักฮาร์ดไดรว์

================================================

ปัญหา :

3.งานหนัก จะเอาเวลาไหนมาสร้างสรรค์งาน

ความเชื่อ:
พนักงานมักเหนื่อยหน่ายกับการทำงานที่หนักหนาสาหัส และคิดว่าสำนักงานใช้งานหนักมากเกินไป จนกระทั่งไม่มีเวลามากพอจะรังสรรค์งานใหม่ๆออกมาได้

ความจริง:
สำนักงานโดยมากต้องการให้พนักงานสร้างสรรค์งานของตนเองให้ดีอยู่แล้ว
ดังนั้นคำกล่าวอ้างนี้ผมเชื่อว่าอาจจะมีสัก 4/10 ที่เป็นไปตามความเชื่อข้างต้น

หากจะมาคุยกันเรื่องนี้ว่า อะไรที่เป็นสาเหตุจริงๆของความเหน็ดเหนื่อย
ปัญหาหนึ่งที่ผมหรือท่านเองก็ทราบดีแก่ใจนั่นคือ
การจัดระเบียบความคิดการทำงานและเรื่องส่วนตัวนั่นเอง
ไม่ว่าจะเรื่องที่บ้าน หรือเรื่องที่ข้องกับการทำงาน

ว่าแต่จะจัดระเบียบอย่างไร ?
เพียงคุณทำใจให้ว่าง สงบสติอารมณ์เสียก่อน
จากนั้นนำสิ่งที่ต้องทำที่อยู่ในหัวของคุณ
มาป้อนลงใน MS Outlook ที่ Task Pad
(ขายโปรแกรมกันเห็นๆครับพี่น้อง :| )

จากนั้นนำข้อมูลใน Tasks Pad นั้นไปใส่ที่ Calendar อีกครั้ง
เพื่อจัดตารางงานของท่านเอง
เท่านี้ท่านก็จะได้เห็นปฏิธินงาน และปฏีธินชีวิตของท่านแล้ว....


ปล.จะใช้โปรแกรมอื่นก็ตามแต่สะดวกนะครับ แต่เนื่องจากบทความนี้มาจาก Microsoft.com ดังนั้นโฆษนาแอบแฝงจะมีอีกเป็นระยะๆครับ


========================================

ปัญหา :
4.เวลาไม่พอทำงานในแต่ละวัน


ความเชื่อ :
พนักงานไม่มีเวลามากพอจะจัดการสิ่งต่างๆตามที่ต้องการ

ความจริง:
เวลาไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นคือการตัดสินใจว่าจะทำอะไร เวลาไหนต่างหาก

เราๆทราบดีว่าถึงแม้เราจะมีการจัดการเวลา ตารางเวลาจากข้อที่ผ่านมาแล้ว
แต่ก็ไม่ได้เพิ่มเวลาให้มากขึ้นหากยังคงทำงานวันละ 8 - 12 ชมต่อวันเท่าเดิม
จากบทความนี้ก็ยังคงแนะนำให้ท่านใช้โปรแกรม MS Outlook
เพื่อช่วยแก้ปัญหานี้เช่นเดิมครับแต่อย่างไรก็ตามผมขอเสริมว่า


ท่านควรกำหนด Priority ใน Task ที่ท่านสร้างใน Task pad
รวมถึงการจัดตารางงานของท่าน เพื่อท่านจะได้แน่ใจว่า
งานที่ทำอยู่นี้จำเป็นหรือไม่เพียงใด

=============================================

ปัญหา :
5.พนงปฏิเสธจะเรียนรู้การใช้เครื่องมือสนับสนุนการทำงาน


 

ความเชื่อ:
พนักงานไม่มีเวลามากพอจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพราะมีงานอะไรให้ทำเยอะเหลือเกิน


ความจริง:
ท่านควรมีเวลาวันละ 1-2 ชม เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ รวมถึงหัดใช้โปรแกรมด้วย

จากการสำรวจพบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว พนักงานใช้เวลา
2-3 ชมเพื่อการทำงานรวมถึงติดต่อเรื่องงานผ่านอีเมล์ และ
วันละ 1 ชมเพื่อการค้นหาและจัดการแฟ้มข้อมูล

แต่หากพนักงานใช้ MS Outlook  จะใช้เวลา
1-2 ชมเพื่อการทำงานรวมถึงติดต่อเรื่องงานผ่านอีเมล์ และ
วันละ 10 นาทีเพื่อการค้นหาและจัดการแฟ้มข้อมูล


ปล. Microsoft Outlook คือโปรแกรมสนับสนุนการทำงาน
และเป็นตารางงานอิเล็คทรอนิคส์ นอกจากนี้ยังเป็นโปรแกรมรับส่งอีเมล์ได้ด้วย
ผมเองได้ใช้อยู่นะครับ และค่อนข้างพอใจในการทำงานของโปรแกรม
คล้ายๆมีเจ้านายอีกคน มาคอยจี้ให้ไปทำงานตามนัดหมาย
หากท่านสนใจจะลองหามาใช้สักตัวก็ได้ครับ

ขอให้สนุกกับการทำงานครับ
ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน

 

หมายเลขบันทึก: 296723เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2009 03:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ น้องขวัญบทความน่าอ่านเนาะ รักพี่เสียดายน้อง เลยเป็นบ้าหอบไฟล์ ต้องวงเล็บ OK หลังชื่อไฟล์ เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง อิอิ

Microsoft Outlook ใช้ได้ดีจริงๆๆ จ้ะ อบรมมานานแล้วยังไม่ได้จัดการกับตัวเองสักที เอาไว้ก่อน รู้แต่ไม่ทำ นี่สิ อิอิ

สวัสดีครับพี่สุวรรณาไม่พบเสียนาน สบายดีใหมครับ

ส่วน ms outlook นี่ถ้าว่างแล้วลองใช้ดูครับ
ผมว่า 2007 พัฒนาขึ้นมาให้ใช้ง่ายกว่าเดิมเยอะเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท