มีความลับเรื่องหวัดมาเปิดเผย


คนที่นั่งติดอาม่า เขาไม่สบาย ไอจามเป็นระยะๆ หน้าซีด

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา อาม่าต้องเดินทางไปช่วยค่ายน้องออต ที่บ้านหว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ. มุกดาหาร ซึ่งจะต้องไปขึ้นที่ขอนแก่น โดยอม่าต้องนั่งรถทัวร์จากโคราช ซึ่งเป็นรถทัวร์ที่มาจากกรุงเทพ มาพักรถที่โคราช หากมีผู้โดยสารลง ก็สามารถเดินทางได้ จะว่าโขคดีหรือโชคร้ายก็ไม่ทราบมีคนลงสองคน มีคนขึ้นสองคน เราจึงนั่งได้ที่นั่งชั้นล่างที่ติดกั้น(เป็นรถสองชั้น) ตลอดการเดินทางสังเกตุเห็นว่าอาการ คุยกันไม่มากค่ะ ทราบว่าจะลงขอนแก่นเหมือนกัน

 การเดินทางครั้งนี้ประมาทไปหน่อย ไม่ไ้เตรียมหน้ากากอนามัยใช้ปิดจมูกปากไป คิดเพียงแต่ว่าเราไปทำความดีคงไม่โชคร้ายหรอก ถึงขอนแก่น ป้าหวานมารับ ไปกินอาหารค่ำ มีน้องบางทราย น้องออต และลูกสาวป้าหวานอีกสองคน กินอาหารมื้อค่ำเสร็จป้าหวานและน้องบางทราย มาส่งที่บ้านน้องชายที่เป็นปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น คุยกันสักพักต่างก็ล่ำลากัน น้องบางทรายจะมารับเพื่อเดินทางต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น เวลาประมาณ สามทุ่ม กำลังว่าจะเปิดบล็อกอ่านและ จะเขียนรายงานโปรแกรมเดินทางของวันใหม่ ก็ได้รับโทรศัพท์ ซึ่งใช้เวลาคุยตั้งแต่ สามทุมกว่าจน ถึงเกือบตีหนึ่ง กว่าจะอาบน้ำเข้านอนเกือบตีสอง ลืมเปิดแอร์ทิ้งไว้ก่อนเพื่อให้ห้องนอนเย็นสบาย วันนั้นทั้งๆที่ฝนตกก็ร้อนอบอ้าว จึงไม่อยากห่มผ้า ตื่นเช้าประมาณ ตี ห้า น้ำมูกไหลไม่หยุด ทั้งจามทั้งไอ(เลิฟยูเข้าแล้ว) เอาน่าแค่แพ้อากาศเอง ไม่มีอะไรหรอก เอาละซิ ไม่ได้เตรียมยาสมุนไพรติดตัวมาด้วย เมื่อรถมารับก็ออกเดินทางทันที่ ทั้งจามทั้งน้ำมูกไหลไม่หยุด รีบบอกน้องบางทรายพี่แพ้อากาศ เมื่อคืนนอนตากแอร์ไม่ห่มผ้า ผลก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่เป็ไร มื้อเที่ยงจะกินอาหารประเภทยำใส่หอมแดงหอมใหญ่เยอะๆ บีบมะนาวให้เปรี้ยวๆ โรยต้นหอมผักชีแต่ขอพริกเม็ดเดียว …อิอิอิ แป่ว….. วาสนาอักเสบ มื้อเที่ยงไปกินอาหารร้านเจ ลืมไปได้เลยอาหารยำที่ใส่หอมไม่มีแน่นอน เลยบอกน้องบางทรายพี่ต้องการซื้อยาค่ะ ขืนปล่อยไว้ แล้วไปเข้าข่ายใสภาพเช่นนี้ เห็นที่ค่ายแตกกระเจิงแน่ๆ ในที่สุดได้ยาสมุนไพรบรเพ็ดผสมฟ้าทะลายโจร กินหลังอาหารสองเม็ด จากนั้นไปที่ทำงานของน้องบางทรายต่อ จนเย็นมืดค่ำไปกินมื้อค่ำริมโขงไม่ผิดหวังมีปลาลูกเต๋าทอด กินกับยำมะม่วงเลยขอให้ใส่หอมแดงเยอะๆ นอกจากนั้นมีต้มยำปลาเนื้ออ่อน ผัดผักสมุนไพร ปลาแดดเดียว กินไปสักพัก ขอให้แม่ครัวช่วยซอยหอมแดงมาให้หนึ่งถ้วย เอามาผสมน้ำยำที่เหลือ กินจนหมดน้ำมูกหายไปแบบปลิดทิ้งทันที่ ซึ่งโล่งสบาย หลังอาหารเย็นก็กินยาสมุนไพรอีกสองเม็ด    คืนนั้นหลับสบายไม่อาการหวัดเลยแม้แต่น้อย ไม่มีน้ำมูก ไม่จาม ไม่ไอ ผิดกันราวหนังคนละม้วนกับเมื่อวาน โล่งใจไปที่ไปเข้าข่ายช่วยสอนเด็กเรื่องการออก กำลังกาย การมีสติ การรู้จักคิด การรู้จักถามหาคำตอบ รู้จักสังเกตุ รู้จักจดแล้วจำอย่าเป็นระบบ

สรุปแล้วอาม่าไม่สบายเป็นหวัด แต่อาม่าก็ใช้วิธีรักษาด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน ซึ่งได้ผลทันที่ นี่คือประสบการณ์ ที่อาม่าเป็นหวัดตอนไปช่วยค่ายน้องออตที่มุกดาหารเมื่อ 1-3 กันยายนที่ผ่านมา อาม่าปิดเป็นความลับเรื่องหวัด แค่บอกเพียงว่าแพ้อากาศ ไม่อยากให้คนอื่นตื่นตกใจ ที่อาม่าทำได้เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ อาม่าดูลแลสุขภาพมาตลอดค่ะ ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ได้สัดส่วนทุกมื้อ ออกกำลังกาย แล้วมีอารมณ์แจ่มใส ทำตัวสบายๆ ไม่เครียด หัวเราะพูดคุยได้ทั้งวันกับทุกๆ คนค่ะ

วันนี้จึงนำความลับเรื่องหวัดมาเปิดเผยค่ะ

หมายเลขบันทึก: 296635เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2009 21:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สมุนไรของอาม่า น่าสนใจดีจัง แต่ไม่ชอบรับประทานหอม ทำไงดี ทานแต่น้ำยำหรือต้มยำใส่หัวหอมแทนได้ไหมคะ

สวัสดีค่ะน้องใบบุญ เป็นคำถามน่าสนใจมากค่ะ

ทานแต่น้ำยำหรือต้มยำใส่หัวหอมแทนได้ไหมคะ คงทดแทนได้ระดับหนึ่งค่ะ ลองพิจารณาดูนะคะ เพราะถูกต้มและมีปริมาณน้อยกว่าในยำค่ะ ลองพยายามฝึกกินที่ละเล็กที่ละน้อยนะคะ หอมแดงเผ็ดน้อยกว่าพริกเยอะค่ะ อาม่ากินเผ็ดไม่ค่อยได้ ยังพยายามกินเลยค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์ อาจารย์ทานหอมแดงมื้อนั้นมากนะครับ

พันคำว่า ต้นหอมก็ไม่เลวครับ โดยเฉพาะที่สดๆเคี้ยวให้ละเอียดทั้งต้น ขึ้นจมูกเลยครับ

ขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท